xs
xsm
sm
md
lg

รัฐสภาเวียดนามโหวตล้ม 2 โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ $1.6 หมื่นล้านวอนรัสเซีย-ญี่ปุ่นเข้าใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<FONT color=#00003>ภาพสเก็ตช์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์นีงทวน 1 จากเว็บไซต์รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าเวียดนาม นี่คือโรงแรกจากทั้งหมด 13 โรงตามแผนการเมื่อปี 2552 รัฐสภาโหวตลงมติล้ม 2 โรงแรก เพราะเกิดผิดที่ผิดเวลา แต่ยังมีอีก 11 โรง ที่ยังไม่มีการพูดถึงในขณะนี้.  </b>

MGRออนไลน์ -- รัฐสภาเวียดนามมลงมติในวันอังคาร 22 พ.ย. ล้มเลิกโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 2 แห่งแรก อันเป็นโครงการที่รัฐสภาแห่งนี้เคยลงมติ ให้ดำเนินเมื่อ 7 ปีก่อน ในยุคที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศพุ่งขึ้นสูง การโหวตลงมติครั้งนี้เป็นไปตามการเสนอของคณะเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ และรัฐบาล ทั้งยังได้เรียกร้องไปยังรัสเซีย และญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุน ทั้งทางด้านการเงินและเทคโนโลยี เข้าใจสถานการณ์เศรษฐกิจเวียดนามในปัจจุบัน

สมาชิกรัฐสภาได้พิจารณาโครงการลงทุน ฉบับลงวันที่ 25 พ.ย.2552 โดยละเอียดถี่ถ้วน อภิปรายกันอย่างรอบคอบ รอบด้าน และในที่สุดได้ลงมติให้ล้มเลิกโครงการดังกล่าว ซึ่งหมายถึงโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ 2 แห่งใน จ.นีงทวน นายมายเตี๋ยนยวุ๋ง (Mai Tien Dung) รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โฆษกรัฐบาล เปิดเผยเรื่องนี้ระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงฮานอย

ตามแผนการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าของประเทศ เวียดนามจะเริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งแรกในปี 2560 นี้ แต่รัฐบาลเวียดนาม ประกาศเมื่อต้นเดือน เกี่ยวกับแผนการที่จะยกเลิกสัญญาการก่อสร้างดังกล่าว การลงมติของรัฐสภาเป็นกระบวนการที่ทำให้ การยกเลิกของรัฐบาลมีความชอบธรรมตามกฎหมาย และรัฐธรรมนูญของประเทศ

รัฐมนตรีเวียดนามกล่าวอีกว่า การยกเลิกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งสองแห่ง มาจากเหตุผลทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว ในขณะที่รัฐบาลมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม ในมาตรฐานความปลอดภัย และ เทคโนโลยีที่ทั้งรัสเซียและญี่ปุ่นใช้ในการก่อสร้างและ ควบคุมโรงงานไฟฟ้าในอนาคต แต่ "สถานการณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจมหภาคของเวียดนามมีหลายอย่างที่เปลี่ยนไป"

นายยวุ๋งกล่าวอีกว่า ด้วยนโยบายประหยัดไฟฟ้าของรัฐบาล และ ศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าที่ยั่งยืน ที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานลม และการเชื่อมต่อซื้อขายแลกเปลี่ยนไฟฟ้ากับประเทศเพื่อนบ้านที่เพิ่มขึ้น ทำให้มูลค่าในการผลิตกระแสไฟฟ้าในประเทศ ลดลงเป็นอย่างมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันเวียดนาม มีความต้องการที่จะต้องใช้เงินทุนมหาศาล เพื่อลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ เพื่อสร้างสมดุลย์ในการพัฒนาเศรษฐกิจ

แผนการล้มเลิกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้ง 2 แห่ง ได้รับการพิจารณาอย่างถ้วนถี่ และ อย่างมีความรับผิดชอบโดยคณะเลขาธิการ คณะกรรมการกลางพรรค รัฐบาล และรัฐสภาเวียดนาม เพื่อรับประกันการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน และ หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนทั่วทั้งประเทศ รวมทั้งความเข้าใจจากรัสเซียกับญี่ปุ่น นายยวุ๋งกล่าว

การล้มเลิกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งสองแห่ง จะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศ เนื่องจากในปัจจุบันมีการผลิตไฟฟ้า ในหลายรูปหลายแบบ รวมทั้งไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากถ่านหิน จากแก๊ส ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เป็นมิตรกับสภาพแวดล้อม และ ไฟฟ้าพลังงานทดแทนอื่นๆ รวมทั้งการซื้อไฟฟ้าจากลาวเพิ่มขึ้น รัฐมนตรีเวียดนามกล่าว

รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าเวียดนาม กล่าวก่อนหน้านี้ว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 2 แห่งแรก เมื่อก่อนสร้างแล้วเสร็จ จะเพิ่มศักยภาพการผลิตไฟฟ้าขึ้นอีก 3.36% และ เพิ่มกระแสไฟฟ้าเข้าในข่าย คิดเป็นประมาณ 5.7% ของทั้งหมด
.
<br><FONT color=#00003>รัฐวิสาหากิจนิวเคลียร์รอสอะตอม (Rosatom) รัสเซีย ทำทุกอย่างเพื่อจะได้เป็น ผู้ก่อสร้างโครงการ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกมูลค่า 8,000 ล้านดอลลาร์ ในเวียดนาม รวมทั้งจัดหาเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ในประเทศนั้นให้ และ ยอมใช้วัสดุในท้องถิ่น 30-40% ของทั้งหมด ถึงกระนั้นเวียดนามก็ยังล้มเลิกโครงการ โดยอ้างความจำเป็นทางการเงิน. -- ภาพโดยสำนักข่าวสปุตนิค.  </b>
2
ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการ ที่แถลงก่อนหน้านี้ โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ทั้ง 2 แห่ง คือ นีงทวน 1 และ นีงทวน 2 มีขนาดติดตั้งแห่งละ 2,000 เมกะวัตต์ แห่งแรกออกแบบแล้วเสร็จเมื่อปี 2552 โดยใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์จากรัฐวิสาหกิจรอสอะตอม (Rosatom) รัสเซีย มูลค่า 8,000 ล้านดอลลาร์

การศึกษาและออกแบบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งที่สองสำเร็จในปีถัดมา ด้วยความร่วมช่วยเหลือจากบริษัทพลังงานอะตอมญี่ปุ่น (Japan Atomic Power Co) ใช้เทคโนโลยีจากญี่ปุ่น ด้วยมูลค่าก่อสร้างสูงกว่าแห่งแรกเล็กน้อย และ ใช้เงินกู้จากรัฐบาลญี่ปุ่น การก่อสร้างทั้งสองโครงการจะเริ่มในปี 2557 แล้วเสร็จในปี 2563 แต่ที่ผ่านมาเวียดนามได้ขอเลื่อนเวลาก่อสร้างมาหลายครั้ง จนในที่สุดเลื่อนออกไปเป็นปี 2563 และ นำมาสู่การล้มเลิกโครงการในที่สุด

ตามรายงานของสำนักข่าวสปุตนิค ของรัฐบาลรัสเซีย ในเดือน ต.ค.2553 รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าเวียดนาม ได้เซ็นสัญญาหลักการก่อสร้าง โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรก กับ บริษัทยูไนเต็ดคอมปานี ซึ่งเป็นบริษัทลูกของรัฐวิสาหกิจพลังงานนิวคเลียน์รอสอะตอม และ จะได้รับเงินกู้ 8,000 ล้านดอลลาร์ จากธนาคารพาณิชย์รัสเซีย โดยฝ่ายรัสเซียเองตกลง ที่จะใช้วัสดุในท้องถิ่น 30-40% ในการก่อสร้าง ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ สำหรับเวียดนามอีกทางหนึ่ง

สื่อทางการเวียดนามรายงานในช่วงเดียวกันว่า รัฐบาลได้เจรจากับรัฐบาลเกาหลี เพื่อความร่วมมือสนับสนุนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งที่ 3 ในอาณาบริเวณใกล้เคียงกัน

เวียดนามมีแผนการจะก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ รวมทั้งหมด 13 แห่ง ภายในปี 2570 มีกำลังติดตั้งรวมกันราว 15,000 เมกะวัตต์ คิดเป็นประมาณ 10% ของไฟฟ้าทั้งหมด ที่คาดว่าจะต้องการใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศ นั่นคือโครงการที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ ประเทศนี้มีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 22% ต่อปี ตลอดระยะเวลา 10-15 ปีข้างหน้า

รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าเวียดนามกล่าวว่า ความต้องการไฟฟ้าในปัจจุบันลดลงหลือเพียง 8% ต่อปี อันเนื่องมาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ที่ลดลงในช่วงหลายปีมานี้.
กำลังโหลดความคิดเห็น