MGR ออนไลน์ -- ช่วง 5 เดือนต้นปีจนถึงขณะนี้ ทั่วกัมพูชามีผู้ถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 51 คน อีกกว่า 30 คนบาดเจ็บ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนั้นยังมีสัตว์เลี้ยงจำนวนมาก บ้านเรือนราษฎรอีกหลายร้อยหลังคาเสียหายจากเหตุธรรมชาตินี้ รวมทั้งเหตุการณ์ล่าสุดวันพฤหัสบดี 17 พ.ค. ที่มีราษฎรเสียชีวิตอีก 5 คนใน จ.เกาะกง สุนัขอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้เป็นตัวเลขล่าสุด ที่รวบรวมโดยสำนักงานคณะกรรมการควบคุมอุบัติภัยแห่งชาติ
สำนักงานดังกล่าวได้เตือนไปยังประชาชนทั่วไปให้เพิ่มความระมัดระวัง และต้องรู้จักป้องกันตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อทั่วประเทศเข้าสู่ฤดูฝนเกษตรกรชาวนาที่ลงทำงานในท้องนา ได้กลายเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงถูกฟ้าผ่ามากที่สุด จึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
จำนวนผู้ที่เสียชีวิตช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค.ปีนี้ เพิ่มขึ้น 10 ราย เทียบกับเหยื่อฟ้าผ่าในช่วงเดียวกันทั่วประเทศจำนวน 41 ราย นายแก้ว วี โฆษกสำนักงานคณะกรรมการดังกล่าวให้สัมภาษณ์วิทยุฝรั่งเศสสากล RFI วันศุกร์ 18 พ.ค.นี้ ขณะที่ตัวเลขของฝ่ายตำรวจก็เพิ่มสูงขึ้นใกล้เคียงกัน ซึ่งเป็นการเพิ่มที่สูงที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
กรณีที่ จ.เกาะกงล่าสุด ทั้ง 5 คนเสียชีวิตพร้อมกัน และ ก่อนหน้านั้นวันที่ 14 พ.ค. ก็มีผู้ถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตอีก 2 ราย ใน จ.อุดรมีชัย อีก 3 คนบาดเจ็บ เหตุเกิดในขณะที่ราษฎรเหล่านั้่น กำลังทำงานอยู่ในท้องนา เมื่อฝนตกก็หลบเข้าใต้ต้นไม้ และ ฟ้าผ่าลงที่ตรงนั้น
นายวีบอกว่า ขณะทำไร่ไถนาบนผืนนาที่น้ำเจิ่งนองนั้น เป็นช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงมากที่สุดสำหรับประชาชนทั่วไป ซึ่งขาดการป้องกันตัวเอง เมื่อเกิดฟ้าผ่าลงตรงจุดใกล้เคียง กระแสไฟฟ้าแรงสูงก็จะแผ่ไปถึง เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดฝนตกฟ้าคะนอง จะต้องระมัดระวังและควรรีบกลับเข้าบ้านทันที เพราะที่บ้านปลอดภัยที่สุด
.
ประชาชนทั่วไปควรจะปฏิบัติตามคำแนะนำจากหน่วยงานรับผิดชอบของทางการ ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องฟ้าเรื่องฟ้าฝน ซึ่งรวมทั้งกรมอุตุนิยม -- วิธีป้องกันง่ายๆเมื่ออยู่ในบ้านก็คือ งดใช้โทรศัพท์มือถือ รวมทั้งโทรศัพท์บ้านขณะฝนตก ปิดเครื่องรับวิทยุและโทรทัศน์ ละเว้นการจับถือวัตถุใดๆ ที่เป็นโลหะ เป็นต้น
นายวีให้รายละเอียดว่า ช่วงเวลาเกือบ 5 เดือนมานี้ เกิดฟ้าผ่าคนและบ้านเรือนรวมจำนวน 86 ครั้งในทั่วประเทศ รวมทั้ง 26 ครั้งในเขตเมืองหลวงพนมเปญ ยกเว้นเพียง จ.แก๊บ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น ที่ไม่มีรายงานความเสียหายจากเหตุธรรมขาตินี้่
ส่วนกรณีล่าสุดที่ จ.เกาะกง ในวันพฤหัสบดีนั้น นางมิถุนา พูทาง (Mithona Phuthang) รองผู้ว่าราชการจังหวัดให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์เกิดที่คอมมูนประลัย (Pra Lay) อ.ทมอร์บาง (Tmor Baing) ผู้เคราะห์ร้ายทั้ง 8 คนอยู่ในงานกับเพื่อนบ้านอื่นๆ อีกหลายคน ขณะมีพิธีทางศาสนา เกิดฝนตกและฟ้าเปรี้ยงลงมาในทันทีทันใด ทำให้เสียชีวิตทันที 5 ราย นอกจากนั้นยังมีสุนัขตายในเหตุการณ์เดียวกันอีก 4 ตัว
"เราเคยเห็นเรื่องแบบนี้มามาก แต่ไม่เคยเห็นมีคนเสียชีวิตพร้อมกันมากขนาดนี้" นางมิถุนา กล่าว
.
ตามรายงานของคณะกรรมการควบคุมภัยพิบัตฯ ก่อนหน้านี้ ไม่เพียงแต่ฟ้าผ่าทำให้มีคนและสัตว์เลี้ยงเสียชีวิตมากมายเท่านั้น หากยังทำให้ทรัพย์สินต่างๆ ถูกทำลายไปมากมาย รวมทั้งบ้านเรือราษฎรเกือบ 400 หลังคาเสียหาย หรือ พังลงไปทั้งหลัง
ตัวเลขจนถึงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ทั่วประเทศมีบ้านเรือนราษฎรเสียหายจากเหตุฟ้าผ่าเพียงอย่างเดียว 375 หลังคา ในจำนวนนี้ 37 หลังพังลงเสียหายยับเยิน อีก 338 หลัง หลังคาพังเสียหายหรือยับลง
ตามสถิติของสำนักงานแห่งนี้ ปี 2560 ทั้งปี มีผู้เสียชีวิตจากภัยธรรมชาติต่างๆ ทั้งพายุ ฟ้าผ่าและอุทกภัย รวมกัน 103 คน วัวควายตายอีก 74 ตัว มีราษฎรบาดเจ็บอีก 119 คน -- รายงานชิ้นเดียวกันนี้่ชี้ชัดว่า เป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุฟ้าผ่าอย่างเดียว จำนวนทั้งสิ้น 80 คน ซึ่งจะเห็นได้ว่าฟ้าผ่าเป็นภัยธรรมชาติ ที่คร่าชีวิตชาวกัมพูชามากที่สุด
ตัวเลขจนถึงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ทั่วประเทศมีบ้านเรือนราษฎรเสียหายจากเหตุฟ้าผ่าเพียงอย่างเดียว 375 หลังคา ในจำนวนนี้ 37 หลังพังลงเสียหายยับเยิน อีก 338 หลัง หลังคาพังเสียหาย ยุบลง หรือ กระเด็นกระดอน
หากรวมผลพวงจากภัยพิบัติทุกอย่าง -- ปีที่แล้วมีประชาชนประสบเคราะห์ 2,000 ครอบครัว บ้านเรือน อาคารของทางราชการ และ สิ่งก่อสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ เสียหายหลายพันรายการ.