ซินหวา - การส่งออกข้าวของเวียดนามลดลงอย่างหนักแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี ตามการระบุในรายงานฉบับใหม่ที่ออกโดยกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทเวียดนาม
ตั้งแต่เดือน ม.ค. ถึงเดือน พ.ย.2559 เวียดนามส่งออกข้าวไปทั้งสิ้น 4.5 ล้านตัน ทำรายได้ 2,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน พบว่า ปริมาณลดลง 26% และรายได้ลดลง 22%
รายงานการประเมินของกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท พบว่า ปริมาณการส่งออกข้าวของปีนี้ มีอัตราต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 ขณะที่บริษัทส่งออกส่วนใหญ่ไม่สามารถส่งออกได้ตามเป้า และมีแนวโน้มที่ประเทศจะส่งออกข้าวไม่สำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 5.7 ล้านตัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับลดลงต่ำกว่าปีก่อนที่ส่งออกข้าวไป 6.5 ล้านตัน
ยอดส่งออกเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 409,000 ตัน แต่ในช่วงใกล้สิ้นปี ยอดการส่งออกลดลงเหลือเพียงประมาณ 300,000-320,000 ตัน ในเดือน ก.ย. ต.ค. และ พ.ย. นอกจากนั้น ประเทศกำลังเสียตลาดสำคัญ โดยเฉพาะการส่งออกข้าวไปจีน ที่เป็นผู้บริโภครายใหญ่ที่สุด ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ 1.6 ล้านตัน ทำรายได้ราว 700 ล้านดอลลาร์ พบว่า ปริมาณลดลง 400,000 ตัน และรายได้ลดลง 120 ล้านดอลลาร์ จากปีก่อน
ในช่วงเวลาเดียวกัน การส่งออกข้าวไปยังตลาดฟิลิปปินส์ รวมทั้งสิ้น 350,000 ตัน ทำรายได้ที่ 150 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบปีต่อปีแล้วลดลง 600,000 ตัน และ 300 ล้านดอลลาร์
สมาคมอาหารเวียดนาม ระบุว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลเนื่องมาจากตลาดข้าวของเวียดนามหลายแห่งได้ดำเนินการจัดการอย่างเข้มงวดต่อกิจกรรมการนำเข้า-ส่งออก ขณะที่เวียดนามกำลังเสียเปรียบด้านราคาในตลาดของฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และกานา
ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเกิ่นเธอ กล่าวต่อหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่า เวียดนามจำเป็นต้องปฏิรูปภาคส่วนข้าวทั้งหมด ที่รวมทั้งการปรับปรุงการผลิต คุณภาพข้าว และเครือข่ายจัดจำหน่าย เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้.