ซินหวา - ลาวยังคงเดินหน้าส่งเสริมความร่วมมือกับบรรดาประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเชื่อมต่อระบบทางรถไฟอย่างยั่งยืนในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) เพื่อบรรลุเป้าหมายการเปลี่ยนประเทศให้หลุดพ้นจากประเทศไม่มีทางออกสู่ทะเล ตามการรายงานของสื่อท้องถิ่นลาววันนี้
หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทม์ส รายงานว่า ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือและการวางแผนภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง ได้แสดงความเห็นระหว่างการประชุมที่นครหลวงเวียงจันทน์ ว่า รัฐบาลลาวมีนโยบายที่จะเปลี่ยนประเทศไปสู่การเป็นประเทศที่ให้บริการทางผ่านด้านคมนาคมขนส่งภายในภูมิภาคผ่านการเชื่อมต่อทางบกกับประเทศต่างๆ
อันดับแรก คือ เส้นทางรถไฟที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างจากพรมแดนจีน-ลาว ไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ ที่มีระยะทางราว 400 กิโลเมตร โดยทางรถไฟเส้นนี้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว 30% และมีกำหนดเสร็จสิ้นในเดือน ธ.ค.2564
ส่วนทางรถไฟเชื่อมต่อระหว่างไทย-ลาว ที่เดิมมีอยู่ 3.5 กิโลเมตร จะขยายระยะทางอีก 7.5 กิโลเมตร ในโครงการก่อสร้างระยะที่ 2
นอกจากนี้ ยังมีโครงการทางรถไฟสายเวียงจันทน์-ท่าแขก-มูยา-ตันอัป-หวุงอาง ที่จะมีระยะทางยาวทั้งสิ้น 555 กิโลเมตร ไปยังภาคกลางของเวียดนาม และเส้นทางรถไฟที่เชื่อมกับโครงการทางรถไฟสิงคโปร์-คุนหมิง ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ โดยได้รับทุนสนับสนุนจากเกาหลีใต้
ส่วนทางรถไฟสายสะหวันนะเขต-ลาวบาว ที่วิ่งไปยังชายแดนเวียดนาม ระยะทางกว่า 220 กิโลเมตร ในตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการศึกษาความเป็นไปได้ ขณะเดียวกัน ยังมีโครงการที่อยู่ในแผน คือ เส้นทางรถไฟชายแดนลาว-กัมพูชา เวียงจันทน์-ปากเซ-เวินคาม ที่การรถไฟลาวกำลังเร่งหาทุนสำหรับศึกษาความเป็นไปได้
“ลาวกำลังเฝ้ารอให้โครงการเส้นทางรถไฟเหล่านี้เสร็จสมบูรณ์ ด้วยเส้นทางเหล่านี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งในการพัฒนาสังคม และเศรษฐกิจ เปลี่ยนประเทศให้เป็นสะพานเชื่อมอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง หรือเส้นทางสายไหมศตวรรษ 21 ของจีน” เจ้าหน้าที่ระดับสูงของลาว กล่าว.
