กัมพูชาไฟเขียวองค์กรลูกชายฮุนเซนทำหน้าที่ตรวจสอบการเลือกตั้ง

รอยเตอร์ - กลุ่มองค์กร 3 กลุ่ม ที่ได้รับการรับรองให้ตรวจสอบการเลือกตั้งของกัมพูชา พบว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีฮุนเซน โดยหนึ่งในนั้นมีลูกชายของฮุนเซนเป็นหัวหน้ากลุ่ม ขณะที่อีก 2 กลุ่มอยู่ภายใต้การนำของบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตสันถวไมตรีจากผู้นำเขมร

กัมพูชากำลังจะมีการเลือกตั้งลงคะแนนเสียงในวันที่ 29 ก.ค.นี้ การเลือกตั้งที่สหประชาชาติและชาติตะวันตกวิพากษ์วิจารณ์ว่าบกพร่องโดยพื้นฐานหลังยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) และจำคุกแกม สุขา ที่เป็นหัวหน้าพรรค เมื่อปีก่อน ซึ่งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปตอบโต้การปราบปรามที่เกิดขึ้นด้วยการถอนการสนับสนุนทางการเงินและการตรวจสอบการเลือกตั้ง

คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ (NEC) ระบุว่า คณะกรรมการได้อนุมัติรับรองผู้สังเกตการณ์ต่างชาติ 69 ราย แต่ไม่ได้ระบุจำนวนสถาบัน

ขณะที่กลุ่มองค์กรภายในประเทศได้ลงทะเบียนไว้ทั้งสิ้น 107 กลุ่ม ซึ่งเต็มไปด้วยสมาชิกจากสหภาพเยาวชนแห่งกัมพูชา (UYFC) องค์กรที่มี ฮุน มะนี ลูกชายของฮุนเซน เป็นประธาน

ฮุย วันนาค ปลัดกระทรวงมหาดไทยระบุว่า สมาชิกของ UYFC ร่วมลงทะเบียนทั้งหมด 36,000 คน ซึ่งสมาชิกของกลุ่มมีสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตรวจสอบ 77,534 คน

ยึม สุวันนารม โฆษก NEC ยืนยันว่า สมาชิกของ UYFC หลายหมื่นคน ได้รับการรับรองให้เป็นผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้ง แม้ UYFC เคยตรวจสอบการเลือกตั้งมาก่อน แต่ก็ไม่ใช่การเลือกตั้งในระดับใหญ่เช่นนี้

ฮุย วันนาค ที่ยังเป็นหนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการกลางขององค์กรเยาวชน กล่าวว่า UYFC มุ่งมั่นต่อประชาธิปไตยและไม่เลือกข้าง

“เรายังคงยึดถืออุดมการณ์ของเรา และมอบบริการที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมให้กับประชาชนของเราทั่วทั้งประเทศ นั่นเป็นเหตุผลที่ประชาชนยังให้การสนับสนุนพรรคประชาชนกัมพูชา” วันนาค กล่าว

ผู้บรรยายประจำมหาวิทยาลัยกริฟฟิธ ออสเตรเลีย และผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการเลือกตั้งภายใต้อำนาจเผด็จการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า UYFC ไม่เป็นอิสระและสนับสนุนรัฐบาลอย่างแข็งขัน การเลือกตั้งของกัมพูชาที่จะมีขึ้นนั้นไม่ใช่การเลือกตั้งที่สมบูรณ์ แต่จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงอาจชี้วัดถึงระดับการสนับสนุบสำหรับรัฐบาล

“จากการยุบพรรคฝ่ายค้าน ฮุนเซนในตอนนี้ต้องพึ่งกับจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเพื่อสร้างระดับความน่าเชื่อถือการเลือกตั้งในระดับหนึ่ง”

พรรค CNRP พรรคฝ่ายค้านพรรคใหญ่ของกัมพูชา กำลังเรียกร้องการคว่ำบาตรการเลือกตั้งและกล่าวว่าพรรครัฐบาลกำลังกดดันประชาชนให้ไปลงคะแนนเสียง

เจ้าหน้าที่รัฐเตือนว่าการเรียกร้องปฏิเสธการเลือกตั้งเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แม้ระบบการลงคะแนนเสียงของประเทศเป็นความสมัครใจ

“การเลือกตั้งขาดความน่าเชื่อถือโดยสิ้นเชิง เป็นการแข่งขันที่มีผู้ลงแข่งอยู่คนเดียว” ลูกสาวของแกม สุขา กล่าว

แม้การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีพรรคการเมือง 20 พรรคร่วมลงแข่งขัน ที่รัฐบาลระบุว่ามีความเป็นประชาธิปไตย แต่นักวิจารณ์ระบุว่า พรรคการเมืองเหล่านั้นมีขนาดเล็กเกินไปที่จะสร้างความท้าทายต่อพรรครัฐบาล

พาย สีพัน โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ข้อกล่าวหาการเลือกตั้งและการตรวจสอบการเลือกตั้งเป็นความอคติที่ไร้หลักฐาน

ในบรรดาผู้สังเกตการณ์ต่างชาติที่ลงทะเบียนโดยคณะกรรมการการเลือกตั้งยังประกอบด้วยสมาชิกของคณะกรรมการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งยุโรป และคณะกรรมการด้านการท่องเที่ยวและการค้าแห่งยุโรป (ECTT) ที่มีนายแอนตัน คาราเกีย เป็นประธานขององค์กร ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงบูคาเรสต์ โรมาเนีย

ในปี 2559 คาราเกียได้รับการแต่งตั้งจากกัมพูชาให้เป็นทูตสันถวไมตรีด้านการท่องเที่ยว และต่อมาในปี 2560 คาราเกียได้แต่งตั้งฮุนเซนเป็นทูตสันถวไมตรีด้านการท่องเที่ยวและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนเช่นเดียวกัน

คาราเกียยกย่องฮุนเซนบนเว็บไซต์องค์กรว่าเป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมของการพัฒนาที่นำพากัมพูชาด้วยความเป็นผู้นำที่ฉลาดรอบรู้

ในการประเมินเบื้องต้นที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร ทีมตรวจสอบของคาราเกียระบุว่า กัมพูชามีกระบวนการการเลือกตั้งที่สมบูรณ์แบบ และชื่นชมฮุนเซนสำหรับการเสริมสร้างประชาธิปไตยให้แข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ของคาราเกียเคยแสดงความชื่นชมผู้นำคนอื่นๆ ในอดีต ที่รวมถึงประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา และประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ ของซิมบับเว.