เอพี - ทางการกัมพูชา กำลังดำเนินการปราบปรามความรุนแรงที่เกี่ยวข้องต่ออาวุธปืนด้วยการย้ำเตือนเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ห้ามพกพาอาวุธปืนนอกเวลางาน
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชา ระบุว่า กระทรวงมหาดไทยได้ออกคำสั่งห้ามดังกล่าวมาแล้วหลายปี แต่ผู้บัญชาการตำรวจกรุงพนมเปญในสัปดาห์นี้ ได้ออกมาย้ำเตือนเจ้าหน้าที่ถึงกฎระเบียบดังกล่าวอีกครั้ง เนื่องจากมีเหตุอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องต่อปืนเกิดขึ้น
เมื่อเดือนก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่อยู่ในหน้าที่ถูกกล่าวหาว่ายิงประชาชนเสียชีวิต 2 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน ในเหตุขัดแย้งระหว่างเพื่อนบ้าน โดยหนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ได้อ้างคำกล่าวของผู้บัญชาการตำรวจกรุงพนมเปญระบุว่า เป็นข้อบกพร่องของเจ้าหน้าที่จากการใช้ปืนอย่างขาดความรับผิดชอบ
เมื่อเดือน ธ.ค. นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ยังมีคำสั่งปราบปรามแก๊งที่ใช้อาวุธลักทรัพย์ หลังมีประชาชนถูกฆ่าหลายราย
เจ้าหน้าที่ตำรวจที่สอบสวนการลักทรัพย์โดยมีอาวุธที่เกิดขึ้นหลายครั้งเมื่อไม่นานที่ผ่านมา อาจถูกลดตำแหน่งหากไม่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดในคดีนี้ได้ ซาร์ เค็ง รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย กล่าว ขณะเดียวกัน ได้ยอมรับว่าอาวุธที่ถูกนำไปใช้ก่ออาชญากรรมเหล่านี้อาจถูกขโมยมาจากรัฐ
“กองกำลังตำรวจทั้งหมดได้รับอนุญาตให้พกพาอาวุธเฉพาะเมื่ออยู่ในระหว่างภารกิจ หรือปฏิบัติหน้าที่ แต่ห้ามพกพาอาวุธปืนขณะอยู่นอกเวลางาน หรือเก็บไว้ที่บ้าน หากฝ่าฝืนคำสั่งจะถูกปลด หรือจำคุก” เกิธ จันทฤทธิ์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชา กล่าว
กัมพูชา เต็มไปด้วยอาวุธปืนหลังประเทศตกอยู่ในภาวะสงครามกลางเมืองเป็นเวลามากกว่า 3 ทศวรรษ จนกระทั่งปลายทศวรรษ 1990 รัฐบาลได้นิรโทษกรรมเพื่อเกลี้ยกล่อมให้ประชาชนส่งคืนอาวุธของพวกเขา
เหตุยิงปืนที่ผ่านมาหลายครั้งเกี่ยวข้องต่อชาวกัมพูชาที่ร่ำรวย มีเส้นสาย และบอดี้การ์ดส่วนตัว ซึ่งมักไม่ถูกลงโทษในระบบยุติธรรมที่มีช่องโหว่ ในปี 2555 นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ได้กล่าวต่อเจ้าหน้าที่ประจำจังหวัด ว่า คนที่มีอิทธิพลต้องเผชิญต่อการลงโทษ หากพวกเขาถือห รือยิงปืนในที่สาธารณะ.