“สม รังสี” ให้คำมั่นกลับกัมพูชานำฝ่ายค้านสู้ศึกเลือกตั้งท้องถิ่นปีหน้า

รอยเตอร์ - สม รังสี หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านกัมพูชา กล่าวหานายกรัฐมนตรีฮุนเซน ใช้ศาลบดขยี้ฝ่ายตรงข้าม และเพื่อรับประกันชัยชนะของตนเองในการเลือกตั้งปี 2561 ขณะที่ประเทศกำลังเสียหายจากการทุจริตคอร์รัปชัน

ในการให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ที่กรุงมะนิลา สม รังสี กล่าวว่า เขายังคงหวังว่าจะมีการตกลงทางการเมืองกับคดีความที่เกิดขึ้น และกล่าวว่ าจะกลับประเทศอย่างแน่นอนก่อนการเลือกตั้งท้องถิ่นในเดือน มิ.ย.2560

“ฮุนเซนเองก็ตระหนักดีว่าเขากำลังสูญเสียฐานเสียง ในขณะที่ความนิยมหนุนฝ่ายค้านกำลังขยายตัวขึ้น” รังสี กล่าว ระหว่างพักจากการประชุมกับสมาชิกเกือบ 60 คน ของพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ที่เดินทางไปยังเมืองหลวงของฟิลิปปินส์

“ดังนั้น เขาต้องการที่จะขัดขวางกระบวนการการเลือกตั้ง ด้วยการสร้างบรรยากาศของความหวาดกลัว และข่มขู่ นี่เป็นเพียงการข่มขู่ และความพยายามที่จะทำให้ประชาชนหวาดกลัว เพื่อไม่ให้สนับสนุนฝ่ายค้าน” สม รังสี กล่าว

แม้รอยเตอร์จะไม่สามารถติดต่อขอความเห็นจากโฆษกรัฐบาลได้ แต่โฆษกพรรคประชาชนกัมพูชาของฮุนเซนปฏิเสธว่ารัฐบาลหรือพรรคใช้ศาลเพื่อเป้าหมายทางการเมือง

“คดีความที่เกิดขึ้นกับคนของพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) เป็นการกระทำความผิดทางอาญา ซึ่งพวกเขาต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย” โฆษกพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) กล่าว และว่า สม รังสีไม่ควรหวังถึงการเจรจาต่อรองทางการเมืองก่อนการเลือกตั้งปี 2560

รังสี อายุ 67 ปี ได้ลี้ภัยมาแล้ว 4 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือน พ.ย. หลังศาลมีหมายจับ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน กล่าวว่า ฮุนเซนที่ปกครองประเทศมาเป็นเวลา 3 ทศวรรษ ใช้ศาลไล่ล่านักการเมืองฝ่ายค้าน เพื่อเลี่ยงเหตุการณ์ซ้ำรอยดังเช่นที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งในปี 2556 ซึ่งพรรค CNRP กล่าวว่า พรรคเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง แต่ผลการเลือกตั้งถูกแก้ไขเพื่อไม่ให้ฝ่ายค้านได้ครองอำนาจ

“ศาลในกัมพูชาเป็นเพียงเครื่องมือทางการเมืองสำหรับพรรครัฐบาล เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาได้รับการคุ้มครอง และปราบปรามฝ่ายตรงข้าม” สม รังสี กล่าว

แกม สุขะ รองหัวหน้าพรรคของสม รังสี ซ่อนตัวอยู่ในสำนักงานใหญ่พรรค CNRP ในกรุงพนมเปญเป็นเวลามากกว่าเดือนเพื่อเลี่ยงการจับกุมตัวเช่นกัน ซึ่งรังสี กล่าวว่า สมาชิกสภาของพรรค 2 คน ถูกจำคุก ขณะที่คนอื่นๆ ก็เผชิญต่อการข่มขู่ และตกอยู่ในอันตราย

ฮุนเซน ในวัย 63 ปี และได้เคยกล่าวไว้ว่าจะปกครองกัมพูชาจนกว่าจะมีอายุครบ 70 ปี มักกล่าวถึงตนเองว่าเป็นผู้ที่ช่วยรักษากัมพูชาไว้จากภัยอันตราย และความสับสนวุ่นวายของการปกครองเขมรแดงในช่วงทศวรรษ 1970 และสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมา แต่อย่างไรก็ตาม การปกครองเผด็จการของฮุนเซน และการทุจริตอย่างกว้างขวาง ทำให้คนหนุ่มสาวไม่ค่อยพอใจนัก ซึ่งรังสี ระบุว่า ประชากรของประเทศราว 70% มีอายุต่ำกว่า 30 ปี และประชากรส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีงานทำ

แกม สุขะ กล่าวกับรอยเตอร์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ว่า จำเป็นที่จะต้องมีการเจรจาสร้างความปรองดองแห่งชาติ เพื่อยุติวิกฤต ที่ทั้งเขา และฮุนเซนเตือนว่าอาจนำพาประเทศจากความตึงเครียดทางการเมืองไปสู่ความขัดแย้ง

ฝ่าย สม รังสี ก็เห็นพ้องกับความคิดของแกม สุขะ เรียกร้อง “วัฒนธรรมของการเจรจา” แทน “วัฒนธรรมของความรุนแรง” ที่เขากล่าวว่าเป็นมรดกตกทอดจากเขมรแดง ขณะเดียวกันก็แสดงความมั่นใจว่า ฮุนเซน จะอนุญาตให้เขากลับประเทศ และนำพรรคฝ่ายค้านลงเลือกตั้งท้องถิ่นในปี 2560 และการเลือกตั้งทั่วไปในปีถัดมา มิเช่นนั้นการเลือกตั้งจะถูกประชาคมโลกมองว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย

หากฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้งปี 2561 ฮุนเซน จะไม่มีทางเลือก นอกเสียจากหลีกทางไป สม รังสี กล่าว

“ผมคิดว่าฮุนเซนฉลาดพอที่จะเข้าใจว่าโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่สามารถที่จะยึดอำนาจไว้ได้ตลอดไป และไม่ว่าอย่างไรก็ตาม บรรดาเผด็จการทั้งหมดก่อนหน้าต่างก็ก้าวลงในจุดหนึ่ง” หัวหน้าพรรคฝ่านค้าน กล่าว.