MGRออนไลน์ -- บุตรชายคนเล็กของครอบครัว นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน ได้กลายเป็นนายทหารกองทัพบกอีกคน โดยได้รับการติดยศนายพันเอก สังกัดหน่วยรบพิเศษพิทักษ์ผู้นำ และ ข่าวนี้่ยังมีออกมา ในขณะที่กำลังเกิดมีข่าวลือในโลกออนไลน์ว่า เจ้าตัวมีสัมพันธ์ชู้สาวกับหญิงสาวหลายคน ในนั้นมีคนหนึ่งที่ถูกลงไม้ลงมือจนบาดเจ็บ
ข่าวการติดยศชั้นกับข่าวชู้สาว ยังออกมาในขณะที่ชาวกัมพูชากว่า 10 ล้านคนทั่วประเทศ กำลังจะไปใช้สิทธิ์ลงคะแนน เพื่อเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่เดือน ก.ค.นี้ โดยบิดากำลังพยายาม และ ได้กระทำการทุกอย่างที่จำเป็น เพื่อให้มีหลักประกันว่า จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกหนึ่งสมัย เป็นเวลา 5 ปี หลังจากอยู่ในตำแหน่งนี้่มานานกว่า 30 ปี ติดต่อกัน
ฮุน มะนี เป็นหนึ่งในบรรดานายทหาร 25 คน ที่ติดยศพันเอกในคราวเดียวกัน ตามกฤษฏีการฉบับหนึ่ง ที่ลงนามโดยนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.2560 -- แต่เอกสารดังกล่าว เพิ่งถูกเปิดเผยออกมา และ สื่อออนไลน์ภาษาเขมรหลายสำนัก รายงานเรื่องเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้
ตามรายงานของแร็ปปิดนิวส์ -- ในบรรดานายทหารระดับเดียวกัน ที่ได้รับเลือกยศพร้อมกัน ยังรวมทั้ง พ.ท.สัน นริศ (San Narith) นายทหารติดตาม พล.อ.พล สะเรือน ( Pol Saroeun) ผู้บัญชาการกองทัพกัมพูชา กับ พ.ท.กง วันนาค (Kong Vannak) นายทหารประจำสำนักผู้บัญชาการกองทัพ
ปัจจุบันฮุน มะนี เป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.กัมปงสะปือ (Kampong Speu) สังกัดพรรคประชาชนกัมพูชาของบิดา ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า การเลื่อนชั้นล่าสุด หมายถึงการเตรียมการ เปิดทางไปสู่การติดดาวทอง 1 ดวงบนบ่า เป็นนายพลจัตวาของกองทัพ ซึ่งเป็นระดับผู้บัญชาการกองพลน้อย
ยังไม่ทราบตำแหน่งหน้าที่ของ นายพันโทฮุน มะนี ในขณะนี้ แต่สังกัดคือ -- กองพลน้อย 79 ที่ก่อตั้งเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ด้วยคำสั่งของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เป็นหน่วยทหารสำหรับป้องกันเขตพิเศษ คือ ครอบคลุมพื้นที่เมืองหลวงกับปริมณฑลทั้งหมด แต่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่า แท้จริงแล้วเป็นหน่วยสงครามพิเศษ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อคุ้มกัน บรรดาผู้นำระดับสูงของประเทศ
.
หน่วยทหารองครักษ์นายกรัฐมนตรี ตั้งอยู่ที่ อ.ตาคะเมา (Thakhamao) จ.กันดาล (Kandal) ซึ่งเป็นย่านชานกรุงพนมเปญ เป็นค่ายทหารที่ครอบครัวของนายกฯ ใช้เป็นที่พักอาศัยมาก่อน -- ได้ชื่อเป็นหน่วยรบทันสมัยที่สุด ติดอาวุธยุทโธปกรณ์พร้อมเพรียงที่สุดของทั้งกองทัพ
เมื่อจ้นเดือนนี้ รัฐบาลจีนได้ประกาศ มอบรถถังกับรถหุ้มเกราะ ที่ใช้แล้วราว 100 คัน ให้แก่กัมพูชา การส่งมอบมีกำหนดในเดือน มี.ค.นี้ ระหว่างการฝึกซ้อมทางทหารของสองฝ่าย และ ยุทโธปกรณ์ทั้งหมด จะส่งไปประจำที่หน่วยองครักษ์ผู้นำ
กองกำลังสงครามพิเศษนี้ อยู่ใต้การบัญชาโดยตรงของ พล.อ.ฮิง บุนเฮียง (Hing Bounheang) มาตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้ง และ ยังไม่เคยเปลี่ยน ถึงแม้ในปัจจุบันจุบันจะขึ้นเป็น รองผู้บัญชาการกองทัพคนหนึ่งแล้วก็ตาม นอกจากนั้นยังเป็นหน่วยรบที่ ไม่มีบุคคลภายนอกคนใดทราบแน่ชัด เกี่ยวกับจำนวนพลในสังกัด -- มีรายงานแต่เพียงว่า เมื่อปี 2556 นรม.ออกคำสั่งให้เพิ่มกำลังพลจำนวน 350 นาย และ เมื่อปีที่แล้ว ในระหว่างพิธีสวนสนามฉลองครบรอบปีที่ 8 การก่อตั้ง มีการประกาศว่า หน่วยนี้กำลังสรรหากำลังพลเพิ่มเติมอีก 76 นาย
พล.อ.บุนเฮียง เคยให้สัมภาษณ์ว่า ตัวเลขเหล่่านั้นเป็นเพียง จำนวนทหารใหม่ ที่จะเข้าแทนทหารเก่าที่เกษียนอายุ หรือเสียชีวิต แต่ทุกครั้งได้ปฏิเสธ ที่จะเปิดเผยจำนวนทั้งหมด เนื่องจากเป็นความลับทางกลาโหม
สำหรับฮุน มะนี ศึกษาในต่างประเทศมาตลอด รวมทั้งเรียนสำเร็จต่อต้านการก่อการร้าย จากสถาบันป้องกันประเทศ กรุงวอชิงตันดีซี -- ด้วยทุนรัฐบาลสหรัฐ -- สำเร็จวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ออสเตรเลีย และ สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยฮอฟสตรา (Hofstra University) ลองไอส์แลนด์ สหรัฐ
.
แต่นอกจากจะเป็น สส. ปัจจุบันยังเป็นเลขานุการส่วนตัว นายกรัฐมนตรี และ มีบทบาทสำคัญเป็นผู้นำองค์กรเยาวชนแห่งชาติ ที่มีกิจกรรมอยู่ตลอดทั้งปีในระดับประเทศ ทั้งกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ และกิจกรรมฝึกอบรมในเนื้อหาต่างๆ สำหรับเยาวชน นักวิเคราะห์กล่าวว่า องค์กรนี้่เป็นแขนขาสำคัญยิ่ง ในการสนับสนุนรัฐบาลของบิดา ตั้งแต่ระดับรากฐาน
การเข้าสังกัดกองทัพของฮุน มะนี ทำให้บุตรชายของนายกรัฐมนตรี เป็นทหารครบทั้ง 3 คน คนโตคือ พล.ท.ฮุน มาเนต (Hun Manet) เรียนสำเร็จจากโรงเรียนนายร้อยเวสต์พอยน์ จากสหรัฐ และ ปริญญามหาบัณฑิตทางเศรษฐศาสตร์จากอังกฤษ ปัจจุบันเป็นผู้บัญชาการกองกำลังทางบก ซึ่งหมายถึงผู้บัญชาการทหารบก -- คนที่สอง พล.ต.ฮุน มานิต (Hun Manit) เรียนสำเร็จจากสถาบันป้องกันประเทศ กรุงวอชิงตันดีซี ปัจจุบันเป็นหัวหน้าฝ่ายข่าวกรองกองทัพ
ฮุน มะนี สมรสมีภรรยาแล้ว เจ้าตัวยังไม่ได้ออกชี้แจง หรือ ตอบโต้ใดๆ ต่อข่าวอื้อฉาวล่าสุด หลังจากมีผู้นำเทปบันทึกเสียง ที่เป็นเสียงสนทนากับหญิงสาวหลายคนแบบชู้สาว รวมทั้งการเผยแพร่ภาพหญิงสาวคนหนึ่ง ที่มีรอยฟกช้ำตามใบหน้า ออกเผยแะร่ในโลกออนไลน์ โดยผู้นำขึ้นโพสต์ระบุว่า เป็นการกระทำของบุตรชายคนเล็ก นายกรัฐมนตรี
ตามรายงานของสื่อกัมพูชา วันอังคาร 27 ก.พ.ที่ผ่านมา มือดีทำการแฮ็คเฟซบุกข่ายโทรทัศน์บายน (Bayon TV) ที่ ฮุน มะนา (Hun Mana) บุตรีคนแรกของนายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าของ คนร้ายได้นำเอาคลิปเสียงอื้อฉาว ขึ้่นโพสท์ให้สาธารณชนได้รับทราบข้อมูล ก่อนผู้รับผิดชอบจะกู้คืนได้สำเร็จ ในอีกหลายชั่วโมงต่อมา
ช่วง 2 วันที่ผ่านมา ยังมีองค์กรภาคเอกชน ที่ไม่ขึ้นต่อรัฐบาลหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์กรพิทักษ์สิทธิสตรีทั้งหลาย ต่างเรียกร้องให้บุตรชายผู้นำ หรือ หน่วยงานรับผิดชอบ ออกชี้แจงเพื่อให้ความกระจ่างต่อสาธารณชน.