xs
xsm
sm
md
lg

สื่อน้องใหม่ในเขมรเกาะติด “ฮุนเซน” ทุกความเคลื่อนไหว ผู้บริหารอ้างต่อสายตรง ปัดรับเงินรัฐบาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online



รอยเตอร์ - บรรดานักวิจารณ์นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ของกัมพูชา ต้องหันมาติดตามข่าวสารจากสำนักข่าวเฟรชนิวส์ (Fresh News) กันมากขึ้น เพื่อดูว่าเป้าหมายถัดไปของรัฐบาลจะเป็นอะไร หลังความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นต่อฝ่ายตรงข้ามของฮุนเซนมักปรากฏรายงานในสื่อเจ้านี้เป็นรายแรกอยู่เสมอ

ตั้งแต่ข้อกล่าวหาการทรยศชาติที่ตั้งขึ้นต่อ นายแกม สุขะ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านที่ถูกควบคุมตัว ไปจนถึงการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังกับหนังสือพิมพ์กัมพูชารายวัน (Cambodia Daily) ที่ปิดตัวลง และข้อกล่าวหาที่มีต่อสถาบันประชาธิปไตยแห่งชาติของสหรัฐฯ ที่ถูกขับออกจากประเทศ ล้วนปรากฏอยู่บนอยู่ในหน้าข่าวของเฟรชนิวส์เป็นที่แรก

สำนักข่าวแห่งนี้เติบโตขึ้นพร้อมๆ กับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นต่อสื่อที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในการควบคุมข้อมูลข่าวสารก่อนจะถึงการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า ในช่วงเวลาเดียวกับการปราบปรามฝ่ายตรงข้ามของฮุนเซน

“หากมีข่าวใดๆ จำเป็นต้องรายงาน ผมอาจติดต่อนายกรัฐมนตรีฮุนเซน หรือนายกรัฐมนตรีฮุนเซนอาจติดต่อผม” ผู้บริหารเฟรชนิวส์ ลิม เจีย วุทธา อายุ 37 ปี กล่าวต่อรอยเตอร์

ลิมปฏิเสธข้อกล่าวหาว่า สำนักข่าวเผยแพร่รายงานเพื่อสนองผลประโยชน์ของรัฐบาล และกล่าวว่า สำนักข่าวเพียงแค่ทะเยอทะยานที่จะรายงานข้อมูลข่าวสารเช่นเดียวกับสำนักข่าวใหญ่อื่นๆ

กัมพูชาเคยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีสภาพแวดล้อมสื่อที่เปิดกว้างมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่นักข่าวที่รายงานเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล กล่าวว่า การทำงานกำลังยากมากขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าช่วงใดๆ ที่ฮุนเซนปกครองประเทศมากว่า 30 ปี

“นี่หมายถึงความไม่สมดุลของข้อมูลข่าวสาร” ปา งวน เตียง หัวหน้าสถานีวิทยุ Voice of Democracy ที่ได้ทุนจากสหภาพยุโรป กล่าว โดยสถานีวิทยุรายนี้ถูกห้ามออกอากาศเมื่อเดือนก่อน และเวลานี้พยายามที่จะออกอากาศรายการผ่านทางเฟซบุ๊ก

ยังมีสถานีวิทยุอีก 18 แห่ง ถูกสั่งระงับการออกอากาศ ขณะเดียวกัน สถานีต่างๆ ยังถูกห้ามเผยแพร่รายการของสถานีวิทยุ Voice of America และ Radio Free Asia

ส่วนหนังสือพิมพ์กัมพูชารายวัน ที่บรรณาธิการระบุว่า เป็นเสี้ยนหนามของฮุนเซนตั้งแต่เริ่มดำเนินการเมื่อ 24 ปีก่อน ถูกบีบบังคับให้ต้องปิดตัวลง จากข้อหาค้างชำระภาษี จำนวน 6.3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งข่าวนี้ปรากฏในเฟรชนิวส์เป็นที่แรกเช่นกัน

สำนักข่าวที่มีอายุเพียง 3 ปีแห่งนี้ ยังเผยแพร่วิดีโอที่ถูกใช้เป็นหลักฐานในการจับกุมตัว นายแกม สุขะ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน จากข้อหาทรยศชาติ

“มันไม่ใช่ข่าวสดใหม่ ไม่ใช่แม้แต่ข่าวปลอม แต่เป็นข่าวร้าย ข่าวร้ายสำหรับอนาคตของกัมพูชา” มู สุคัว รองหัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา กล่าว

จากการออกปากชื่นชมอย่างเปิดเผยของฮุนเซน เฟรชนิวส์ในเวลานี้มีพนักงานมากกว่า 100 คน โดยมีเฟซบุ๊กเป็นหนึ่งในช่องทางหลักที่ใช้เผยแพร่ข่าวสาร และภายในสำนักงานที่ตั้งอยู่ในย่านจอแจของกรุงพนมเปญ มีป้ายเตือนใจติดไว้ว่า “ศัตรูอันดับ 1 ของความสำเร็จ คือ ความขี้เกียจ”

แม้ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเงินของบริษัท ลิม กล่าวว่า เขาไม่ได้รับเงินจากรัฐบาล ขณะที่โฆษกของรัฐบาลระบุว่า ไม่มีการระดมทุนเพื่อเฟรชนิวส์ หรือบุคคลใดๆ ที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ นอกเหนือไปจากบัญชีผู้ใช้ที่เป็นของทางการ

ลิม กล่าวว่า เขาได้รับเงินสนับสนุนจากการโฆษณาที่มีอยู่หลากหลายประเภท ตั้งแต่รถยนต์ Range Rover ไปจนถึง Coca-Cola หรือแม้แต่ธุรกิจท้องถิ่น
.
<br><FONT color=#000033>ลิม เจีย วุทธา ซีอีโอเฟรชนิวส์ ขณะให้สัมภาษณ์ที่สำนักงานในกรุงพนมเปญ. -- Reuters/Samrang Pring.</font></b>
.
<br><FONT color=#000033>พนักงานของเฟรชนิวส์ขณะทำงานอยู่ภายในสำนักงานในกรุงพนมเปญ ปัจจุบันเฟรชนิวส์มีพนักงานมากกว่า 100 คน. -- Reuters/Samrang Pring.</font></b>
.
แต่ในกัมพูชา ธุรกิจ และรัฐบาลต่างก็มีความพัวพันกันอยู่ ด้วยทั้งตัวผู้นำ และสมาชิกในครอบครัวก็ครอบครองกิจการขนาดใหญ่ของประเทศอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งธุรกิจสื่อ

ลูกสาวคนโตของฮุนเซน ฮุน มานา มีตำแหน่งเป็นประธานหนังสือพิมพ์ Kampuchea Thmey Daily และสถานีวิทยุ และสถานีโทรทัศน์ Bayon ส่วนประธานวุฒิสภาและรองหัวหน้าพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ Rasmei Kampuchea หนังสือพิมพ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศ

ตามผลการศึกษาเมื่อปี 2558 องค์กรสื่อที่เจ้าของมีความเกี่ยวพันทางการเมือง มีสัดส่วนร้อยละ 41 ของสิ่งพิมพ์ที่มีผู้ติดตามอ่าน และร้อยละ 63 ของโทรทัศน์ที่มีผู้ติดตามชม เจ้าของสื่อเหล่านั้น 8 ใน 10 คน มีความใกล้ชิดกับพรรครัฐบาล

ธุรกิจต่างๆ จะไม่ลงโฆษณากับสื่อที่มองว่าสนับสนุนฝ่ายค้าน เพราะการกระทำเช่นนั้นจะไม่ช่วยกับธุรกิจ และรัฐบาลไม่จำเป็นต้องให้การสนับสนุน หากเนื้อหาเป็นบวก แต่ธุรกิจจะมาหาคุณเอง ประธานสมาพันธ์ผู้สื่อข่าวแห่งกัมพูชา กล่าว

แม้จะได้รับรางวัลระหว่างประเทศจากรายงานข่าว แต่กัมพูชารายวัน กลับไม่ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ ท้ายที่สุดต้องปิดตัวลง ด้วยไม่มีหวังที่จะสามารถจ่ายภาษีได้ทันภายในวันที่ 4 ก.ย. ที่เป็นเส้นตายที่รัฐบาลกำหนดไว้ และกัมพูชารายวัน ดูเหมือนจะไม่ได้รับความเห็นใจจากลิมมากนัก

“มันเป็นสิทธิของรัฐบาลที่จะปิด ตามที่เรารายงานไป มันเป็นเรื่องของกฎหมาย” ลิม กล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น