ซินหวา - เวียดนามกำลังพยายามอย่างหนักที่จะกระตุ้นการส่งออกข้าวด้วยการปรับปรุงคุณภาพ และแบรนด์ข้าวของประเทศ ท่ามกลางยอดขายที่ตกลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555
เวียดนาม ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ส่งออกข้าวไปทั้งหมด 4.88 ล้านตันในปี 2559 ทำรายได้ประมาณ 2,200 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าแล้ว ปริมาณลดลง 25.8% และรายได้ลดลง 21.2% ตามการระบุของกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท
เมื่อปีที่ผ่านมา เวียดนามล้มเหลวที่จะทำให้ได้ตามเป้าที่สมาคมอาหารเวียดนามกำหนดไว้ในช่วงต้นปี ที่จะส่งออกข้าวสู่ตลาดต่างประเทศให้ได้ 6.5 ล้านตัน ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในทั้งปริมาณการส่งออก และมูลค่านับตั้งแต่ปี 2555
รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท กล่าวต่อหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่า ในปี 2560 ข้อตกลงการค้าเสรีจะช่วยเปิดตลาดมากขึ้นให้แก่ข้าวของประเทศ แต่ขณะเดียวกัน ก็จะนำมาซึ่งความท้าทายอีกหลายประการ เนื่องจากการขาดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของคุณภาพ และตำแหน่งของแบรนด์เมื่อเทียบกับผู้แข่งขันรายอื่นๆ
แม้การส่งออกข้าวในปีก่อนจะไม่บรรลุตามเป้าหมาย แต่รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรฯ ชี้ว่า เป็นบทเรียนสำหรับผู้ประกอบการ จากที่ก่อนหน้า เวียดนามมักมุ่งความสนใจส่วนใหญ่ไปที่ปริมาณการส่งออก แต่ในปัจจุบันควรเปลี่ยนแปลง โดยที่ผู้ประกอบการต้องกำหนดเขตการผลิต และมุ่งไปที่การปรับปรุงคุณภาพข้าวให้ได้มาตรฐานสากล
ด้านหัวหน้ากรมแปรรูปและการค้าผลิตภัณฑ์จากประมง ป่าไม้ และเกษตร ยังย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาแบรนด์ข้าวที่จะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันให้แก่ข้าวของเวียดนามทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ผู้ส่งออกข้าวท้องถิ่น กล่าวว่า ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศมีความเต็มใจมากขึ้นที่จะจ่ายให้แก่สินค้าที่มีความปลอดภัยมากกว่า
และเพื่อปรับปรุงความสามารถในการแข่งขันของข้าวเวียดนาม ทางการได้แนะให้เกษตรกรและนักธุรกิจร่วมมือกันเพื่อสร้างทุ่งนาขนาดใหญ่ และนำเทคนิคทางการเกษตรทันสมัย และการผลิตด้วยเครื่องจักรมาปรับใช้ในการผลิตข้าว.