MGR ออนไลน์ -- ประธานาธิบดีเปโตร โปรอชเชนโก (Petro Poroshenko) แห่งยูเครนได้ประกาศต่อสาธารณชนในช่วงข้ามวันมานี้ สั่งการให้กระทรวงกลาโหมกับกองทัพ ปรับระบบอาวุธยุทโธปกรณ์และพัฒนายกระดับคุณภาพของอาวุธทั้งหมด ให้เข้ากับมาตรฐานองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ ทั้งระบุว่านั่นคือมาตรฐานที่จะช่วยในการป้องกันประเทศ ร่วมในการสร้างความมั่นคงปลอดภัย ปกป้องยุโรปทั้งภูมิภาค ให้พ้นจากการรุกรานและการข่มขู่คุกคามจากศัตรู รวมทั้งชี้ให้เห็นว่า รถถัง T-64-120 ยาตากาน (Yatagan) ที่กองทัพนำออกแสดงเป็นครั้งแรกในพิธีสวนสนามวันเอกราชครบรอบปีที่ 27 วันศุกร์ที่ผ่านมา คืออีกตัวอย่างหนึ่งของทิศทางการปรับตัวที่ได้เริ่มขึ้นแล้ว
ปธน.โปรอชเชนโก ระบุดังกล่าวระหว่างปราศรัยในงานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ผลิตโดยยูโครโบรอนพรอม (Ukroboronprom) จัดขึ้นที่มิคายลอฟสกีสแควร์ (Mikhailovsky Square) กรุงเคียฟ (Kiev) เมื่อวันพฤหัสบดี 23 ส.ค. -- ซึ่งได้ให้คำตอบข้อสงสัยของบรรดาผู้สังเกตการณ์ หลังจากรัฐวิสาหกิจอาวุธยุทโธปกรณ์ของกระทรวงกลาโหม ได้ประกาศส่ง รถถังติดปืนใหญ่ 120 มม.มาตรฐานนาโต้คันแรกให้กองทัพ
มีรายงานเรื่องนี้ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของรัฐวิสาหกิจ ที่กำกับดูแลการผลิตและส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ ในสังกัดกระทรวงกลาโหม
คำปราศรัยของ ปธร.ยูเครน มีความหมายอยู่ในตัวว่า ต่อไปนี้บรรดาโรงงานและสถาบันออกแบบอาวุธยุทโธปกรณ์ภายใต้กระทรวงกลาโหม จะไม่มีการผลิตอาวุธชนิดใดตามมาตรฐานของค่ายโซเวียต-รัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นปืนใหญ่สนาม-ปืนใหญ่อัตตาจร ที่จะต้องเปลี่ยนคาลิเบอร์ รถถังที่จะต้องติดปืนใหญ่ 120 มม. อาวุธปล่อยนำวิถีหลายชนิด รวมทั้งจรวดโจมตีทั่วไปที่ไม่นำวิถี จะต้องเปลี่ยนขนาดให้เข้ากับระบบท่อยิงของตะวันตกได้
ในการสวนสนามวันศุกร์ที่ผ่านมากองทัพได้นำปืนใหญ่อัตตาจร 2S22 "บ็อกดาน่า" (Bogdana/ชื่อของหญิงสาว) ออกอวดเป็นครั้งแรกอีกด้วย -- นี่คือปืนใหญ่กระบอกแรกที่มีคาลิเบอร์เท่ากับของค่ายตะวันตก มาตรฐานนาโต้ ถือเป็นการตีจากครั้งสำคัญจากระบบปืนใหญ่ 152 มม.ของค่ายโซเวียต/รัสเซีย
.
"T-72AMT สายการผลิตของยูเครน ติดปืนใหญ่ 125 มม.มาตรฐานโซเวียต/รัสเซีย เช่นเดียวกันกับรถถังอื่นๆ ในครอบครัว T-64 กับ T-84 อีกหลายรุ่น ที่จะไม่มีการผลิตเพื่อใช้สำหรับกองทัพอีกแล้ว นอกจากทำส่งออก ยานเกราะทุกรุ่นจะต้องใช้มาตรฐานของโลกตะวันตก หรือไม่ก็จะต้องอัปเกรดให้สามารถเข้ากันได้กับระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ของนาโต้." |
.
แต่ใกล้ตัวที่สุดก็คือ คำปราศัยของ ปธน.ยูเครน แสดงให้เห็นว่าจะไม่มีการบรรจุรถถัง T-84 โอปล็อต-M ติดปืน 125 มม. รุ่นที่ผลิตขายให้แก่ไทย เข้าประจำการกองทัพ ตามที่เชื่อกันมาก่อนหน้านี้ -- นอกจากจะคงสายการผลิตเอาไว้เพื่อส่งออก ซึ่งหลายปีมานี้ยูเครนยังไม่สามารถหาลูกค้าได้อีกเลย นับตั้งแต่ผลิต 49 คันพร้อมรถสนับสนุน ให้แก่กองทัพไทยหลายปีก่อน และ เพิ่งส่งมอบล็อตสุดท้ายครบเต็มจำนวนได้เมื่อต้นปีนี้ -- ตั้งแต่นั้นมารถถังรุ่นนี้ถูกปฏิเสธจากหลายประเทศ รวมทั้งปากีสถานกับบังกลาเทศ ซึ่งทั้งสองประเทศต่างคุ้นเคยกับรถถังติดปืนใหญ่ 125 มม.ของค่ายรัสเซียเป็นอย่างดี เช่นเดียวกันกับเวียดนาม พม่า และ มาเลเซีย ในย่านนี้
"ยาตากาน (เป็นอาวุธที่) ได้รับการปรับปรุงสู่ระดับสูงสุด ให้เข้ามาตรฐานทางเทคนิคของนาโต้ เราต่างตระหนักกันดีว่าการสมัครเข้าร่วมกับพันธมิตรของยูเครนนั้น จะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อทำให้ระบบอาวุธของเราสามารถเข้ากันได้สำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ และ เรากำลังมุ่งไปในทิศทางดังกล่าว ซึ่งเป็นเหตุเดียวกันกับยานหุ้มเกราะต่างๆ ของเราในขณะนี้ ติดตั้งระบบการมองเห็น ระบบควบคุมการยิง และระบบความปลอดภัยต่างๆ ให้สื่อสารกันได้แบบดิจิตอล"
"ในวันนี้ (อาวุธ) ทั้งหมดทั้งในด้านความมั่นคงและการป้องกัน ล้วนได้มาตรฐานสูงสุดของโลก " นายโปรอชเชนโกกล่าว
ผู้นำยูเครนกล่าวว่า ที่ผ่านมาศัตรู (หมายถึงรัสเซีย) ได้เตรียมการอย่างพร้อมเพรียงและด้วยจุดประสงค์รุกรานอย่างเต็มที่ แต่ด้วยความกล้าหาญและรักบ้านเกิดของทหารกับขบวนการอาสาสมัครที่ทรงพลังอำนาจ พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัย ทำให้สามารถหยุดยั้งการก้าวร้าวรุกรานลงได้ทันเวลา
.
ปธน.โปรอสเชนโก ยังกล่าวถึงกระบวนการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพที่ผ่านมา ว่าเต็มไปด้วยความยากลำบาก -- ในฤดูร้อนปี 2557 ทหารจำนวนมากยังไม่มีเครื่องแบบ ยังต้องสวมชุดที่หาได้ทั่วไปแบบอาสาสมัคร ไม่มีการสนับสนุนยากับเวชภัณฑ์ต่างๆ ยานพาหนะไม่มีเชื้อเพลิงเพียงพอ จำนวนมากออกรบโดยไม่มีเสบียง ทุกอย่างเป็นภาระของทหารและอาสาสมัครทั้งหมด แต่สถานการณ์ในวันนี้แตกต่างโดยสิ้นเชิง
"นี่เป็นภารกิจที่ข้าพเจ้าได้มอบให้แก่กองทัพ ให้แก่ภาคส่วนการรักษาความสงบและการป้องกันประเทศ -- การเปลี่ยนเข้าสู่มาตรฐานของนาโต้ ปฏิรูป พัฒนาให้ทันสมัย ติดอาวุธกันใหม่.."
เมื่อก่อนนี้การพัฒนาอวุธแต่ละอย่าง ยูเครนเคยใช้เวลานานนับปีหรือ 10 ปี แต่ในวันนี้อุตสาหกรรมกลาโหมสามารถดำเนินการทุกอย่างได้แล้วเสร็จภายในเวลานับเดือนเท่านั้น เนื่องจากปัจจุบันยูเครนลดการพึ่งพาชิ้นส่วนจากรัสเซียได้อย่างสมบูรณ์ เทียบกับเมื่อปี 2556 ที่ยังต้องพึ่งจากภายนอกตั้งแต่ 40-60%
ห้าปีที่ผ่านมากองทัพยูเครนมีอาวุธป้องกันประเทศใหม่ๆ ออกมาใช้จำนวนมากมาย -- รวมทั้งยานหุ้มเกราะกับยวดยานสำหรับการสู้รบรวม 8 ชนิด อาวุธปล่อยนำวิถีสู้รถถัง 2 ระบบ มีเครื่องบินกับเฮลิคอปเตอร์ผ่านการอัปเกรดไป 7 รุ่น และการทดสอบขีปนาวุธโจมตีชนิดใหม่ก็เพิ่งจะประสบความสำเร็จไปหมาดๆ
.
ปธน.ยูเครนกล่าวว่า การพัฒนาระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ของรัฐบาลดำเนินไปอย่างโปร่งใสและเปิดเผย เนื่องจากประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้ทราบ เกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินจากภาษีอากร ที่ทุกเพนนีจะต้องให้เห็นความคุ้มค่า
"เรามีความมุ่งมั่น เราตระหนักว่ายูเครนกำลังเผชิญหน้ากับอะไร เพราะว่า "แหล่งต้นตอของการข่มขู่คุกคามนั้น เป็นกองทัพที่มีความใหญ่โตเป็นอันดับ 2 ของโลก.." -- ผู้นำยูเครนหมายถึงรัสเซีย
ตามรายงานของสื่อในประเทศนี้ ในพิธีสวนสนามเมื่อวันศุกร์ กองทัพได้นำอาวุธยุทโธปกรณ์มาตรฐานนาโต้หลายชนิดออกแสดงเป็นครั้งแรก นอกจาก T-84-120 "ยาตากาน" แล้ว ก็ยังประกอบด้วยจรวดโจมตีทางยุทธวิถีแบบซับซาน (Sapsan) เครื่องยิงอาวุูธปล่อยนำวิถีวีลฮา (Vielha) เครื่องยิงระเบิดแบบ "เวอร์บา" (Verba) รวมทั้ง ป.155 มม.อัตตาจร "บ็อกดานา" ด้วย
ในพิธีสวนสนามฉลองวันเอกราช 26 ปี 24 ส.ค.2559 หรือ 2 ปีก่อน กองทัพยูเครนได้นำเครื่องแบบและชุดปฏิบัติการใหม่ของทหารออกโชว์ต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก และใช้มาจนขณะนี้ -- ออกแบบคล้ายคลึงกับเครื่องแบบทหารของกองทัพอังกฤษ รวมทั้งหมวกแก๊ปรุ่นใหม่ ที่ติดอาร์มของทหารม้าคอสแส็คที่มีชื่อเสียงของยูเครนด้วย.