เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ให้คำมั่นในวันนี้ (6) ที่จะทวีความพยายามในการช่วยเหลือเก็บกู้ระเบิดนับล้านที่ตกค้างตั้งแต่ครั้งสงครามในลาว โดยระบุว่า การเก็บกู้เป็นพันธะทางจริยธรรม
ลาวกลายเป็นประเทศที่ถูกทิ้งระเบิดมากที่สุดของโลกระหว่างปี 2507-2516 เมื่อวอชิงตัันดำเนินการสงครามลับที่ต้องการตัดเส้นทางส่งกำลังให้แก่ฝ่ายคอมมิวนิสต์ระหว่างสงครามเวียดนาม
พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศยังเต็มไปด้วยวัตถุระเบิดที่ตกค้าง ซึ่งในนั้นเป็นระเบิดลูกหว่าน (Cluster Bomb) ที่ยังคงทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตในทุกวันนี้
ปัญหาดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และลาว แต่ทั้งสองฝ่ายพยายามสานสัมพันธ์ใกล้ชิดมากขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ และการเยือนของโอบามา ที่เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่เยือนลาวระหว่างอยู่ในตำแหน่งได้รับการยกย่องว่าเป็นโอกาสสำคัญที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์
ในวันแรกของการเยือนเป็นเวลา 2 วัน ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประกาศจัดมอบความช่วยเหลือ จำนวน 90 ล้านดอลลาร์ ให้แก่ลาวตลอด 3 ปีข้างหน้า เพื่อจัดการต่อผลกระทบที่เกิดจากวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิด
โอบามา กล่าวต่อคณะผู้แทนที่ประกอบด้วย ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ นักศึกษา และพระสงฆ์ ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในนครหลวงเวียงจันทน์ ว่า สหรัฐฯ มีพันธะทางจริยธรรมในการช่วยเหลือเยียวยาลาว และในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้มอบความช่วยเหลือแก่ลาวรวม 100 ล้านดอลลาร์
ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สิ่งตกค้างจากสงครามยังคงส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนในลาว และชาวอเมริกันจำนวนมากยังไม่ทราบถึงการทิ้งระเบิดปูพรมนี้ และตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีชาวลาวหลายพันคนเสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บจากวัตถุระเบิดเหล่านี้
.
.
ลาวเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเติบโตรวดเร็วที่สุดของเอเชียในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่นักวิจารณ์ กล่าวว่า เศรษฐกิจที่เติบโตตกถึงมือประชากรส่วนใหญ่ที่ยังยากจนในชนบทเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
นอกจากการช่วยเหลือเก็บกู้วัตถุระเบิดแล้ว วอชิงตันพยายามผลักดันให้เจ้าหน้าที่ลาวช่วยเหลือชี้พิกัดศพของนายทหารที่สูญหายในช่วงสงคราม โดยทำเนียบขาวระบุว่า มีนายทหาร 273 นาย ได้รับการชี้พิกัด และพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลแล้ว แต่ยังมีชาวอเมริกัน 301 คน ยังคงอยู่ในรายชื่อสูญหาย
สหรัฐฯ ทิ้งระเบิดมากกว่า 2 ล้านตันในลาว และประมาณ 30% ของระเบิดเหล่านั้นยังไม่ระเบิด รวมทั้งระเบิดลูกหว่านอีกราว 80 ล้านลูก ตามข้อมูลของรัฐบาลลาวระบุว่า มีผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บจากระเบิดในช่วงตั้งแต่เริ่มสงครามจนถึงปี 2551 ราว 50,000 คน
การเก็บกู้ระเบิด และการรณรงค์ให้ความรู้ได้ช่วยลดอัตราผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตเหลือเพียงประมาณ 40 คนต่อปี แต่มีพื้นที่ที่ปนเปื้อนระเบิดเพียง 1% เท่านั้นที่คืนสภาพสู่ปกติ
ในระหว่างที่โอบามา กล่าวสุนทรพจน์ นักรณรงค์ชาวลาว-อเมริกัน จากองค์กร Legacies of War ที่วิ่งเต้นให้วอชิงตันเพิ่มงบประมาณต่อการเก็บกู้ระเบิด ระบุว่า รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากต่อการประกาศครั้งนี้ ที่นับเป็นก้าวสำคัญไปสู่การเยียวยารักษาบาดแผลของสงคราม และเพิ่มความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ และลาวมากยิ่งขึ้น.