รอยเตอร์ - จีนยังคงพยายามที่จะแก้ปัญหาโครงการเขื่อนที่หยุดกลางคันในพม่า รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีนเผยวันนี้ (8) และย้ำว่า จีนมีความเชื่อมั่นในรัฐบาลใหม่ที่นำโดยพรรคของอองซานซูจี
ในปี 2554 ประธานาธิบดีเต็งเส่ง สร้างความไม่พอใจให้แก่ปักกิ่ง ด้วยการระงับโครงการเขื่อนมิตโสน ที่จีนลงทุนมูลค่า 3,600 ล้านดอลลาร์ โดย 90% ของพลังงานจะถูกส่งไปจีน
ส่วนโครงการของจีนอื่นๆ ในพม่าก็ตกเป็นประเด็นถกเถียง เช่น โครงการเหมืองทองแดงเล็ตปะด่อง และโครงการท่อส่งน้ำมันและก๊าซที่ตัดผ่านประเทศ
จีนต้องการที่จะช่วยพม่าให้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และดียิ่งขึ้น หวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน ระบุในการแถลงข่าว
“เขื่อนมิตโสนเป็นโครงการความร่วมมือทางพาณิชย์ และได้รับการอนุมัติทั้งหมดแล้ว ความยากลำบากในความร่วมมือเป็นความเจ็บปวดของการเติบโต ทั้งสองประเทศจะหาทางแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม” รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าว
“เรามีความเชื่อมั่นในอนาคตของความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างจีน-พม่า” หวัง อี้ กล่าว แต่ไม่ให้รายละเอียดว่าปัญหาเขื่อนมิตโสนจะได้รับการแก้ปัญหาอย่างไร และเมื่อใด
พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของอองซานซูจี ครองที่นั่งในสภาราว 80% จากการเลือกตั้งในเดือน พ.ย. มากพอที่จะผลักดันผู้สมัครของตัวเองครองตำแหน่งประธานธิบดี แต่ซูจี ไม่สามารถทำหน้าที่ในตำแหน่งผู้นำประเทศได้ เนื่องจาก ซูจี มีทายาทเป็นชาวต่างชาติ
พรรค NLD ไม่มีหมายเลข 2 รองจากซูจี ที่ได้กล่าวว่า เธอจะควบคุมรัฐบาลเหนือประธานาธิบดี และข่าวลือได้แพร่สะพัดเกี่ยวกับผู้ที่จะมาทำหน้าที่สูงสุดของประเทศ
ขณะเดียวกัน ปักกิ่งที่มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า ได้หันมาผูกสัมพันธ์กับซูจี ที่พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในกรุงปักกิ่งเมื่อปีก่อน
หวัง อี้ กล่าวว่า ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นของจีนกับพม่าจะไม่เปลี่ยนแปลงเพราะสถานการณ์ภายในประเทศ
“อองซานซูจี และพรรค NLD ที่เธอเป็นผู้นำนั้น ได้แลกเปลี่ยนอย่างเป็นมิตรกับจีนอยู่เสมอ และความเข้าใจ และไว้วางใจต่อกันก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ในอนาคตของพม่า” หวัง อี้ กล่าว.