เอเอฟพี - สมาชิกพรรคของอองซานซูจี จะเข้านั่งเก้าอี้ในรัฐสภาในวันที่ 1 ก.พ.นี้ ตามการเปิดเผยของประธานสภาผู้แทนราษฎร ในการเริ่มต้นยุคใหม่ของประเทศที่อยู่ภายใต้การปกครองของกองทัพทหารนานหลายทศวรรษ
พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของอองซานซูจี ชนะเสียงส่วนใหญ่ในการเลือกตั้งครั้งสำคัญเมื่อเดือน พ.ย. หลังต่อสู้ดิ้นรนนานเกือบครึ่งศตวรรษของการปกครองของทหาร
ในคำแถลงของฉ่วย มาน ประธานสภาผู้แทนราษฎรประกาศวันนี้ (6) ว่า สมาชิกรัฐสภาทั้งหมดจะเริ่มต้นสภาชุดใหม่ในเวลา 10.00 น. ของวันจันทร์ที่ 1 ก.พ.2559
แต่รัฐบาลชุดใหม่จะเริ่มทำหน้าที่ช้าไปกว่านั้นตามระบบการเมืองที่ซับซ้อนของประเทศ ที่จะสามารถตั้งขึ้นได้ก็ต่อเมื่อประธานาธิบดีเต็งเส่ง ก้าวลงจากตำแหน่งในวันที่ 31 มี.ค.
รัฐสภาที่พรรค NLD ครองเสียงข้างมากจะเข้าแทนที่รัฐสภาชุดปัจจุบันที่พรรคสหภาพสามัคคีและการพัฒนาครอบครองอยู่ ซึ่งปกครองประเทศนับตั้งแต่สิ้นสุดการปกครองของกองทัพทหารในปี 2554
สิ่งแรกที่สมาชิกรัฐสภาจะต้องทำคือ การเลือกประธานาธิบดีคนต่อไป
รัฐสภาจะเลือกประธานาธิบดีจากผู้สมัคร 3 คน ที่ถูกเสนอชื่อขึ้นมาจากสภาสูง (วุฒิสภา) สภาล่าง (สภาผู้แทนราษฎร) และกองทัพ ที่ครองที่นั่ง 1 ใน 4 ของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ
รัฐธรรมนูญที่รัฐบาลเผด็จการทหารร่างขึ้นกำหนดห้ามอองซานซูจีจากการทำหน้าที่ในตำแหน่งประธานาธิบดี เพราะซูจีสมรส และมีทายาทเป็นชาวต่างชาติ
ซูจี กล่าวว่า เธอจะปกครองอยู่เหนือตัวแทน โดยไม่ให้รายละเอียดว่าการจัดการนี้จะทำงานอย่างไร หรือใครที่เธอต้องการให้เป็นประธานาธิบดี
รัฐบาลของเต็งเส่ง ดำเนินการปฏิรูปการเมือง และเศรษฐกิจที่มีผลให้เกิดการเลือกตั้งในเดือน พ.ย. แต่รัฐบาลชุดใหม่จะเผชิญต่อความท้าทายซึ่งยากที่จะจัดการ รวมทั้งการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ปล่อยให้ย่ำแย่จากการปกครองของรัฐบาลเผด็จการทหาร และการสิ้นสุดสงครามกลางเมืองที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่พึ่งอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างซูจี และกองทัพ ที่ควบคุมตัวซูจีในบ้านพักมาเป็นเวลานานกว่า 15 ปี ระหว่างการปกครองของรัฐบาลเผด็จการทหาร
แม้จะมีการปฏิรูป แต่กองทัพยังคงมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจ และการเมืองอย่างมาก
นับตั้งแต่ชนะการเลือกตั้ง ซูจี ได้พยายามเข้าหากองทัพ และเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนของเธอหาทางปรองดองมากกว่าแก้แค้น แม้จะอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลเผด็จการทหารอันโหดร้ายมาเป็นเวลาหลายปีก็ตาม.