ซินหวา - ประธานาธิบดีถิ่นจอ ของพม่า ออกเดินทางจากกรุงเนปีดอในเช้าวันนี้ (6) เพื่อเยือนประเทศลาวอย่างเป็นทางการ ที่เป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกหลังรัฐบาลใหม่ของพม่าเข้าบริหารประเทศเมื่อวันที่ 1 เม.ย.
การเยือนลาวของประธานาธิบดีถิ่นจอ ตามคำเชิญของ นายบุนยัง วอละจิต โดยมี นางอองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศพม่า ร่วมเดินทางไปด้วยนั้น มีขึ้นหลังนายจูมมะลี ไซยะสอน อดีตประธานประเทศลาว เดินทางเยือนพม่าในเดืิอน ธ.ค.2556
ความสัมพันธ์ และความร่วมมือระหว่างพม่าและลาวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตอกย้ำให้เห็นเด่นชัดมากขึ้นจากการเปิดสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำโขงแห่งแรกเมื่อเดือน พ.ค.2558 โดยผู้นำของสองประเทศในเวลานั้นได้ร่วมทำพิธีเปิดสะพานที่เชื่อมระหว่างเมืองท่าขี้เหล็ก รัฐชานของพม่า และแขวงหลวงน้ำทา ของลาว
การเปิดสะพานมิตรภาพมีขึ้นในเวลาเดียวกันกับวาระครบรอบ 60 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ
การก่อสร้างสะพานมิตรภาพพม่า-ลาว ความยาว 691.6 เมตร มูลค่า 26 ล้านดอลลาร์ ถูกยกขึ้นหารือเป็นครั้งแรกระหว่างการเยือนพม่าของนายกรัฐมนตรีทองสิง ทำมะวง ของลาว เมื่อเดือน ก.ค.2554 และโครงการนี้ได้เริ่มต้นขึ้นในเดือน ก.พ.2556
ในการหารือระหว่างประธานาธิบดีถิ่นจอ และนายบุนยัง วอละจิต ประธานประเทศลาว ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ในวันนี้ (6) ทั้งสองฝ่ายยังได้พูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการเปิดเที่ยวบินตรงจากนครหลวงเวียงจันทน์ กับนครย่างกุ้ง และหลวงพระบาง กับพุกาม
ทั้งสองฝ่ายยืนยันถึงความตั้งใจที่จะกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในด้านการค้า การลงทุน การศึกษา และการท่องเที่ยว สอดคล้องตามกรอบการทำงานของคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือที่ได้ให้คำมั่นว่าจะเสริมความร่วมมือทางการเมือง และความมั่นคงในการประชุมครั้งที่ 11 ของคณะ ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเนปีดอ เมื่อเดือน มี.ค.ปีก่อน
การเยือนลาวเป็นเวลา 1 วันครั้งนี้ เป็นการเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งแรกของประธานาธิบดีถิ่นจอ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศในเดือน มี.ค. และเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่เยือนลาวนับตั้งแต่ นายบุนยัง วอละจิต เข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศในเดือน เม.ย.
ประธานาธิบดีถิ่นจอ และคณะ ยังได้รับการต้อนรับจาก นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีที่เพิ่งได้รับเลือกของลาวอีกด้วย
แม้ทั้งสองประเทศจะมีความใกล้ชิดกัน แต่จากสถิติของทางการแสดงให้เห็นว่า ปริมาณการค้าระหว่างสองประเทศยังคงค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ แต่คาดว่าจะปรับปรุงดีขึ้นตอบสนองการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง และการเชื่อมต่อในระดับภูมิภาค.
.
.