เอเอฟพี - บาทหลวงคาทอลิกระบุว่า เขา และคนอื่นๆ ถูกขวางไม่ให้ออกจากโบสถ์ หลังเกิดเหตุปะทะรุนแรงเกี่ยวกับสิทธิที่ดิน ที่เป็นเหตุเผชิญหน้าล่าสุดเกี่ยวกับประเด็นอ่อนไหวนี้ในเวียดนาม
ที่ดินทั้งหมดในเวียดนามนั้นมีรัฐเป็นเจ้าของ และปัญหาขัดแย้งเกี่ยวกับทรัพย์สินมักกลายเป็นความรุนแรง เมื่อทางการต้องการใช้ที่ดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามเมืองที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว
เหตุปะทะล่าสุดเกิดขึ้นวานนี้ (28) เมื่อกลุ่มชาย และหญิงราว 100 คน บุกเข้ามาที่โบสถ์คาทอลิกใน จ.เถือะเทียนเหว และพยายามที่จะรื้อรูปปั้นพระเยซูบนไม้กางเขน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คน ตามการเปิดเผยของบาทหลวงโจเซฟ มารี จู แมง เกื่อง
บาทหลวงเกื่อง เชื่อว่า กลุ่มคนที่บุกเข้ามามีความเกี่ยวข้องต่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่เคยคุกคามข่มขู่จะยึดที่ดินของโบสถ์เพื่อสร้างถนน
ฝ่ายเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“พวกเขาโจมตีพวกเราด้วยเลื่อย ท่อนไม้ และท่อน้ำ พวกเขาทำร้ายเรา และรื้อไม้กางเขน” บาทหลวงเกื่อง กล่าวทางโทรศัพท์
บาทหลวงยังระบุว่า มีชายไม่ทราบชื่อได้ห้ามเขา และคนอื่นๆ ออกไปจากโบสถ์เซนต์เบเนดิก แม้หลายคนจำเป็นต้องพบแพทย์ก็ตาม นอกจากนั้น ยังมีบาทหลวงอีกรูปหนึ่งถูกทำร้ายร่างกายจนเป็นลม ดังที่ปรากฏในคลิปวิดีโอบนสื่อสังคมออนไลน์ที่เผยให้เห็นชายไม่ได้สติถูกนำตัวออกไปหลังถูกกลุ่มชายรุมเตะ
กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวหารัฐบาลเวียดนามว่ามีความเกี่ยวข้องต่อชายหรือหญิงนอกเครื่องแบบที่โจมตีทำร้าย และคุกคามนักวิจารณ์
แม้เวียดนามจะจำกัดเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น แต่การประท้วงมักเกิดขึ้น และประเด็นการยึดที่ดินเป็นชนวนสำคัญ
ในเดือน เม.ย. ชาวบ้านใกล้กรุงฮานอยได้จับตัวตำรวจ และเจ้าหน้าที่นับสิบนายเป็นตัวประกันนานนับสัปดาห์ หลังรัฐบาลขู่จะยึดที่ดินของชาวบ้านให้แก่บริษัทโทรคมนาคมที่ทหารเป็นเจ้าของ และในอีกเหตุการณ์ดังเหตุการณ์หนึ่ง ที่เกษตรกรใช้อาวุธประดิษฐ์เองต่อต้านการบังคับไล่ที่ในปี 2555 จนทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บไป 7 นาย
เกษตรกรคนดังกล่าวถูกตัดสินจำคุก 5 ปี และคดีนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความไม่พอใจของประชาชนที่ขยายตัวขึ้นเกี่ยวกับปัญหาที่ดิน
กฎหมายที่ดินฉบับใหม่ที่ประกาศใช้ในปี 2556 แม้จะมีวัตถุประสงค์จะให้สิทธิการใช้ที่ดินมีความโปร่งใสมากขึ้น แต่ผู้เช่าหลายรายยังคงร้องเรียนถึงการยึดที่ดินผิดกฎหมาย กระบวนการที่ไม่โปร่งใส และการชดเชยที่ไม่เป็นธรรม