เอเอฟพี/เอพี - พริกไทยกัมโป้ท ของกัมพูชา ได้รับการขึ้นทะเบียนคุ้มครองจากสหภาพยุโรป เข้าร่วมกลุ่มสินค้าอาหารที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ ร่วมกับแชมเปญ คอร์นิชพาสตี้ กอร์กอนโซล่าชีส กรูแยร์ชีส พาร์มาแฮม และชาดาร์จีลิ่ง
สำนักงานสหภาพยุโรปในกัมพูชาระบุในคำแถลงเมื่อวันพุธ (2) ว่า การจดทะเบียนพริกไทยกัมโป้ท เมื่อวันที่ 18 ก.พ. นับเป็นครั้งแรกที่สินค้ากัมพูชาได้รับการรับรองสถานะการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (PGI) ของสหภาพยุโรป ที่เป็นเหมือนกับเครื่องหมายการค้ารับรองแหล่งกำเนิดของอาหาร ที่จะทำให้สินค้าใดก็ตามที่วางจำหน่ายในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปที่เรียกตัวเองว่า “พริกไทยกัมโป้ท” ต้องมาจากพื้นที่ที่กำหนดไว้ในภาคใต้ของกัมพูชา คือ จ.กัมโป้ท และ จ.แกบ
คำแถลงของสหภาพยุโรประบุว่า พริกไทยกัมโป้ท จะได้ประโยชน์จากการคุ้มครองระดับสูงสุดในตลาดสหภาพยุโรป
กัมโป้ท ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนานจากพ่อครัวจำนวนมากในฐานะแหล่งผลิตพริกไทยสายพันธุ์ที่ดีที่สุดสายพันธุ์หนึ่งของโลก ตั้งแต่ครั้งที่กัมพูชาตกอยู่ภายใต้อาณานิคมฝรั่งเศส และพริกไทยถูกส่งออกไปอย่างกว้างขวาง แต่อุตสาหกรรมการผลิตพริกไทยกัมโป้ทล่มสลายลงในยุคการปกครองของเขมรแดง เนื่องจากพื้นที่เกษตรส่วนใหญ่ของประเทศถูกแทนที่ด้วยนาข้าวภายใต้การปกครองอันโหดร้าย
แต่อุตสาหกรรมพริกไทยฟื้นตัวกลับมาอีกครั้งในช่วงทศวรรษ 1990 และในปี 2553 กระทรวงพาณิชย์กัมพูชาเริ่มดำเนินการคุ้มครองพริกไทยกัมโป้ท ด้วยการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ภายในประเทศ
ประธานสมาคมส่งเสริมพริกไทยกัมโป้ทกัมพูชา ระบุว่า รู้สึกยินดีต่อการคุ้มครองใหม่ที่ได้รับที่จะช่วยปกป้องผู้ซื้อขายในตลาดจากการแอบอ้างใช้ชื่อกัมโป้ทกับสินค้าที่ไม่ใช่ของแท้
“พริกไทยกัมโป้ท มีชื่อเสียงมากจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะถูกปลอมแปลงเลียนแบบ” ประธานสมาคมกล่าวและว่า พริกไทยจำนวนหลายร้อยตันที่ขายในสหภาพยุโรปในแต่ละปีนั้นโฆษณาผิดๆ ว่าเป็นสายพันธุ์กัมโป้ท
แม้ว่าสินค้าที่ได้รับการคุ้มครองจากสหภาพยุโรปส่วนมากผลิตขึ้นภายในประเทศสมาชิก แต่สหภาพยุโรปก็ได้เพิ่มการคุ้มครองสถานะให้แก่สินค้าที่อยู่นอกกลุ่มมากขึ้น
ในปี 2558 กัมพูชาผลิตพริกไทยกัมโป้ทได้ราว 60 ตัน โดย 70% ถูกส่งออกต่างประเทศ ส่วนใหญ่มีปลายทางที่สหภาพยุโรป สหรัฐฯ และญี่ปุ่น.