รอยเตอร์ - เวียดนามพยายามที่จะขัดขวางประชาชนจากการอ่านเนื้อหาที่โพสต์ลงบนเว็บไซต์ต่างๆ ที่วิพากษ์วิจารณ์พรรคคอมมิวนิสต์ และเตือนถึงการเพิ่มจำนวนขึ้นของกิจกรรมที่เป็นพิษภัยเหล่านี้ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนการเปลี่ยนผู้นำในพรรคคอมมิวนิสต์
รัฐบาลได้ให้คำมั่นว่าจะจัดการกับการวิพากษ์วิจารณ์พรรคบนสื่อสังคมออนไลน์ ในช่วงก่อนการประชุมสมัชชาแห่งชาติในเดือนม.ค. และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าการโจมตีส่วนใหญ่มีต้นตอจากต่างประเทศ
"หน้าเพจเฟซบุ้คเหล่านี้บิดเบือนมากและพูดถึงผู้นำพรรค รัฐบาล และนโยบายของเราในทางไม่ดี คาดว่าหน้าเพจไม่ดีเหล่านี้จะปรากฎเพิ่มขึ้นในช่วงการประชุมสมัชชาและการเลือกตั้ง" เจื่อง มิง ต่วน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงข้อมูลข่าวสารและโทรคมนาคม โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ้ค
การจัดการอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อสังคมออนไลน์ ได้กลายเป็นสิ่งที่พรรคต้องพยายามสร้างความสมดุล เพราะพรรคควบคุมประเทศอย่างเข้มงวดมานานกว่า 40 ปี แต่ก็เสี่ยงที่จะสร้างความไม่พอใจในหมู่ประชาชน หากพรรคดำเนินการควบคุมเว็บไซต์อย่างเข้มงวดแบบจีน
การหารือเรื่องการเมืองยังคงเป็นสิ่งต้องห้าม และเจ้าหน้าที่ได้จัดการอย่างรุนแรงกับผู้เห็นต่างบนสื่อออนไลน์ ที่ทำให้กลุ่มสิทธิมนุษยชนไม่พอใจจากการจับกุม ข่มขู่ และจำคุกบล็อกเกอร์และนักเคลื่อนไหวหลายสิบคน
อินเทอร์เน็ตเป็นที่นิยมอย่างมหาศาล มีผู้ใช้งาน 49% จากประชากร 90 ล้านคนของประเทศ โดย 2 ใน 3 ของผู้ใช้งานมีอายุต่ำกว่า 30 ปี ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายสมาร์ทโฟนได้อย่างมาก
1 ใน 3 ของชาวเวียดนามใช้งานเฟซบุ้ค ที่นายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง ได้อ้างอิงตัวเลขนี้เมื่อเดือนก่อนในจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องประชาชนให้ใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างรับผิดชอบ โดยนายกฯ ยวุ๋ง เป็นคนแรกในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคที่สนับสนุนรัฐบาลใช้งานเฟซบุ้ค
ในการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จะได้เห็นผู้นำพรรคคนใหม่และสมาชิกกรมการเมือง หรือโปลิตบูโร ที่เลือกโดยสมาชิกคณะกรรมการกลางพรรค แต่ชื่อผู้สมัครชิงผู้นำพรรคยังคงเป็นความลับ
ความเคลื่อนไหวการประชุมสมัชชาพรรคถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดโดยรัฐบาลต่างชาติและนักลงทุนที่ต้องการทราบกระบวนการที่อาจกำหนดแนวทางนโยบายต่างประเทศของเวียดนาม และขอบเขตของการปฏิรูปที่สนับสนุนธุรกิจ.