MGRออนไลน์ -- การประกวดนางลาวประจำปี พ.ศ.2559 ตกเป็นข่าวอื้อฉาวอีกครั้งหนึ่ง หลังแล้วเสร็จไปเพียงข้ามวัน เมื่อมีการแฉกันเป็นเรื่องเป็นราวในโลกออนไลน์ว่า มงกุฏที่สวมให้แก่เจ้าของตำแหน่งประจำปีนี้ เป็นเพียงของหลอกๆ มิใช่มงกุฏเพชร ตามที่โฆษณาประชาสัมพันธ์ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา และ ในที่สุดบริษัทเอกชนที่รับผิดชอบ ต้องออกแถลงขอโทษต่อสาธารณชน ที่มิได้เปิดเผยเรื่องนี้มาก่อน
มีการตั้งเป็นข้อสังเกต ตั้งแต่มีพิธีสวมมงกุฏในคืนวันเสาร์ ซึ่งผู้ชมการถ่ายทดทางโทรทัศน์ และ ผู้ที่เฝ้าชมการประกวดอยู่หน้าเวที ต่างแสดงความสงสัยว่า เป็นเพราะเหตุใดปีนี้นางสาวลาวคนก่อน จึงไม่ได้ขึ้นเวทีไปสวมมงกุฏ ให้แก่นางสาวคนใหม่ เช่นที่เคยทำกันมาเป็นประเพณี แต่กลับให้สตรีสูงวัยคนหนึ่ง ขึ้นไปมอบแทน และ ข้ามวันต่อมาจึงมีคำตอบ ..
"ຊົມເຊີຍນໍ້າໃຈນາງງາມ 2015 ທີ່ສະຫຼະມົງກຸດຕົນເອງ ໃຫ້ສາມາດດຳເນີນງານປະກວດຜ່ານໄປ ດ້ວຍຄວາມລາບລື່ນ ໃຫ້ນາງງາມ 2016 ຢືມປະດັບຊົ່ວຄາວ ຍ້ອນລະຫັດຕູ້ນີຣະໄພເປັນເຫດ" ເສັດພິທີແລ້ວ ນ້ອງຈື່ງສາມາດໄດ້ຄອງມົງກຸດຂອງຈີງ 2016!"
นี่คือ ข้อความที่แชร์กันมากที่สุดในโลกออนไลน์วันอาทิตย์ 9 ต.ค.ทีผ่านมา หลังการประกวดสาวงามระดับชาติผ่านไปข้ามคืน
ข้อความภาษาลาวในย่อหน้าข้างบน บอกให้ผู้คนทั่วไปได้ทราบว่า มงกุฏที่สวมให้แก่ บุดสะบา แสงปัน นางสาวลาวคนใหม่นั้น หยิบยืมไปจาก สุติลัก อินทะวง นางสาวลาวประจำปี 2558 ทั้งนี้เนื่องจากกองประกวดประสบปัญหา ไม่สามารถเปิดตู้เซฟ เพื่อนำมงกุฏเพชรประดับพลอย สำหรับการประกวดประจำปีนี้ ออกไปมอบให้แก่นางสาวลาวคนใหม่ได้ทัน.. "ຍ້ອນລະຫັດຕູ້ນີຣະໄພເປັນເຫດ" (ด้วยรหัสตู้นิรภัยเป็นเหตุ)
บริษัทคมปันยาเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งเป็นผู้จัดการประกวด ได้ออกแถลงรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งได้อธิบายว่า มงกุฏเพชรสำหรับนางสาวลาวประจำปี 2559 นั้น ทำเสร็จตั้งแต่ 3 เดือนก่อน และ เก็บไว้ในตู้เซฟเพื่อความปลอดภัย เมื่อถึงวันต้องนำมาใช้ กลับเปิดตู้เซฟไม่ได้ แต่เพื่อให้การประกวดดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น และ มิให้การถ่ายทอดสดต้องหยุดชะงัก จึงหยิบยืมมงกุฏนางสาวลาวปีที่แล้ว ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่หลังเวทีประกวด ไปใช้เป็นการเฉพาะกิจ
อย่างไรก็ตาม ในที่สุดมงกุฏเพชรประดับพลอย มูลค่า 20 ล้านกีบ (ราว 86,900 บาท) ก็ไปถึงเวที และ ได้มอบให้แก่สาวสวยที่สุดคนใหม่ของประเทศ หลังการสวมมงกุฏหลอกผ่านไปราว 10 นาที
"บุดสะบา แสงปัน" สาวนักศึกษาวัย 18 ปี ผู้เป็นเจ้าของมงกุฏเพชรประดับพลอยเรือนแรกนี้ กลายเป็นสาวงามจาก "ไซยะบูลีเมืองช้าง" คนที่สอง ที่ได้ครองตำแหน่งสาวสวยที่สุดของประเทศ ถัดจากสาวรุ่นพี่ชาวไซยะบูลี ที่เป็นเจ้าของมงุฎนางสาวลาวประจำปี 2556
นับเป็นการสิ้นสุดกระบวนยาวนาน ที่ดำเนินมาเป็นเวลากว่า 3 เดือน ในการสรรหาสาวงาม เพื่อเป็นตัวแทนหญิงสาวทั่วประเทศ ในการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม และการท่องเที่ยว รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ ตลอดปีข้างหน้านี้
.
2
3
4
5
6
บุดสะบา เอาชนะสาวงามจากแขวงต่างๆ ทั่วประเทศ หลายร้อยคน และ การประกวดรอบสุดท้าย จัดขึ้นภายในห้องบอลรูมขนาดใหญ่ ของโรงแรมแลนด์มาร์ค ถ่ายทอดสดตลอดงาน โดยสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ
นางสาวลาวประจำปีนี้ ยังได้รับรางวัลเป็นรถยนต์เก๋ง 1 คัน มูลค่า 190 ล้านกีบ (ราว 826,000 บาท) รางวัลเงินสดอีก 50 ล้านกีบ (217,000 บาท) ทองคำหนัก 2 บาท โทรศัพท์ไอโฟน 7 พลัส 1 เครื่อง กับ รางวัลอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนั้นเธอยังคว้าอีก 2 รางวัล คู่ขนานอีกด้วย
รองอันดับ 1 คิดสะไหม บุนติวอละวง อายุ 20 ปี ได้รางวัลเงินสด 25 ล้านกีบ ชาวลาวออนไลน์จำนวนมากกล่าวว่า สาวนักศึกษาจากแขวงสะหวันนะเขตคนนี้ น่าจะได้เป็นเจ้าของมงกุฏนางสาวลาว 2559 เนื่องจากเธอสวยเพรียบพร้อม และ ยังตอบคำถามจากคณะกรรมการอย่างชัดถ้อยชัดคำ แสดงให้เห็นปฏิภาณไหวพริบอันเป็นเลิศ ประทับใจผู้ที่เฝ้าดูการประกวดหน้าเวที และ แฟนๆ ที่ติดตามชมการถ่ายทอดสดอยู่ทางบ้าน
แต่การตอบคำถามก็ไม่ใช่คะแนนทั้งหมด ยังต้องอาศัยคะแนนรวม ที่สะสมมาตลอดเวลา ที่เข้าร่วมการประกวดด้วย
รองอันดับ 2 พอนวิไล หลวงลาด นักศึกษาวัย 18 ปีชาวนครเวียงจันทน์ ได้รางวัลเป็นเงินสด 20 ล้านกีบ รองอันดับ 3 ไหมคำ วิไลวัน อายุ 22 ปี สาวชาวนครเวียงจันทน์อีกคนหนึ่ง รางวัลเงินสด 15 ล้าน และ รองอันดับ 4 สะติว แสงสุลิด วัย 21 ปี สาวงามจากแขวงเชียงขวาง ได้รับ 13 ล้านกีบ รองทั้ง 3 คน ยังได้รับรางวัลเป็นเครื่องสำอางค์ กับสิ่งของเครื่องใช้อื่นๆ อีกจำนวนมาก
ยังมีการประกวดคู่ขนานอีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งสาวผิวสวย ซึ่งเป็นของ เข็มพอน ดวงพะสิด วัย 23 ปี จากแขวงหลวงพระบาง สาวงามขวัญใจประชาชน สุพาพอน ทำมะวง วัย 21 ปี จากแขวงอัตตะปือ ส่วนรางวัลสาวสวยรวยเสน่ห์ กับ สาวงามขวัญใจช่างภาพ เป็นของสาวชาวไซยะบูลีเจ้าของมงกุฏ
.
7
8
9
10
11
12
13
การประกวดสาวงามระดับประเทศ เริ่มมาจากการเฟ้นหาสาวงาม เพื่อเป็น "แบรนด์แอมบาสเดอร์" สินค้าสำหรับดูแลรักษาผิวกาย กับเครื่องสำอางค์ และ เครื่องดื่มประเภทนม ซึ่งมีความไม่แน่นอน บางปีว่างเว้นไป จนกระทั่งปี 2552 จึงได้กลายเป็นการประกวดนางสาวลาวครั้งแรก ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการ จากกระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรม เพื่อเฟ้นหา "ทูตวัฒนธรรม"
การประกวดเมื่อปี 2552 ทำให้ไพลินดา พิลาวัน สาวชาวเมืองหลวงวัย 19 ปี นักศึกษาวิทยาลัยบริหารธุรกิจเอกชนแห่งหนึ่ง เป็นนางสาวลาวคนแรก เธอได้รับมงกุฏทองมูลค่า 20 ล้านกีบ รถยนต์เก๋ง 1 คัน มูลค่า 85 ล้าน เงินสดอีก 50 ล้านกีบ สายสะพายไหมทองคำ สร้อยคอและกำไลทองคำ กับรางวัลอื่นๆ อีก รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านกีบ พร้อมเช็คของขวัญ
ไพลินดายังคว้าตำแหน่งสาวงามสุขภาพดี กับงามขวัญใจช่างภาพ โดยมีรางวัลเป็นเงินสด รางวัลละ 5 ล้านกีบอีกด้วย
เมื่อปี 2556 วิไลลัก จันทะวง ซึ่งในขณะนั้นอายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปี 4 วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ (ວິທະຍາໄລວິທະຍາສາດສຸຂະພາບ) นครเวียงจันทน์ ได้กลายเป็นสาวชาวไซยะบูลี ดินแดนดินดำน้ำชุ่มคนแรก ที่ครองมงกุฏสาวงามระดับชาติ และ ก็เช่นเดียวกับบุดสะบาในปีนี้ วิไลลักเอาชนะใจกรรมการด้วยบุคคลิกและความสามารถในการแสดงออก ตลอดเวลาในขบวนการประกวด เธอยังคว้าอีก 3 รางวัลข้างเคียงไปครองอีกด้วย
การประกวดนางสาวลาวทุกปีที่ผ่านมา มีการคัดสรรสาวงามจากท้องถิ่นต่างๆ นำเสนอขึ้นไป จากระดับเมือง (อำเภอ) สู่ระดับแขวง ก่อนเข้าสู่การประกวดในส่วนกลางคือ นครเวียงจันทน์ โดยรักษาค่านิยมดั้งเดิมมาอย่างคงเส้นคงวา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ เน้นคุณสมบัติ ผู้เข้าประกวดจะ ต้องไม่เคยทำศัลยกรรมความงามส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายมาก่อน และ บนเวทีก็ไม่มีการประกวดประชันในชุดว่ายน้ำ
คณะกรรมการผู้จัดการประกวดนางสาวลาว เคยประกาศระหว่างการแถลงข่าวหลายปีก่อนว่า สักวันหนึ่งสาวงามจาก สปป.ลาว จะได้ไปร่วมการประกวดความสวยความงาม บนเวทีระดับนานาชาติ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเป็นวันใด และ อีกยาวนานเท่าไร.