MGRออนไลน์/รอยเตอร์ -- เครื่องบินตรวจการณ์ "คาซ่า" (CASA) ลำหนึ่งของหน่วยตรวจการชายฝั่งเวียดนาม ได้หายไปจากจอเรดาร์และขาดการติดต่อ ตอนบ่ายวันพฤหัสบดี 16 มิ.ย.นี้ ขณะออกค้นหา เครื่องบินขับไล่โจมตีแบบ Su-30 พร้อมนักบิน ที่หายไปในน่านน้ำนอกชายฝั่ง จ.เหงะอาน (Nge An) ในภาคกลางตอนบน สองวันก่อนหน้านั้น บนเครื่องบินลำที่หายไปล่าสุดนี้ ประกอบด้วยนักบินกับเจ้าหน้าที่รวมทั้งหมด 9 คน
ตามรายงานล่าสุดโดยสื่อทางการในคืนวันพฤหัสบดี เครื่องคาซ่าหมายเลข 8983 ได้ติดต่อกลับหอบังคับการ เมื่อเวลา 13.05 น. และ หายไปจากจอเรดาร์หลังจากนั้น ขณะบินอยู่ในอ่าวตังเกี๋ย บริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งนครหายฝ่อง (Hai Phong) ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
ก่อนจะขาดการติดต่อนั้น เจ้าหน้าที่บนเครื่องได้รายงานกลับฐานว่า เพิ่งสังเกตเห็นวัตถุอะไรบางอย่าง คล้ายกับเรือลอยอยู่ผิวน้ำ นักบินได้รับอนุญาตจากหอบังคับการบิน ให้ลดเพดานบินลงต่ำ และ หายจากจอเรดาร์ ในจุดที่ห่างจากเกาะบักลองหวี (Bac Long Vi) ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ราว 80 ไมล์ทะเล หรือ ประมาณ 148 กิโลเมตร ใกล้ชายฝั่ง จ.เหงะอาน กับ จ.แทงฮว้า อานนีงถู่โด หนังสือพิมพ์ออนไลน์รายงาน
ด้านเจ้าหน้าที่ทหารอาวุโสนายหนึ่งที่ดูแลรับผิดชอบการค้นหาไม่ตอบรับโทรศัพท์เมื่อรอยเตอร์ติดต่อไป ส่วนเจ้าหน้าที่รักษาการณ์ชายฝั่งที่ดูแลรับผิดชอบสื่อระบุว่าไม่มีข้อมูลอย่างทางการที่จะยืนยันข่าวดังกล่าว
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ทำงานเกี่ยวกับการกู้ภัยยืนยัน เครื่องบินหายไปและจำนวนของผู้โดยสารบนเครื่อง แต่ไม่เปิดเผยรายชื่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้กล่าวกับสื่อ และให้ข้อมูลว่าเครื่องบิน CASA กำลังลดระดับเพื่อเข้าใกล้วัตถุ ที่ลูกเรือเชื่อว่าเป็นเป้าหมายในการค้นหา
ตามรายงานของสื่อทางการ บ่ายวันเดียวกันกระทรวงกลาโหมเวียดนาม ได้จัดประชุมเร่งด่วน และ สั่งเรือนานาชนิดประมาณ 200 ลำ พร้อมบุคคลากรกว่า 2,600 คน ออกค้นหาเครื่องบินทั้งสองลำ พร้อมคนทั้งหมด จนกระทั่งเวลากลางคืนจึงยุติลง หน่วยป้องกันชายฝั่ง ได้แจ้งไปยังเรือประมง เรือสินค้าทุกลำ ที่แล่นผ่านน่านน้ำเวียดนาม บริเวณดังกล่าว ขอให้ช่วยสอดส่องหาร่องรอยอีกทาง
ตามรายงานของสื่อทางการ จนตกค่ำได้รับแจ้งจากหน่วยค้นหาว่า เรือลำหนึ่งได้พบสิ่งที่เชื่อว่าเป็นชุดล้อหน้าพร้อมยาง ของ Su-30MK2 หมายเลข 8585 ลำที่สูญหาย แต่ยังไม่พบร่องรอยใดๆ เกี่ยวกับนักบิน
.
2
2
พ.ต.เหวียนหือว์เกือง (Nguyen Huu Cuong) นักบินผู้ช่วยที่รอดชีวิต โดยมีเรือประมงผ่านไปพบ ขณะลอยคออยู่ในน้ำ และ นำกลับเข้าฝั่งเมื่อวันพุธ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะหมายเลข 8585 เกิดเครื่องขัดข้องนั้น นักบินคือ พ.ท.ฟานวันซวน (Phan Van Xuan) ได้สั่งให้ดีดตัวเองออกจากเครื่อง จึงปฏิบัติตาม แต่เข้าใจว่า พ.ท.ซวน จะทำไม่สำเร็จ หรือ อย่างน้อยตนก็มองไม่เห็นร่ม
หมายเลข 8585 บินขึ้นจาก ฐานทัพอากาศ ใน จ.แท้งฮวา ทางภาคกลางตอนล่าง วันอังคาร 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในภารกิจบินฝึกซ้อมลาดตระเวณน่านน้ำตามปรกติ และ จู่ๆ ก็เกิดผิดปรกติโดยไม่ทราบสาเหตุ เครื่องบินดิ่งลงสู่ทะเลเบื้องล่าง ในจุดที่อยู่ห่างจากชายฝั่งเพียง 24 ไมล์ทะเล (ราว 44 กม.) ทุกฝ่ายกำลังตามหานักบิน ในบริเวณที่เกิดเหตุ
ตามตัวเลขที่ยังไม่ครบถ้วนนั้น การค้นหาในวันพฤหัสบดี ประกอบด้วยเครื่องบิน 2 ลำ จำนวนคนทั้งหมด 2,695 คน ในนั้นเป็นนายทหารกับพลทหาร กองทัพเขต 4 จำนวน 1,585 นาย อีกจำนวนหนึ่งเป็นทหารเรือ กับเจ้าหน้าที่หน่วยค้นหากู้ภัยทางทะเล และ ชาวประมงอาสาสมัครกู้ภัยอีก 1,070 คน
เครื่องบินคาซ่าลำที่สูญหายสุดนี้ บินขึ้นจากสนามบินยาลาม (Gia Lam) ในกรุงฮานอย เมื่อเวลา 09.10 โดยมีนายทหารยศนายพันเอกกองทัพอากาศ คนหนึ่งเป็นนักบิน
เครื่องบินลำนี้ติดตั้งอุปกรณ์ทันสมัยหลายรายการ เพื่อภารกิจการค้นหากู้ภัยโดยเฉพาะ รวมทั้งอุปกรณ์ "ตาวิเศษ" (Magic Eye) ที่ติดตั้งใต้ปีก สามารถมองเห็น และตรวจจับวัตถุที่อยู่ผิวน้ำจากที่สูง ทำงานด้วยระบบอินฟราเรด ปฏิบัติงานได้ทั้งเวลากลางวันและกลางคืน
นอกจากนั้นยังติดตั้งอุปกรณ์ค้นหากล่องดำ (กล่องบันทึกข้อมูลการบินของเครื่องบินทุกลำ) ที่ทันสมัย สามารถตรวจจับคลื่นวิทยุความถี่สูงมาก (VHF) ได้ไกลถึง 1,000 กม. และ หลายร้อย กม. สำหรับคลื่นความถี่สูง (HF)
เชื่อกันว่าก่อนหายไปจากจอเรดาร์นั้น นักบินกำลังนำเครื่องคาซ่า บินวนในระะดับต่ำ เพื่อให้ได้ภาพชัดเจนว่า สิ่งที่มองเห็นอยู่เบื้่องล่างนั้น เป็นอะไร ใช่ชิ่นส่วนของ Su-30 ลำที่สูญหายหรือไม่
เวียดนามซื้อเครื่องบิน CASA-212-400 ที่ผลิตโดยบริษัทแอร์บัส จำนวน 3 ลำ หมายเลข 8981, 8982 กับ 8983 ทั้งหมดสังกัดกองบิน 918 กองทัพอากาศ ลำตัวทำสีและติดโลโก้ กองกำลังตรวจการณ์ป้องกันชายฝั่ง
ตามข้อมูลของบริษัทผู้ผลิต คาซ่า-212 สามารถบินต่ำ และบินช้าๆ ในระยะต่ำได้ จึงเหมาะกับงานตรวจการณ์ และ งานช่วยเหลือกู้ภัยเป็นอย่างยิ่ง ใช้เป็นเครื่องบินบรรทุกสนับสนุน ที่บินบนความสูงได้ดีเช่นกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับระวางหรือน้ำหนักของสินค้าที่บรรทุก
คาซ่าของเวียดนามยังติดตั้งอปุกรณ์ทันสมัยอื่นๆ ครบครัน รวมทั้งอุปกรณ์สื่อสารผ่านดาวเทียม กล้องพิเศษที่บันทึกภาพ กับข้อมูลเวลาและตำแหน่งโดยอัตโนมัติ ขึ้นปฏิบัติการได้ทั้งกลางวันและกลางคืน สามารถขึ้นลงในได้ง่ายบนพื้นราบธรรมดา.
