MGRออนไลน์ -- ชาวเวียดนามออนไลน์ กำลังอ่อนเพลียละเหี่ยใจกับมายเฟืองถวี (Mai Phương Thúy) อีกครั้งหนึ่ง ถึงแม้ว่าพักหลังๆ จะไม่ค่อยปรากฎตัวต่อสังคมบ่อยๆ หากออกมาแต่ละครั้ง เธอสร้างความฮือฮาได้มากมาย และ กรณีล่าสุดเมื่อสาวสวย นางงามค้างฟ้า ออกวิ่งมาราธอน วันอาทิตย์ 1 ม.ย.ที่ผ่านมา ภาพเป้าตึงอกตันของเธอ กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
นั่นคือ ภาพจากเหตุการณ์วิ่งการกุศล Operation Smile จัดขึ้นที่หาดต่วนเจิว (Tuần Châu) ริมอ่าวมรดกโลก เมืองฮาลอง (Hạ Long/หะลอง) จ.กว๋างนีง (Quảng Ninh) เพื่อระดมทุนช่วยเหลือ โครงการผ่าตัดตกแต่ง สำหรับเด็กด้อยโอกาส ที่เกิดมา มีปัญหาเกี่ยวกับช่องปาก และ ใบหน้า
น้องเฟืองสวมเสื้อสเวทเตอร์แขนยาวซับเหงื่อหลวมๆ ซึ่งเป็นเสื้อคลุมกายปรกติ สำหรับนักวิ่งทั่วไป แต่หน้าอกหน้าใจอันใหญ่โต ทำให้ดูไม่ปรกติ และ ได้รับความสนใจ จากสื่อต่างๆ มากมายผิดปรกติ -- ไม่ต่างกับกางเกงยืด แบบขายาว 3 ส่วน รัดรูป ที่เปิดเผยให้เห็น ส่วนสำคัญของร่างกาย ที่ควรจะปกปิด ก็จึงเป็นที่มาของเสียงวิพากษ์วิจารณ์ สาวเป้าตุงอกตันคนนี้
ทุกเสียงวิจารณ์ ต่างกล่าวอ้างความไม่เหมาะไม่ควร เมื่อมีเยาวชนทั้งชายและหญิงจำนวนมาก ร่วมวิ่งอยู่ด้วย หลายเสียงบอกว่า เกรงเด็กๆ จะเอาเป็นเยี่ยงอย่าง หลงลืมขนบวัฒนธรรมเก่าแก่ ที่สืบทอดกันมา ซึ่งครอบครัวชาวเวียดนาม แต่ไหนแต่ไรมา ต่างพร่ำสอนให้ลูกหลาน รักสวยรักงาม แต่ขณะเดียวกัน ก็ต้องรักนวลสงวนตัว -- และ บรรดา "โรล โมเดล" ไม่ควรจะทำมิดีเป็นตัวอย่าง
อย่างไรก็ตาม -- ชาวออนไลน์อีกหลายเสียง ได้ออกปกป้องมายเฟืองถวี โดยระบุว่าทั้งหมด เป็นภาพตามอิริยาบถธรรมชาติ ไม่ว่าเธอจะวิ่ง จะยืน หรือ นั่งลงพักให้หายเหนื่อย ทั้งหมดล้วนเป็นอิริยาบถปรกติ ไม่ใช่การยืนแอ่นเพื่ออวด -- อีกหลายเสียงบอกว่า ไม่เห็นจะมีอะไรมากมาย เป็นภาพที่หาดูได้ทั่วไป ตามริมถนน ในสังคมทุกวันนี้่
บ้านเมืองเปลี่ยนไป สังคมคอมมิวนิสต์เวียดนามเปิดกว้างขึ้น เมื่อก่อนเคยเคร่งคัด กระทรวงวัฒนธรรมฯ เคยลงโทษนักร้องนักแสดง แม้กระทั่งเน็ตไอดอลไปก็หลายคน เนื่องจากแต่งเนื้อแต่งตัวไม่เหมาะสม แต่ในวันนี้เปิดกว้างขึ้นไปอีก ไม่แตะต้อง ไม่ตามไปตรวจเช็ครูปภาพหรือวิดีโอ ในเฟซบุ๊กของใครอีกแล้ว
สำหรับมายเฟืองถวี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ออกมาให้สังคม เห็นในรูปลักษณ์สาวเป้าตุงนุ่งฟิต สื่อภาษาเวียดนามรายงานว่า สาวสวยวิ่งออกกำลังกายในยามเช้าเป็นกิจวัตร และ เข้าร่วมการวิ่งเพื่อการกุศลมาหลายครั้ง และ ทุกครั้งก็มักจะเห็นเป็นเช่นนี้ เพียงแต่ไม่อื้อฉาว เนื่องจากได้ "เกษียณ" ตัวเองออกจากวงการบันเทิงมาพักใหญ่ ตามที่ประกาศผ่านเฟซบุ๊ก
.
เรากำลังพูดถึงสาวฮานอย เจ้าของมงกุฎมิสเวียดนาม 2549 -- และ เป็นสาวงามคนแรก ที่นำประเทศคอมมิวนิสต์ เข้าใกล้มงกุฎมิสเวิลด์มากที่สุด -- เธอติดกลุ่ม 16 คน ในรอบรองสุดท้าย ในการประกวดที่ประเทศโปแลนด์ และ อยู่ยงคงกระพัน คู่วงการมานานถึง 12 ปี ตั้งแต่นั้นมา
เกิดเดือน ส.ค.2531 หมายความว่า ไม่กี่เดือนข้างหน้า อายุก็จะครบ 30 กลายเป็นนางงามค้างฟ้า ครองโสดมายาวนานที่สุด
เป็นสาวฮานอย เรียนสำเร็จปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยการค้าต่างประเทศ กรุงฮานอย ศึกษาต่อปริญญามหาบัณฑิตจาก RMIT หรือ Royal Melbourne Institute of Technology สาขานครโฮจิมินห์ เรียนด้วยทุนของมหาวิทยาลัย -- เธอทำงานมาหลายที่ แต่ไม่มีที่แห่งใดสามารถรองรับ ความสามารถได้ดี เท่ากับงานอิสระ
มายเฟืองถวี เป็นสาวเวียดนามอีกคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด -- แอบรวยเงียบๆ ทั้งจากงานเดินแบบแฟชั่น งานพรีเซ็นเตอร์ รวมทั้งเป็น "แบรนด์ แอมบาสซาเดอร์" ให้แก่สินค้าชั้นนำอีกหลายรายการ นอกจากนั้นยังได้ชื่อ เป็นนักสะสมสิ่งของเครื่องใช้ แบรนด์เนมตัวยงอีกคนหนึ่ง ทั้งกระเป๋า รองเท้า และ เครื่องสำอาง -- น้องเฟืองมักจะนำสิ่งของเหล่านี้ ออกอวดแฟนๆ ในเฟซบุ๊กเป็นระยะๆ ทุกครั้งที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ
ชีวิตส่วนตัว เมื่อหลายปีก่อนโน้น เคยตกเป็นข่าวฉาว หลังมีความผูกพันใกล้ชิด กับนักธุรกิจสิงคโปร์ในเวียดนามคนหนึ่ง แต่เลิกรากันไป หลังจากมีข่าวในเว็บไซต์บันเทิงหลายแห่งว่า ภรรยาของฝ่ายชาย บินข้ามฟ้า ตามไปราวีถึงกรุงฮานอย -- มายเฟืองถวีไม่เคยปริปากพูดถึงเรื่องนี้ แต่ครองโสดตลอดมาตั้งแต่นั้น
สื่อบันเทิงบางสำนัก ประกาศเชิญมายเฟืองถวี เข้าเป็นสมาชิกกิติมศักดิ์สมาคมคานทองแห่งชาติ โดยระบุว่าเธอสวยเกินไป ดีเกินไป และ เก่งเกินไป -- เกินกว่าจะหาชายที่เหมาะสม ในประเทศนี้เป็นคู่ครองได้.
มันเหนื่อยนะ แถมโดนว่าอีก -- แฟนๆ ของมายเฟืองถวี ออกปกป้อง ชี้ให้เห็นว่า ภาพที่ออกมาทั้งหมดในตอนเช้าวันจันทร์ 2 เม.ย.นี้ ล้วนถ่ายจากอิริยาบถอันเป็นธรรมชาติ ไม่มีการเสแสร้งแกล้งทำ หรือ มีเจตนาแอบแฝงเพื่ออวดอะไรใคร หลายคนยังบอกด้วยว่า มิสเวียดนาม 2006 เป็นเช่นนี้มาตลอด เธอไม่ได้ซุกซ่อนอะไร และ ไม่ได้ตั้งใจจะปกปิดอะไร.. มันปิดได้เท่านี้. |