MGRออนไลน์ -- ทางการคอมมิวนิสต์ลาวประกาศจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้น ในวันที่ 20 มี.ค.ศกนี้ และ ปีนี้่พิเศษสุดเพราะเป็นครั้งแรกที่จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาประชาชนแขวง (จังหวัด) ต่างๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งนครเวียงจันทน์ ทั้งนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับปรับปรุงแก้ไขปี พ.ศ.2558 ที่สภาแห่งชาติอนุมัติผ่านในเดือน ธ.ค.
การเลือกตั้งสมาชิกสภาแห่งชาติ (National Assembly) ที่ประกอบด้วยผู้แทนราษฎรจากแขวงทั่วประเทศ เป็นเหตุการณ์ที่จัดให้มีขึ้นทุกๆ 5 ปี หลังการประชุมใหญ่ หรือ การประชุมสมัชชาพรรค (Party Congress) ของพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการนำ รวมทั้งการกำหนดนโยบาย ทั้งในระดับพรรคและรัฐบาล
ประธานประเทศลาวได้ออกดำรัสฉบับหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ประกาศวันเลือกตั้งอันสำคัญ พร้อมประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการรับผิดชอบการเลือกตั้ง โดยมีนายาบุนยัง วอละจิต กรรมการกรมการเมืองและรองประธานประเทศเป็นประธาน นางปานี ยาทอตู่ ประธานสภาแห่งชาติชุดปัจจุบัน เป็นรองประธาน
คณะกรรมการประกอบด้วยผู้นำระดับสูงรวมทั้งนายสมพัน แพงคำมี รองประธานสภาแห่งชาติ นายจันสี โพสีคำ หัวหน้าคณะกรรมการจัดตั้งศูนย์กลางพรรค พล.ท.แสงนวน ไซยะลาด คณะเลขาธิการศูนย์กลางพรรค รมว.กลาโหม ศ.ดร.บ่อแสงคำ วงดาลา รมว.กระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ศ.ดร.กิแก้ว ไขคำพิทูน หัวหน้าคณะกรรมการโฆษณาอบรมศูนย์กลางพรรค ดร.สอนไซ สีพันดอน รัฐมนตรีหัวหน้าห้องว่าการรัฐบาล พล.ต.สมแก้ว สีลาวง รมว.กระทรวงป้องกันความสงบ กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงอื่นๆ อีก 8 คน
ตามรายงานของสำนักข่าวทางการ หลังประชุมพิจารณาและอภิปรายเป็นเวลา 2 วัน ในวันที่ 8 ธ.ค. สมาชิกสภาแห่งชาติได้ลงมติ ผ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับปรับปรุงแแก้ไข พ.ศ.2558 อย่างเป็นเอกฉันท์ โดยกฎหมายสูงสุดของชาติฉบับใหม่ "จะเป็นพื้นฐานในการสร้างบรรดานิติกรรมต่างๆ ของลาว เพื่อรับประกันการคุ้มครองรัฐ คุ้มครองเศรษฐกิจ" ด้วยกฎหมายที่มีความเข้มแข็ง และ ใช้ได้อย่างยาวนาน
รัฐธรรมนูญมีการเพิ่มเนื้อหาจำนวน 3 หมวด ที่ว่าด้วยสภาประชาชนท้องถิ่น การตรวจสอบแห่งรัฐ และ ว่าด้วยคณะกรรมการเลือกตั้ง
สภาประชาชนแขวง (และนคร) จะเป็นอำนาจใหม่ ในการกำกับและตรวจสอบการทำงานของคณะบริหารงานระดับท้องถิ่น ที่นำโดย "เจ้าแขวง" (หรือผู้ว่าราชการจังหวัด) และ "เจ้าครอง" (ผู้ว่าราชการนครเวียงจันทน์) ซึ่งไปจากการแต่งตั้งโดยรัฐบาล ซึ่งขณะเดียวกันยังทำหน้าที่เป็น "เลขาพรรคแขวง" ในระบบของลาว อันเป็นตำแหน่งการนำสูงสุดในท้องถิ่นต่างๆ ด้วย
อย่างไรก็ตามเจ้าแขวง/เลขาพรรคแขวง รวมทั้งสมาชิกสภาประชาชนแขวงที่จะมีการเลือกตั้ง ล้วนเป็นบุคคลของพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ไม่มีมาตราใดของรัฐธรรมนูญฉบับปรับแรุงแก้ไข ระบุเกี่ยวกับการอนุญาติให้จัดตั้ง หรือ การมีส่วนร่วมของพรรคการเมือง หรือ องค์กรการเมืองอื่นใด ซึ่งจะทำให้สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กลายเป็นระบบการเมืองแบบหลายพรรคตามที่บางฝ่ายคาดหวัง
ยังมีอีกหนึ่งหมวด ที่มีการแก้ไขว่าด้วยเศรษฐกิจแห่งรัฐ ซึ่งมีการระบุอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรกว่า "เป็นเศรษฐกิจตลาดตามทฤษฎีสังคมนิยม ที่ประกอบด้วยหลายภาคส่วนเศรษฐกิจ ที่ดำรงอยู่อย่างยาวนาน มีความเสมอภาค ทั้งแข่งขันและร่วมมือกันภายใต้กฎหมาย"
รัฐธรรมนูญของลาวยังระบุชัดเจนว่า "สภาแห่งชาติเป็นองค์กรสูงสุดแห่งอำนาจรัฐ" ขณะเดียวกันก็มีการกระจายอำนาจส่วนหนึ่ง ไปให้รัฐบาล เช่น การพิจารณาให้หรือถอดถอนสัญชาติ หรือการให้นามยศพลเมืองกิติมศักดิ์ และโอยอำนาจการอภัยโทษ การแต่งตั้งหรือถอดถอนผู้พิพากษาศาลประชาชนสูงสุด รองประธานศาลทหารชั้นสูง และ ผู้พิพากษาท้องถิ่น ไปเป็นอำนาจของประธานประเทศ.
