เอเอฟพี - นักอนุรักษ์ยอมรับเป็นครั้งแรกในวันนี้ (6) ว่า เสือในกัมพูชาสูญพันธุ์ ระหว่างการเปิดแผนปฏิบัติการฟื้นฟูเสือในพื้นที่ป่าของประเทศ
ป่าของกัมพูชาเคยเป็นที่อยู่อาศัยของเสือโคร่งอินโดจีนจำนวนมาก แต่กองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) กล่าวว่า การบุกรุกล่าเสือ และเหยื่อของเสืออย่างเข้มข้นได้ทำลายประชากรเสือเป็นจำนวนมาก ซึ่งเสือตัวสุดท้ายของกัมพูชาถูกจับภาพได้ใน จ.มณฑลคีรี เมื่อปี 2550
“วันนี้ ไม่มีประชากรเสือเหลืออยู่ในกัมพูชา จึงจัดได้ว่าสูญพันธุ์” กลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่า ระบุในคำแถลงฉบับหนึ่ง
ในความพยายามที่จะฟื้นฟูประชากรเสือขึ้นมาอีกครั้ง รัฐบาลกัมพูชาได้อนุมัติแผนที่จะนำเสือกลับคืนสู่ป่าในพื้นที่ป่าคุ้มครองของ จ.มณฑลคีรี ทางตะวันออกที่ห่างไกลของประเทศ
เจ้าหน้าที่ระบุว่า แผนปฏิบัติการนี้จะกำหนดแหล่งที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม และป้องกันการล่าสัตว์ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด รวมทั้งคุ้มครองเหยื่อของเสือ
“เราต้องการเสือเพศผู้ 2 ตัว และเสือเพศเมีย 6 ตัว เพื่อเริ่มต้น นี่เป็นงานที่ใหญ่มาก” ผู้อำนวยการสำนักงานสัตว์ป่าและความหลากหลายทางชีวภาพ ของกรมป่าไม้กัมพูชา กล่าวต่อผู้สื่อข่าว
รัฐบาลต้องการทุน 20-50 ล้านดอลลาร์ สำหรับโครงการนี้ และได้เริ่มหารือกับประเทศต่างๆ ในการจัดหาเสือ เช่น อินเดีย ไทย และมาเลเซีย
กลุ่มอนุรักษ์ยินดีต่อแผนดังกล่าว พร้อมกับกล่าวว่า เสือถูกล่าจนสูญพันธุ์ เพราะความอ่อนแอของการบังคับใช้กฎหมาย
การตัดไม้ทำลายป่า และการบุกรุกเข้าไปล่าสัตว์ได้ทำลายประชากรเสือเป็นจำนวนมากทั่วทั้งเอเชีย จากการประเมินของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ ระบุว่า จำนวนประชากรเสือทั่วโลกมีเพียง 2,154 ตัวเท่านั้น
ประเทศที่มีประชากรเสือ ซึ่งประกอบด้วย บังกลาเทศ ภูฏาน จีน กัมพูชา อินเดีย อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า เนปาล รัสเซีย ไทย และเวียดนาม ได้เริ่มดำเนินการแผนในปี 2553 ที่จะเพิ่มประชากรเสือเป็น 2 เท่าภายในปี 2565 โดยเจ้าหน้าที่จาก 13 ประเทศ มีกำหนดพบหารือกันในวันที่ 12-14 เม.ย. ที่เมืองเดลี เพื่อหารือเกี่ยวกับเป้าหมาย.
.
.