MGRออนไลน์ -- กำลังเป็นที่ร่ำลือกันในโลกออนไลน์ของชาวลาวในชั่วข้ามวันมานี้ เกี่ยวกับอิทธิฤทธิ์รุนแรง ของพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอีกองค์หนึ่งในหลวงพระบาง ซึ่งทำให้เกิดฝนตกหนัก พายุพัดแรง ฟ้าคะนอง จนทำให้ต้นโพธิ์ใหญ่ในวัดเชียงทองราชวรวิหารโค่นลงทั้งต้น ไปทับพระธาตุเก่าแก่องค์หนึ่ง ที่บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถ จนแตกหักเสียหาย แต่ทำให้พระพุทธรูปโบราณ สมัยพระเจ้าไซเสดถาทิลาดจำนวน 11 องค์ปรากฏออกมาให้เห็น
ทั้งหมดเป็นพระพุทธรูปเงิน พระพุทธรูปทองและพระพุทธรูปทองคำขาว ภาพถ่ายจากที่เกิดเหตุ ซึ่งมีผู้นำขึ้นเผยแพร่ในเฟซบุ๊กตอนเช้าวันเสาร์ 23 เม.ย. ถูกแชร์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ ของชาวลาว พร้อมกับการถกเถียงเกี่ยวกับเหตุการณ์ และ อิทธิฤทธิปาฏิหาริย์ของ "พระหม่าน" หรือที่รู้จักกันแพร่หลายมากกว่าในนาม "พระม่าน" ที่ถูกอาราธนาออกจากหอไหว้ อันเป็นสถานที่จัดเก็บ
"หุมเพ็ด มะนีสุก" ซึ่งเป็นชาวหลวงพระบาง ได้เขียนบอกเล่าในเฟซบุ๊กว่า พระธาตุเก่าแก่องค์นี้ เคยมีการบูรณปฏิสังขรณ์ใหญ่ครั้งหนึ่ง ในรัชสมัยพระเจ้าสีสะหว่างวัดทะนา กษัตริย์พระองค์สุดท้าย แห่งพระราชอาณาจักรลาว
อย่างไรก็ตาม พระสงฆ์ที่วัดเชียงทองบอกกับญาติโยมว่า ไม่มีผู้ใดทราบมาก่อน ภายในพระธาตุจะมีไหบรรจุพระพุทธรูปขนาดเล็ก ทั้ง 11 องค์ซ่อนอยู่ และ เมื่อพิจารณาจากพุทธลักษณ์ก็จะพบว่าเป็นพระพุทธรูปศิลปะล้านช้างยุคแรกๆ เมื่อครั้งที่พระเจ้าไซเสดถาทิลาด โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดเชียงทองขึ้นเป็นวัดหลวง
เหตุเกิดในวันศุกร์ 22 เม.ย. วันที่ชาวเมืองร่วม กับราษฎรในคุ้มบ้านที่อยู่ใกล้กับวัดเชียงทอง ได้ทำพิธีอาราธนาพระหม่าน ลงจากหอไหว้ใหญ่ ที่อยู่ด้านหลังพระอุโบสถ ไปประดิษฐานบนแท่นที่จัดสร้างไว้อย่างดีภายในปรัมพิธี เพื่อให้ชาวเมืองสรงน้ำขอพร หรือ อาราธนา ขอสิ่งที่พึงประสงค์ เนื่องในเทศกาลขึ้่นปีใหม่ประเพณี
ทำไมจึงเป็นวันที่ 22 เม.ย.? มีผู้ตั้งคำถามเช่นกัน แต่ในช่วง 40 ปีมานี้ ทุกปีหลังเทศกาลสงกรานต์ ผ่านพ้นไปไม่นาน ราษฎรในคุ้มบ้าน 2-3 แห่งรอบๆ วัดเชียงทอง จะเป็นเจ้างาน ร่วมกับวัดอัญเชิญพระหม่านออกจากหอไหว้ เพื่อให้ชาวเมืองขอพรชัยมังคูน (ชัยมงคล)
เป็นที่ร่ำลือกันว่า พระหม่านแห่งเมืองหลวงพระบาง สามารถเนรมิตให้คู่สมรสที่มีบุตรยาก มีทายาทสมความปรารถนาได้ และ โอกาสนี้เป็นเพียงโอกาสเดียวในรอบปี ที่จะได้เข้าใกล้ชิดพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์นี้ เนื่องจากจะประดิษฐานอยู่ภายในหอไหว้ ลั่นกุญแจแน่นหนาตลอดเวลา
และเป็นที่ทราบกันดีอีกเช่นกันว่า ทุกๆ ปีในวันที่อัญเชิญพระหม่านออกจากหอเก็บ ก็จะเกิดฝนตก นำความฉ่ำเย็นมาสู่ชาวเมืองในช่วงเดือนแห่งฤดูร้อน
.
2
3
4
5
6
7
8
9
"ນີ້ເປັນປະກົດການທີ່ເກີດຂຶ້ນທຸກໆ ປີໃນວັນອັນເຊີນພະມ່ານລົງຫົດສົງ. ຕາມຄວາມເຊື່ອຂອງຊາວເມືອງຫຼວງພະບາງ ແມ່ນພອນ ຈາກສິ່ງສັກສິດ ເພື່ອໃຫ້ມີຄວາມສຸກຊຸ່ມກຸ່ມເຢັນ ແລະ ມີນ້ຳພຽງພໍຕໍ່ການຜະລິດຂອງປະຊາຊົນ." โทรโข่งด็อทคอม เขียนปูภูมิหลังเหตุการณ์ เมื่อวันศุกร์
สมาชิกประชาคมคนก้มหน้าชาวลาวตั้งเป็นข้อสังเกตุว่า อาจเป็นเพราะปีนี้เป็นปีแล้งจัดที่สุดสำหรับชาวเมือง พระหม่านจึงแสดงอิทธิฤทธิ์ ให้เกิดฝนตกลงมามากมายเป็นพิเศษ และ มากเกินไป จนทำให้วัดเชียงทอง วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองได้รับความเสียหาย
ชาวเน็ตลาว กล่าวว่าวันศุกร์ที่ผ่านมา เกิดฝนตกกินอาณาบริเวณกว้างในหลายแขวงภาคเหนือของลาว แต่ไม่มีที่ใดที่ฝนจะตกหนัก พร้อมกับฟ้าคะนอง เกิดพายุพัดแรง และ ยังมีลูกเห็บตกลงมาในช่วงเวลากลางวัน เหมือนกับที่เมืองหลวงพระบาง
.
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ต้นโพธิ์ใหญ่ที่ด้านหน้าหอกลอง โค่นลงเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันศุกร์ นอกจากจะทำให้พระธาตุเก่าแก่ที่เชื่อกันว่า สร้างขึ้นมาพร้อมการสร้างวัดเมื่อปี พ.ศ.2103 จะเสียหายหนักแล้ว ก็ยังทำความเสียหายให้แก่สิ่งปลูกสร้างต่างๆ อีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งหลังคาหลังคาปรัมพิธี แต่พระหม่านที่ประดิษฐาน อยู่ภายในปรัมข้างๆ พระธาตุ กลับไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย ก็ยิ่งเป็นที่ร่ำลือกันใหญ่ เกี่ยวกับปาฏิหาริย์ครั้งนี้
ชาวหลวงพระบางคนเดียวกันนี้ บอกเล่าต่อไปอีกว่าเท่าที่จำความได้นั้น การอาราธนาพระหม่านออกจากหอไหว้ เพื่อให้ชาวเมืองสรงน้ำ มีขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2522 โดยการริ่เริมของชาวคุ้มบ้านที่อยู่รอบๆ กับเจ้าอาวาสวัดเชียงทอง และ วัดแสนสุขาราม ในปีที่เกิดภัยแล้งอย่างหนัก และอากาศร้อนจัด โดยจัดเป็นพิธีเล็กๆ ภายในพระอุโบสถ ทั้งนี้ก็เพื่อบนบาน ขอให้ฝนตก ซึ่งในครั้งนั้นก็มีฝนตกลงมา สมความปรารถนา
ตั้งแต่ปี พ.ศ.2523 เป็นต้นมา จึงมีการอาราธนาพระหม่านออกจากหอไหว้ เพื่อให้ชาวเมืองได้สรงน้ำ สืบต่อกันมาเป็นประจำทุกๆ ปี และ ชาวเมืองก็พูดกันตลอดมาว่า -- วันไหนอัญเชิญพระหม่านออกจากหอไหว้ วันนั้นฝนตก.
.
เหตุการณ์คืนวันศุกร์ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาทำให้พระธาตุเก่าแก่องค์หนึ่ง ที่ด้านหน้าพระอุโบสถ ซึ่งเชื่อกันว่าสร้างมาพร้อมกับวัดเชียงทอง หักพังเสียหายหนัก และ มีไหเก็บพระพุทธรูปทั้ง 11 องค์ซุกซ่อนอยู่ภายใน พิจารณาพุทธลักษณ์ทำให้เชื่อว่า เป็นพระพุทธรูปเงิน ทองและทองคำขาว ที่สร้างในยุคเดียวกันกับวัด นอกจากนั้นยังมีโบราณวัตถุยังเสียหายอีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งหลังคาปรัม แต่องค์พระหม่านที่ประดิษฐานอยู่ที่นั่นไม่เป็นอะไรเลย (ขอขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก "หุมเพ็ด มะนีสุก"). |
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22