MGR ออนไลน์ -- ชาวเวียดนามออนไลน์หลายร้อยคน เขียนแสดงความเห็นชื่นชมสาวสวยคนหนึ่ง ที่อุ้มลูกน้อยวัย 3 เดือนไปสอบ "เอ็นทรานซ์" เข้าเรียนต่อระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่โรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ ใน จ.ซยาลาย (Gia Lai) ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของเธอ -- เธอให้นมเจ้าหนูก่อนเข้าห้องสอบ แข่งขันกับคนอื่นๆ ด้วยความมุ่งหวังว่าวันข้างหน้า จะสามารถสอบเข้าศึกษาต่อที่วิทยาลัยฝึกหัดครูใกล้บ้านได้ เพื่อประกอบอาชีพเป็นแม่พิมพ์ของชาติ
ชาวออนไลน์นับหมื่นคลิกชมรูปภาพ และอ่านคำให้สัมภาษณ์ของเธอกับมารดาเมื่อวันจันทร์ 25 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันแรกของการสอบเข้าเรียนต่อชั้น ม.ปลายอย่างเป็นทางการ โดยปีนี้มีนักเรียนและบุคคลทั่วไปเข้าสอบแข่งขันมากกว่า 1 ล้านคน ในทั่วประเทศ สื่อของทางการรายงานว่า หลายคนชื่นชมในความมุมานะของคุณแม่มือใหม่รายนี้
ความจริงปีนี้ ซิว เห่ ดานิลา (Siu H’Đanila) อายุ 19 ปีแล้ว เป็นหญิงสาวกลุ่มชาติพันธุ์จราย (Jrai) ทีอาศัยอยู่ในเขตราบสูงตอนกลางของเวียดนาม นางซีว เมอี (Siu Mei) คุณแม่ของเธอที่ติดตามไปช่วยดูแลหลาน เปิดเผยว่าเธอแต่งงานตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมตอนต้นปีสุดท้าย นั่นคือชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ จำเป็นจะต้องเรียนอีก 3 ปี เพื่อให้สำเร็จชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จึงจะสามารถสอบเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาได้
หญิงสาวชาวจรายเข้าห้องสอบวันจันทร์ 25 มิ.ย.ที่่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกที่นักเรียนและประชาชนทั่วไปเดินเข้าห้องสอบคัดเลือก เข้าเรียนต่อเพื่อให้จบหลักสูตรสูงสุดในระดับมัธยมศึกษา -- เห่ ดานิลา เลือกสอบเข้าเรียนแขนงศิลป์และภาษา และ ให้สัมภาษณ์ซเวินเหวียดออนไลน์ ในขณะให้นมลูกภายหลังเสร็จจากสอบภาคเช้าเป็นเวลา 2 ชั่วโมง โดยกล่าวด้วยสีหน้ายินดีว่า ทำข้อสอบวิชาแรกได้ดีทีเดียว และ มั่นใจว่าจะทำได้ดีในภาคบ่ายอีกด้วย
เห่ ดานิลา ตกเป็นเป้าสายตาของใครต่อใครหลายคน -- รวมทั้งหลายคนที่อาจจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเธอเมื่อเปิดปีการศึกษาใหม่ในเดือน ส.ค.ศกนี้ -- ทั้งนี้ก็เนื่องจากลูกชายวัย 3 เดือน ที่เธอให้นมจากเต้าจนแล้วเสร็จ และ ส่งต่อให้คุณยายของเจ้าหนูช่วยดูแลให้ ก่อนจะเข้าห้องสอบนั่นเอง
นางเมอีบอกหนังสือพิมพ์ออนไลน์สำนักนี้ว่า เธอกับลูกสาวเป็นชาวเมืองเญินหว่า (Nhơn Hòa) เมืองเล็กๆ ใน อ.จือปะ (Chư Păh) จ.ซยาลาย -- ตัวคุณแม่เองประกอบอาชีพครู พี่สาวของเห่ ดานิลา ก็เป็นครู ซึ่งอาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณแม่วัยใสคนนี้ อยากจะเป็นคุณครูอีกคนหนึ่ง
.
ไปสอบเรียนต่อครั้งนี้ เห่ ดานิลา และ คุณแม่ ได้จัดห่อข้าวปลาอาหารไปจากบ้านพร้อม -- เธอให้สัมภาษณ์หลังรับประทานมื้อเที่ยงว่า การแต่งงานในขณะที่กำลังเรียนอยู่นั้น เป็นอุปสรรคต่อการเรียนไม่น้อย แต่เธอเองพยายามอย่างยิ่ง และ เรียนสำเร็จชั้น ม.ต้น ด้วยคะแนนในระดับดีทีเดียว -- หลังแต่งงานเธอต้องไปอาศัยอยู่กับครอบครัวของสามี ตามธรรมเนียมของชาวจราย ต้องทำงานช่วยเหลือครอบครัว ทำงานทุกอย่างกับสามีเพื่อหารายได้ และ ภาระหนักหน่วงยิ่งขึ้นเมื่อเจ้าตัวเล็กเกิดขึ้นมา
"ลำบากมากทีเดียวที่ต้องเลี้ยงลูกไปด้วย อ่านหนังสือเตรียมสอบไปด้วย แต่ทุกครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของลูก ก็เกิดกำลังใจให้มุมานะขึ้นมา" เห่ ดานิลา กล่าว
หลังจากพักเรียนไป 1 ปีเต็ม สามีของเธอเองให้กำลังใจและเร่งเร้าอยู่เสมอ ให้เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับครั้งนี้ เขาต้องการให้เธอเรียนต่อระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจนจบ เพื่อจะได้มีอนาคตที่ดีกว่า
เห่ ดานิลา บอกว่าความใฝ่ฝันทั้งหมดของเธอก็คือ การเข้าศึกษาต่อที่วิทยาลัยฝึกหัดครูในอีก 3 ปีข้างหน้า และจะต้องเรียนต่ออีก 2 ปี เพื่อจะได้ประกาศนียบัตรครูชั้นต้น ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นครู ประกอบอาชีพครูในบ้านเกิด เช่นเดียวกับพี่สาว (และคุณแม่) เพื่อจะได้่ทำงานที่มีหลักแหล่ง มีรายได้ที่มั่นคงในการสร้างครอบครัวร่วมกับสามี และ เพื่ออนาคตที่ดีของเจ้าหนูที่จะเติบโตขึ้นมาในวันข้างหน้าอีกด้วย
ในระบบของเวียดนามผู้เรียนจะใช้เวลา 12 ปีเท่ากับระบบส่วนใหญ่ที่ใช้กันในทั่วโลก เพื่อเรียนให้สำเร็จการศึกษาพื้นฐาน ที่แบ่งเป็นระดับประถมศึกษา 5 ปี ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 4 ปี ตอนปลายอีก 3 ปี และ ระดับ ม.ปลายไม่ได้รวมอยู่ในการศึกษาภาคบังคับ -- ผลการสอบจบชั้น ม.ต้นจะใช้เป็นตัวกำหนดว่า เจ้าตัวจะสามารถเรียนต่อโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายแห่งใด หรือ เรียนหลักสูตรใดได้บ้าง.