รอยเตอร์ - กองทัพสหรัฐฯ และกองทัพเวียดนาม ส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะเริ่มสานสัมพันธ์กันอีกครัั้งหากรัฐบาลของทั้งสองประเทศตัดสินใจที่จะดำเนินการดังกล่าว ซึ่งจะนับว่าเป็นก้าวสำคัญของความสัมพันธ์ด้านกองทัพของสองประเทศหลังสงครามเวียดนามสิ้นสุดลงกว่า 40 ปี
พล.ร.ต.คอลิน คิลเรน ผู้บัญชาการกองปฏิบัติการพิเศษของสรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่า ได้พบปะหารือนอกรอบกับบรรดาผู้นำระดับสูงของกองทัพเวียดนาม ในระหว่างการประชุมที่เมืองแทมป้า รัฐฟลอริดา
การหารือกันครั้งนี้มีขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (25) โดยกินเวลาราวครึ่งชั่วโมง เกิดขึ้น 2 วันหลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ประกาศการยุติการคว่ำบาตรห้ามค้าอาวุธให้เวียดนาม ในระหว่างที่เดินทางเยือนประเทศเวียดนามเมื่อวันจันทร์ (23) ซึ่งถือเป็นการเยือนเวียดนามที่ตอกย้ำให้เห็นถึงการแสดงความวิตกกังวลกรณีที่จีนแผ่อิทธิพลมากขึ้นโดยรุกล้ำอธิปไตยในเขตแดนของประเทศต่างๆ ที่อ้างกรรมสิทธิ์ที่อ้างพื้นที่ในทะเลจีนใต้
พล.ร.ต.คิลเรน กล่าวว่า การหารือในเชิงบวกที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ พูดคุยกับผู้นำเวียดนาม ส่งผลให้กองทัพเวียดนาม และสหรัฐฯ เห็นถึงความเป็นไปได้ของการสานสัมพันธ์กันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม สองฝ่ายจะต้องรอสัญญาณจากรัฐบาลทั้งสองประเทศเพื่อดำเนินการให้คืบหน้าต่อไป
เมื่อปีที่แล้ว กองทัพเรือสหรัฐฯ ส่งเรือไปเยือนตามเมืองท่าต่างๆ ของเวียดนามมาแล้วถึง 4 ครั้ง ก่อนหน้านี้ ผู้บัญชาการกองกำลังทหารของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เคยเผยต่อสภาคองเกรส ถึงความตั้งใจที่จะส่งเรือของกองทัพไปเยือนเวียดนามให้มากขึ้นอีกในปี 2559.