รอยเตอร์ - อองซานซูจี หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านของพม่าเผยวันนี้ (5) ว่า จะอยู่เหนือประธานาธิบดีหากพรรคของเธอชนะการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ในวันที่ 8 พ.ย.นี้ ที่เป็นการท้าทายรัฐธรรมนูญที่ห้ามซูจี จากตำแหน่งผู้นำประเทศ
การเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 พ.ย.นี้ ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รัฐบาลกึ่งพลเรือนเข้าบริหารประเทศในปี 2554 หลังอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลเผด็จการทหารนานเกือบ 50 ปี และยังเป็นประชามติต่อกระบวนการปฏิรูปของพม่า
“ฉันจะอยู่เหนือประธานาธิบดี รัฐธรรมนูญไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับคนที่อยู่เหนือประธานาธิบดี” ซูจีกล่าวด้วยท่าทีผ่อนคลายต่อผู้สื่อข่าวในนครย่างกุ้ง ในงานแถลงข่าวครั้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง
พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของซูจี คาดว่าจะทำได้ดีในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเคยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งปี 2533 แต่ถูกทำให้เป็นโมฆะโดยรัฐบาลเผด็จการหทาร และซูจี ถูกควบคุมตัวในบ้านพักในช่วง 20 ปีต่อมา
ช่องว่างระหว่างการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ (8) และการทำหน้าที่ของรัฐบาลชุดใหม่ในเดือน ก.พ. ปีหน้า ยังเป็นเหตุของความวิตกกังวล ตามที่ซูจี กล่าวต่อผู้สื่อข่าวที่งานแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านพักในนครย่างกุ้ง
ซูจี ยังเรียกร้องให้ประชาคมโลกระมัดระวังในช่วงการเปลี่ยนแปลง ซึ่งซูจี กล่าวว่า เป็นช่วงสำคัญที่สุดเช่นเดียวกับการเลือกตั้งที่เสรี และเป็นธรรม นอกจากนั้น การเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มชาวพุทธหัวรุนแรง “มะบะธา” ที่วิพากษ์วิจารณ์พรรค NLD อย่างหนักว่า ไม่สนับสนุนชุดกฎหมายที่ถูกมองว่าต่อต้านชาวมุสลิมนั้นก็ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ซูจี ได้กล่าวถึงปัญหาของชาวโรฮิงญา ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในรัฐยะไข่ทางภาคตะวันตกของประเทศว่า ไม่ควรพูดขยายเกินกว่าความจริง.