รอยเตอร์ - กัมพูชาจะยังไม่จัดเลือกตั้งไปอีก 2 ปี แต่เมื่อมองไปที่นายกรัฐมนตรีฮุนเซน กลับดูเหมือนว่าการเลือกตั้งกำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้
พรรคของฮุนเซนเฉือนชนะการเลือกตั้งครั้งล่าสุดในปี 2556 ไปอย่างฉิวเฉียด โดยเสียที่นั่งในสภาให้แก่ฝ่ายค้าน สั่นคลอนอำนาจที่ครอบครองมาอย่างเหนียวแน่นหลายทศวรรษ
นักวิเคราะห์ระบุว่า ในตอนนี้ ฮุนเซน ได้เร่งความพยายามที่จะเพิ่มความนิยมให้แก่ตัวเอง สกัดฝ่ายค้าน และป้องกันไม่ให้เกิดภัยพิบัติในการเลือกตั้งปี 2561
การเลือกตั้งครั้งต่อไปจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เมื่อฮุนเซน หนึ่งในพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดของจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังต่อสู้เพื่อต่อเวลาให้แก่การปกครองของตัวเอง
ในหนังสือเวียนเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ระบุว่า ได้ไล่ออกหรือว่าจ้างเจ้าหน้าที่หลายร้อยคนในการปฏิรูปที่มีเป้าหมายจะเรียกความเชื่อมั่นของประชาชน
และเมื่อไม่นานนี้ ฮุนเซน ได้อัดฉีดเงินเดือนให้แก่ข้าราชการ และแรงงานในภาคตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูป และคลายกฎหมายที่ไม่ได้รับความนิยมที่เกี่ยวข้องต่อป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ และภาษีมรดก รวมทั้งเพิ่มความร้อนแรงต่อนักการเมืองคู่แข่ง สม รงสี หัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP)
สม รังสี หลบหนีไปฝรั่งเศสในเดือน พ.ย. เพื่อเลี่ยงการจับกุมจากคดีหมิ่นประมาทเก่า ที่นักวิจารณ์ระบุว่า ถูกรื้อฟื้นขึ้นตามคำสั่งของฮุนเซน
ผู้นำกัมพูชาเริ่มใช้ประโยชน์จากพลังของอินเทอร์เน็ต ด้วยหวังให้ภาพรุนแรงของเขาดูเบาบางลง และเข้าถึงผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งหนุ่มสาวที่หันหลังให้เขาไปในปี 2556
การเปิดใช้สื่อสังคมออนไลน์ของฮุนเซนในตอนนี้ ความนิยมบนเฟซบุ๊กของฮุนเซนขยับเข้าใกล้กับสม รังสี ด้วยจำนวนยอดไลก์ล่าสุดบนหน้าเพจของนายกรัฐมนตรี มีทั้งสิ้น 1.8 ล้านคน ส่วนสม รังสี มี 2 ล้านคน และเมื่อไม่นานนี้ ฮุนเซน ยังเปิดตัวเว็บไซต์ส่วนตัว และแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนอีกด้วย
แต่นักวิเคราะห์บางส่วนตั้งคำถามว่า สิ่งต่างๆ เหล่านี้เพียงพอที่จะขจัดความไม่พอใจอย่างกว้างขวางต่อการปกครองด้วยอำนาจเด็ดขาดของฮุนเซนได้หรือไม่
เหตุทำร้ายร่างกายสมาชิกรัฐสภาจากพรรคสมรังสี โดยกลุ่มคนที่ภักดีฮุนเซนในเดือน ต.ค. ทำให้นึกถึงการหวนคืนฟอร์มของชายที่กล่าวสุนทรพจน์ทางโทรทัศน์ในปี 2548 ที่บอกฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองให้เตรียมโลงศพ และสั่งเสียกับภรรยา
นักการเมืองฝ่ายค้านอีกจำนวนหนึ่งถูกจำคุก ขณะที่การชุมนุมประท้วง รวมทั้งการชุมนุมของแรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูปอีกนัดหนึ่งเมื่อเดือนก่อน ถูกทางการเข้าสลายอย่างรุนแรง
กลยุทธ์ของฮุนเซน คือ การบีบฝ่ายค้าน และเปลี่ยนโฉมตัวเองให้เป็นนักปฏิรูปที่กำลังทำสิ่งที่ดีเพื่อประชาชน เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการเพื่อการเลือกตั้งอย่างเสรี และยุติธรรมในกัมพูชา หน่วยงานเฝ้าระวังการเลือกตั้งที่มีสำนักงานอยู่ในกรุงพนมเปญ ระบุ
“แต่สไตล์การเป็นผู้นำของฮุนเซนยังคงเกี่ยวกับความกลัว และบีบบังคับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น” เจ้าหน้าที่รายเดิม กล่าว
.
.
นักวิเคราะห์กล่าวว่า พรรคประชาชนกัมพูชาของฮุนเซนถูกสั่นคลอนด้วยการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ของพม่าในเดือน พ.ย. ที่การปกครองเผด็จการถูกโค่นโดยฝ่ายค้านที่สนับสนุนประชาธิปไตยซึ่งถูกกดขี่ข่มเหงมายาวนาน
ชัยชนะของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของอองซานซูจี ต่อคู่แข่งที่กองทัพให้การสนับสนุน สร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้สำรวจความคิดเห็นหลายสำนัก
ผลการเลือกตั้งของพม่าเป็นการพัฒนาที่น่ายินดี สมาชิกรัฐสภาของพรรค CPP กล่าวต่อรอยเตอร์ พร้อมยืนยันว่า ความเชื่อของพรรคว่าเป็นเพียงหนทางเดียวที่จะชนะการเลือกตั้งก็คือ การทำให้แน่ใจว่าประชาชนจากทุกภูมิหลังทางการเมืองสามารถมีชีวิตที่ดีขึ้น
ความพยายามของฮุนเซนที่จะปฏิรูปพรรค และภาพลักษณ์ ไม่เป็นที่น่าเชื่อถือ และไม่มีประสิทธิภาพ สม รังสี กล่าวต่อรอยเตอร์ผ่านทางอีเมล
การปฏิรูปใดๆ ของพรรค CPP จะถูกบ่อนทำลายด้วยระบบพวกพ้อง และการทุจริตตามสิ่งที่พรรคก่อตั้งขึ้น สม รังสี ระบุ
“พรรค CPP ได้กลายเป็นสิ่งที่ผิดยุคผิดสมัย” สม รังสี กล่าว
สม รังสี อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ได้หวนกลับคืนประเทศจากการลี้ภัยมาแล้วถึง 2 ครั้งเพื่อร่วมต่อสู้ในการเลือกตั้งทั่วไปหลังฮุนเซนลงนามขอพระราชทานอภัยโทษให้พ้นจากข้อหาต่างๆ
นายกรัฐมนตรีได้ให้คำมั่นเมื่อเดือน ธ.ค. ว่า จะตัดมือขวาของตัวเองหากลงนามขอพระราชทานอภัยโทษอีก
แม้จะกล่าวเช่นนั้น แต่นักวิเคราะห์ระบุว่า การกลับสู่ประเทศของสม รังสี มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้น เพราะการเลือกตั้งโดยไร้หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านจะไม่มีความชอบธรรม ซึ่งไม่เป็นไปตามที่พรรค CPP ต้องการ
“ฮุนเซนต้องการให้สม รังสี กลับมา” นักวิเคราะห์ กล่าว.