เตื่อยแจ๋ - ตัวแทนจำหน่ายรถยี่ห้อต่างๆ ในเวียดนาม เผยว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์เพิ่มสูงขึ้นในเดือน เม.ย. และเดือน พ.ค. หลังผู้บริโภคชาวเวียดนามแห่ซื้อรถหรู ก่อนที่ทางการจะปรับเพิ่มอัตราภาษีอุปโภคพิเศษสูงขึ้น ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.
ตัวแทนจำหน่ายรถ BMW และ Rolls Royce เผยว่า เฉพาะเดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดจำหน่ายรถ BMW ที่ 200 คัน เพิ่มขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ค.2558
ส่วนบริษัทนำเข้ารถยนต์ Audi ระบุว่า ยอดจำหน่ายในเดือน เม.ย. และ พ.ค.ของปีนี้ทำสถิติสูงสุดในรอบ 9 ปี ของการดำเนินกิจการของบริษัทในเวียดนาม
“เรานำเข้ารถออดี้ 300 คัน และขายได้ทั้งหมดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แม้กระทั่งตัวโชว์ก็ตาม” ตัวแทนบริษัท เผย
เมื่อเดือนที่ผ่านมา เวียดนามเสียค่าใช้จ่ายไปถึง 195 ล้านดอลลาร์ ในการนำเข้ารถยนต์ประกอบสำเร็จทั้งหมด 12,000 คัน เพิ่มขึ้น 33% จากเดือนก่อน เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่พยายามจะซื้อรถก่อนทางการจะปรับอัตราภาษีเพิ่มสูงขึ้น
อัตราภาษีอุปโภคพิเศษใหม่ที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไปนั้น กำหนดให้ภาษีสำหรับรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาด 2.5-3 ลิตร เพิ่มเป็น 55% จากเดิม 50% และภาษีจะปรับสูงขึ้นจาก 60% เป็น 90% สำหรับเครื่องยนต์ขนาด 3-4 ลิตร
ส่วนรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์ 5-6 ลิตร อัตราภาษีจะอยู่ที่ 130% และรถที่มีเครื่องยนต์ 6 ลิตรขึ้นไป มีอัตราภาษี 150%
“มันดูมีเหตุผลว่าประชาชนเร่งซื้อรถกันก็เพื่อเลี่ยงภาษีใหม่” ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์รายหนึ่ง กล่าว
ในทางตรงกันข้าม รถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กจะได้รับการปรับลดภาษีลง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. เช่นกัน ซึ่งปัจจุบัน ภาษีรถยนต์สำหรับเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1.5 ลิตร อยู่ที่ 45% จะปรับลดลงเหลือ 40% ในเดือน ก.ค. และเหลือ 35% ในปี 2561
แต่ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า แม้รถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กจะมีอัตราภาษีที่ต่ำกว่าก็อาจจะไม่ส่งผลให้ราคารถถูกลง
“จากอัตราภาษีใหม่ ความต้องการรถยนต์ที่มีราคาไม่สูงมากนักจะเพิ่มขึ้น ซึ่งก็อาจทำให้ราคารถยนต์ปรับตัวเพิ่มตามตามกฎอุปสงค์-อุปทาน” ผู้เชี่ยวชาญ ระบุ