รอยเตอร์ - กระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ได้ร้องขอทางกระทรวงการต่างประเทศของอินโดนีเซียสอบสวน และชี้แจงรายงานที่ระบุว่า กองทัพเรือของแดนอิเหนายิงชาวประมงของเวียดนามได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ในทะเลจีนใต้
ฝ่าม บิ่ง มีง รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเวียดนาม กล่าวต่อ นางเรทโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอินโดนีเซีย ทางโทรศัพท์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องรุนแรงอย่างมาก และไม่เหมาะสมต่อความสัมพันธ์ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามและอินโดนีเซีย
“เวียดนามรู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่างมากเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ และขอเสนอให้อินโดนีเซียสอบสวนเหตุการณ์อย่างรวดเร็วและแจ้งผลต่อเวียดนาม และยุติการทำซ้ำในลักษณะนี้” คำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ระบุ
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ คณะกรรมการกู้ภัยทางทะเลของเวียดนามระบุว่า ทหารเรืออินโดนีเซียได้ยิงและทำให้ชาวประมงเวียดนามบนเรือประมงลำหนึ่งได้รับบาดเจ็บ ในทะเลจีนใต้เมื่อช่วงสุดสัปดาห์
เว็บไซต์คณะกรรมการช่วยเหลือและกู้ภัยจังหวัดบิงดิ่ง ระบุว่า ช่วงที่ชาวประมงถูกยิงในคืนวันเสาร์ เรือของเวียดนามอยู่ห่างจากเกาะกงด๋าว ทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 245 กิโลเมตร แต่รายงานชิ้นนี้ถูกถอดออกจากเว็บไซต์ในวันถัดมา
ขณะที่ฝ่ายกองทัพเรืออินโดนีเซียยังไม่มีความเห็นต่อเหตุการณ์นี้
ข้อพิพาทขัดแย้งเกี่ยวกับสิทธิการทำประมง และการขุดสำรวจน้ำมันมักเป็นประเด็นที่ก่อความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ ที่จีนอ้างสิทธิอธิปไตยเหนือพื้นที่ส่วนใหญ่ของน่านน้ำดังกล่าว ขณะที่บรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไต้หวัน ก็อ้างสิทธิอธิปไตยเหนือพื้นที่บางส่วนของทะเลแห่งนี้เช่นกัน
แม้อินโดนีเซีย ระบุว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในข้อพิพาทดินแดนในทะเลจีนใต้ แต่อินโดนีเซียเพิ่งเปลี่ยนชื่อเขตเศรษฐกิจพิเศษทางตอนเหนือของประเทศ เป็นชื่อว่า “ทะเลนาตูนาเหนือ” เพื่อยืนยันการอ้างสิทธิอธิปไตยทางทะเลของตนเอง
นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด เริ่มปราบปรามการรุกล้ำทำประมงในน่านน้ำของประเทศในปี 2557 อินโดนีเซียได้จมเรือไปแล้วหลายร้อยลำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรือต่างชาติที่ทำประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำของอินโดนีเซีย
อินโดนีเซีย และเวียดนามระบุในเดือน พ.ค. ว่า ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันสอบสวน หลังมีรายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่รักษาชายฝั่งเวียดนามได้พยายามที่จะบังคับให้ฝ่ายอินโดนีเซียปล่อยเรือประมง 5 ลำ และลูกเรือที่ถูกควบคุมตัวได้ในบริเวณน่านน้ำใกล้หมู่เกาะนาตูนา ของอินโดนีเซีย.