xs
xsm
sm
md
lg

ประธานประเทศลาวถวายอาลัย เจ้ามหาชีวิตผู้เปี่ยมล้นพระทัยต่อ "บ้านพี่เมืองน้อง" ขอปันทุกข์โศก "ปวงชนชาวไทยพี่น้อง"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#00003>ประธานประเทศลาวนำคณะนำระดับสูงของพรรคฯ รัฐบาลและสภาแห่งชาติ ถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 18 ต.ค.2559 ณ สถานทูตไทยนครเวียงจันทน์ สาส์นอาลัยของนายบุนยัง วอละจิต ทั้งในนาม สปป.ลาวและในนามส่วนตัว แสดงความใกล้ชิดสนิทสนมระหว่างสองประเทศและประชาชนสองชาติลาวไทย ซึ่งเป็นถ้อยคำที่ไม่ค่อยได้ยินได้ฟังหลายสิบปีมานี้่. </b>

MGRออนไลน์ -- นายบุนยัง วอละจิต ประธานประเทศลาว ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้าฯ ของชาวไทย ทั้งยังระบุเป็นการสูญเสียอันใหญ่หลวงของปวงชน และ ประเทศไทย ทรงเป็น "พระเจ้ามหาชีวิต" ที่เปี่ยมล้นด้วยพระทัย ต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ "ฐานบ้านพี่เมืองน้อง" พร้อมทั้งขอแบ่งเบาความทุกข์โศก กับ "ปวงชนชาวไทยพี่น้อง" อีกด้วย

ทั้งหมดนี้ปรากฎอยู่ในสาส์นของประธานประเทศลาว ที่เสนอในโอกาสที่นำคณะผู้นำระดับสูง ของพรรค รัฐบาลและสภาแห่งชาติ ไปทำพิธีถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ณ สถานเอกอัครราชทูตไทยนครเวียงจันทน์ ตอนเช้าวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา สื่อของทางการลาวได้นำเนื้อหา รวมทั้งวิดีโอคลิปเหตุการณ์ ออกเผยแพร่ในสัปดาห์นี้

ผู้นำสูงสุดของ สปป.ลาว ทั้งในนามประเทศและในนามส่วนตัว ได้ใช้คำว่า "บ้านพี่เมืองน้อง" และ "ปวงชนชาวไทยพี่น้อง" ถึงสองครั้งสองคราในสาส์นแสดงความอาลัย อันเป็นถ้อยคำที่แสดงความใกล้ชิดสนิทสนมกันฉันญาติ ระหว่างประชาชนชนสองชาติลาวและไทย ซึ่งแทบจะไม่มีโอกาสได้ยินได้ฟังจากคำปราศัย หรือ ในหนังสืออย่างเป็นทางการของบรรดาผู้นำ ชาวคอมมิวนิสต์ลาวในยุคก่อนๆ

นี่คือวลีใหม่ที่เพิ่มเติมจาก "บ้านใกล้เรือนเคียง" ที่สองฝ่ายต่างคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะใช้มาเป็นเวลายาวนาน

[ย่อหน้าต่อไปนี้ถอดจากเนื้อความในสาส์นของประธานประเทศลาว ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ที่ออกอากาศตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.2559 และ เป็นการถอดเนื้อความตามเนื้อหาในภาษาลาว]

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระเจ้ามหาชีวิตภูมิพลอดุลยเดช "เป็นพระราชาที่มีน้ำใจเสียสละอันสูงส่ง และมีคุณงามความดีอันใหญ่หลวง อุทิศเรี่ยวแรงให้แก่ประเทศชาติ และ ปวงชนชาวไทย ตลอดระยะ 70 ปี ที่พระองค์ขึ้นครองราช ทำให้พระองค์เป็นที่เคารพรักและเป็นที่สักการะบูชา ของปวงชนชาวไทยทุกทั่วหน้า การจากไปของพระองค์ เป็นการสูญเสียผู้เป็นประมุขของชาติไทย ทั้งยังเป็นการสูญเสียผู้นำ ที่มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนารอบด้าน เป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวางในทั่วโลก"
.

.
"พระบาทสมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตภูมิพลอดุลยเดช ยังเปี่ยมล้นด้วยความมีพระทัยต่อความสัมพันธ์ฐานบ้านพี่เมืองน้อง บ้านใกล้เรือนเคียง ต่อสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และ ต่อการเสริมขยายสายพัวพันที่ดีงาม ระหว่างประชาชนสองชาติลาวและไทยตลอดมา"

"ในนามรัฐบาลและปวงชน แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ท่านบุนยัง วอละจิต ขอแสดงความไว้อาลัยอันสุดซึ้งและแบ่งเบาความทุกข์โศก มายังพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และ ปวงชนชาวไทยพี่น้อง มา ณ โอกาสนี้ด้วย ขอให้ดวงวิญญาณพระบาทสมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตภูมิพลอดุลยเดช จงไปสู่คติสุข"

นายบุนยังได้รับเลือกขึ้นเป็นเลขาธิการใหญ่พรรคประชาชนปฏิวัติลาว ในการประชุมใหญ่ครั้งที่ 10 ของพรรค ที่จัดขึ้นในเดือน ม.ค.ปีนี้ สืบต่อจาก พล.ท.จูมมะลี ไซยะสอน และ ต่อมาในเดือน เม.ย. ก็ได้รับเลือกจากสภาแห่งชาติ ขึ้นเป็นประธานประเทศอีกตำแหน่งหนึ่ง กลายเป็นผู้นำสูงสุดทั้งของพรรคและรัฐ นอกจากนั้นก็ยังเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งด้วยอีกด้วย

เป็นชาวสะหวันนะเขตโดยกำเนิด ปัจจุบันอายุ 78 ปีบริบูรณ์ เป็นอดีตนายทหารคนสนิท ประจำนายไกสอน พมวิหาน ผู้นำการปฏิวัติเพื่อเอกราชแห่งชาติ อดีตเลขาธิการใหญ่พรรคประชาชนปฏิวัติลาว อดีตประธานประเทศ และ อดีตผู้นำรัฐบาลในยุคแรก ได้ทำให้นายบุนยังผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาอย่างโชนโชก ตลอดช่วงหลายทศวรรษ

ปัจจุบันเลขาธิการใหญ่พรรคฯ และประธานประเทศแห่ง สปป.ลาว เป็นผู้นำรุ่นที่สองเพียงผู้เดียว ที่ยังคงอยู่ในอำนาจ ผู้นำร่วมรุ่นเดียวกันคนอื่นๆ ล้วนเกษียนอายุ หรือ ถึงแก่กรรมจนหมดแล้ว.
กำลังโหลดความคิดเห็น