รอยเตอร์ - จีนและลาวแสดงความมุ่งมั่นในโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อมเมืองคุนหมิง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน กับนครหลวงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาว ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่จากทั้งสองประเทศ โดยโครงการจะเดินหน้าต่อแม้ประสบต่อความล่าช้าก็ตาม
เส้นทางรถไฟที่ในท้ายที่สุดจะตัดผ่านไทย และมาเลเซีย ไปยังสิงคโปร์ และเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาของจีนในการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานทั่วเอเชีย หรือที่รู้จักในชื่อโครงการ “One Belt, One Road”
เวียงจันทน์ เป็นเจ้าภาพจัดพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการมูลค่า 7,000 ล้านดอลลาร์ไปเมื่อเดือน ธ.ค. 2558 แต่ผ่านไปแล้วเกือบ 8 เดือน การก่อสร้างก็ยังไม่เริ่มต้นขึ้นในลาว
การทำงานประสบกับความล่าช้าเนื่องจากลาวยังศึกษาผลกระทบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมไม่เสร็จสมบูรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี สมสะหวาด เล่งสะหวัด กล่าว
“ข้อตกลงทั้งหมดพวกเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่ธนาคารจีนเข้มงวดกับพวกเราอย่างมากในการทำตามการศึกษาผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม” สมสะหวาด เล่งสะหวัด กล่าวต่อรอยเตอร์ในการให้สัมภาษณ์ที่สำนักงานนายกรัฐมนตรีในเวียงจันทน์
อดีตรองนายกรัฐมนตรีผู้นี้ควบคุมคณะทำงานที่กำกับดูแลโครงการในลาว จนกระทั่งหมดวาระตำแหน่งไปเมื่อต้นปี แต่ยังคงรักษาการติดต่ออย่างใกล้ชิดกับกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
อีกประเด็นปัญหาหนึ่งคือ การจัดสรรที่ดินรอบๆ เส้นทางรถไฟ เนื่องจากที่ดินบางส่วนในเส้นทางนักลงทุนได้ซื้อไว้ก่อนรัฐบาล
“ยังไม่มีการทำงานบนพื้นดิน เพราะยังอยู่ในระหว่างการศึกษา และอีกหนึ่งปัญหาที่ยังค้างอยู่คือการจัดสรรที่ดิน” สมสะหวาด เล่งสะหวัด กล่าว
จีนถือครอง 70% ในโครงการร่วมทุน ขณะที่ลาวรับผิดชอบส่วนที่เหลือ ซึ่งทุนเริ่มต้นของโครงการอยู่ที่ประมาณ 2,100 ล้านดอลลาร์ โดยลาวสนับสนุนโครงการ 630 ล้านดอลลาร์ผ่านเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 3% จากจีน
และอีกเหตุผลหนึ่งสำหรับความล่าช้าคือ การรับผิดชอบในโครงการได้เปลี่ยนมือกันระหว่างกระทรวงในจีน
“เราจะยังผลักดันโครงการการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายนี้” หวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวต่อผู้สื่อข่าวนอกรอบการประชุมอาเซียน เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
“โครงการนี้จะนำประโยชน์มาสู่ประชาชนทั้งสองประเทศ” หวัง อี้ กล่าวเสริม.