xs
xsm
sm
md
lg

ไปดูชาวลาวสาละวันแห่พระไตรปิฏก สมโภช 230 ปีหอไตรฯกลางน้ำงามตระการตา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#00003>หอไตรที่ทรุดโทรมมานานนับศตวรรษ ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ โดยรักษาสถาปัตยกรรมดั้งเดิม อันเป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่น เมื่อกว่า 230 ปีก่อน เอาไว้ครบถ้วน นี่คือ หอไตรวัดกลางแห่ง<i>เมืองสาละวัน </i>แขวงสาละวัน ที่ร่วมยุคกับหอไตรกลางน้ำอีกหลังหนึ่ง ที่วัดทุ่งศรีเมือง จ.อุบลราชธานี แต่เป็นฝีมือช่างคนจะสกุลกัน (โปรดดูลิงค์ไปอ่านรายละเอียดเรื่องนี้ในย่อหน้าสุดท้าย) -- ขอบคุณภาพชุดสวยงามจากโลกออนไลน์ของพี่น้องชาวลาว.</a>

MGRออนไลน์ -- ชาวลาวแขวงสะลาวัน ได้ร่วมกันแห่พระไตรปิฎก หนังสือและบันทึกโบราณ ที่ชาวเมืองช่วยกันธำรงรักษาไว้อีกหลายรายการ เพื่อนำไปเก็บไว้ภายในหอไตรกลางน้ำเก่าแก่อายุ 234 ปี และ การบูรณปฏิสังขรณ์เพิ่งจะแล้วเสร็จและ จัดพิธีฉลองสมโภช ทำให้เกิดภาพที่ดูงดงามตระการตา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแห่พระไตรปิฎกนั้น เป็นเหตุการณ์ที่นับวันหาดูได้ยากยิ่ง ในสังคมปัจจุบัน -- ยังไม่ต้องพูดถึงความงดงาม ของสิ่งปลูกสร้างกลางน้ำ ที่เป็นสถาปัตยกรรมลาวโบราณ จากภูมิปัญญาของท้องถิ่น -- เป็นสมบัติอันล้ำค่าทั้งของชาวลาว และชาวพุทธทั้งมวล

เหตุการณ์เมื่อวันที่ 4-5 เม.ย. ได้ถูกบันทึกเป็นภาพชุดสุดสวยงาม ประกอบด้วยเนื้อหาหลากหลาย จากขบวนแห่ของเมือง (อำเภอ) ต่างๆ รวมทั้งขบวน -- ทั้งหมดเผยแพร่ในเฟซบุ๊กของชาวลาว ในช่วงไม่กี่วันมานี้

"ງາມແທ້ເດ ງາມແທ້ນໍ ງາມງານວິຈິດສິນ ແຫ່ງພູມປັນຍາບັນພະບຸລຸດລາວ ຫໍພຣະໄຕປີດົກວັດສີມຸງຄຸນ ຫຼື ເອີ້ນວ່າຫໍໄຕກາງນໍ້າວັດກາງ, ປະຊາຊົນ ຊາວແຂວງສາລະວັນ ໄດ້ພ້ອມພຽງສາມະຄີກັນສ້າງຂຶ້ນ ໃນປີ 1784" ສຳເລັດການປະຕິສັງຂອນ ແລະ ສົມໂພດພາຍໃນງານປີທ່ອງທ່ຽວລາວ 2018" นายสุลิอุดง สุนดาลา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ลาวเขียนถึงเรื่องนี้ถัดมา กล่าวความงามวิจิตร หลังการปฏิสังขรณ์ ของหอไตรกลางน้ำเก่าแก่ ที่วัดกลาง หรือ วัดสีมุงคุน (ศรีมงคล) ในเมืองสาละวัน เมืองเอกของแขวง

หนังสือพิมพ์เสดถะกิด รายงานในวันเดียวกันว่า "ພະລັງແຫ່ງສັດທາມວນມະຫາຊົນ ເຂົ້າຮ່ວມພິທີແຫ່ພຣະໄຕຼປີດົກ ແລະ ໜັງສືຜູກໃບລານລາວ ເພື່ອນຳໄປເກັບມ້ຽນໄວ້ຢູ່ຫໍໄຕຼວັດກາງ" ที่มีขึ้นในปีแห่งการท่องเที่ยว ของแขวงที่มีเนื้อที่ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่เขตที่ราบสูงบอละเวน ทางตอนกลางของประเทศ

พิธีเปิดปีแห่งการท่องเที่ยวของแขวงสาละวัน จัดขึ้นก่อนการฉลองสมโภชหอไตรฯ เพียง 2 วัน โดยมี นายสอนไซ สีพันดอน รองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติไปเป็นประธาน

ส่วนในงานล่าสุดนี้ นายสุวัน วงจอมสี เลขาพรรคแขวง และ เจ้าแขวง ได้นำพระสงฆ์สามเณร พร้อมด้วยการนำขั้นต่างๆ ทั่วทั้งแขวง กับพุทธศาสนานิกชนหลายร้อยคน จัดขบวนแห่วงพระไตรปิฎก กับพิธีสมโภชหอไตร และ พิธีทางศาสนาต่างๆ จนเสร็จสิ้น ตามประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา
.













การจัดสมโภชหอพระไตรปิฎก เริ่มด้วยขบวนแห่พระไตรปิฎกจากสโมสรแขวง ขบวนแห่งขันหมากเบ็ง แห่ต้นเงิน-ต้นทอง ปราสาทผึ้ง เครื่องปัจจัยชัยทานต่างๆ ไปยังวัดกลาง จัดวางตามที่ต่างๆ ที่เตรียมไว้ล่วงหน้า ก่อนจะเข้าสู่พิธี ยกช่อฟ้า หอไตรกลางน้ำ โดยการนำของเจ้าแขวง

ช่วงกลางคืนมีพิธีสวดพระปิริตรมงคล เจ้าแขวงนำจุดเทียนชัย ไหว้พระรับศีล รับฟังพระธรรมเทศนา มีพิธีบวชนุ่งขาว สมโภชพระพุทธรูป สมโภชพระไตรปิฎก ตามพิธีศาสนา -- เช้าวันรุ่งขึ้น มีการทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน ถวายพระไตรปิฏก ถวายหอไตรที่บูรณะแล้วเสร็จ ถวายกองบวช กับ ปัจจัยชัยทานต่างๆ ตามประเพณี

ตามรายงานของนายพูทง คำมะนีวง รองเจ้าแขวง -- หอไตรวัดกลาง สร้างขึ้นเมื่อ 234 ปีที่แล้ว ในสมัยการปกครองของท้าวคำพิทูน ซึ่งในท้องถิ่นเรียกว่า "เอกราชาที่ 1" โดยสร้างเป็นหอขนาดเล็ก -- ต่อมาในปี ค.ศ. 1859 (หรือ 159 ปีก่อน) ในสมัยท้าวเง่ากันยา (เอกราชาที่ 6) ได้นำพระสงฆ์สามเณร ชาวพุทธทั่วไป ก่อสร้างหอไตรที่มีขนาดใหญ่กว่าขึ้นแทน เพื่อเป็น "ສູນລວມຈິດໃຈຂອງຊາວພຸດ ແລະເປັນ ສະຖານທີ່ເກັບຮັກສາ ຄັງແຫ່ງຄວາມຮູ້ ໂດຍສະເພາະພະທຳຄຳສັ່ງສອນຂອງ ພະພຸດທະສາສະໜາທັງສາມປີດົກ" -- อันหมายถึงเนื้อหา 3 หมวดใหญ่คำสั่งสอน ขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า

พระไตรปิฎก (ตะกร้า 3 ใบ) ประกอบด้วย 84,000 พระธรรมขันธ์ ซึ่งมีผู้ให้ความหมายไว้ว่า "หมวดแห่งพระธรรม" หรือ "ส่วนแห่งพระธรรม" คำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ที่รวมขึ้นเป็น 3 หมวดใหญ่ คือ พระวินัยปิฎก ว่าด้วยพระวินัยสิกขาบทต่างๆ ของภิกษุและภิกษุณีเมื่อก่อน -- พระสุตตันตปิฎกที่ว่าด้วยพระสูตร หรือ พระธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้า กับพระอรหันตสาวก และ พระอภิธรรมปิฎก ว่าด้วยพระอภิธรรมหรือปรมัตถธรรมทั้งผอง

หอไตรกลางน้ำนับเป็นภูมิปัญญาของคนยุคโบราณ สร้างขึ้นเพื่อเก็บรักษา หนังสือใบลาน บันทึกบนกระดาษชนิดต่างๆ รวมทั้งศาสนวัตถุบางชนิด ให้รอดพ้นจากการทำลายของศัตรูสำคัญที่สุด ซึ่งได้แก่ปลวกกับมอดไม้ -- ให้เป็นมรดกตกทอดสู่คนรุ่นลูกหลานเหลน

ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ซึ่งอยู่ติดกับ สปป.ลาวในปัจจุบัน ยังมีหอไตรกลางน้ำเก่าแก่ร่วมสมัยแห่งหนึ่ง ที่วัดทุ่งศรีเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี -- สามารถคลิก ชมภาพชุดสวยงาม และ อ่านประวัติความเป็นมา โดยละเอียดได้.


กำลังโหลดความคิดเห็น