MGRออนไลน์ -- ทางการคอมมิวนิสต์ลาวได้ฌาปนกิจศพผู้นำทางพุทธศาสนาอย่างสมเกียรติ ในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นในตอนบ่าย มีชาวนครเวียงจันทน์กว่า 2,000 คน รวมทั้งผู้แทนจากองค์กรจากทั่วสารทิศและจากแขวงทั่วประเทศ ไปร่วมกันไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย รวมทั้งเข้าร่วมวางดอกไม้จันทร์สักการะ "พระอาจารย์ใหญ่" บนเมรุชั่วคราว ที่จัดทำขึ้นบริเวณลานพระธาตุหลวง
การฌาปนกิจศพมีขึ้นเมื่อเวลา 21.00 น. หนังสือพิมพ์ของทางการารายงาน
ตอนบ่ายวันเดียวกัน มีการเคลื่อนศพพระอาจารย์ ดร.มหาผ่อง สะมาเลิก อดีตประธานศูนย์กลางองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ลาว จากวัดองตื้อมหาวิหาร เมือง (อำเภอ) จันทะบูลี นครเวียงจันทน์ไปยังเมรุพิธี โดยมี พล.ท.จูมมะลี ไซยะสอน เลขาธิการใหญ่พรรคประชาปฏิวัติลาว และ ประธานประเทศ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีศพ พร้อมด้วยคณะรัฐบาล สภาแห่งชาติ ศูนย์กลางแนวลาวสร้างชาติ องค์การจัดตั้งมหาชนต่างๆ ตลอดจนชาวเมืองหลวงไปร่วมกันคับคั่ง
"ໃນຂະບວນເຄື່ອນສົບປະກອບມີ: ຂະບວນຜູ້ຊົງຄຸນວຸດທິ, ຂະບວນສະຫລຽງພຣະມະຫາເຖຣະສູດຍອດມຸກ,ຂະບວນຈູງສົບມີພຣະສົງ ສາມະເນນ 400 ອົງ, ຂະບວນລົດສົບ, ຂະບວນດົນຕີພື້ນເມືອງລາວ, ຂະບວນມະຫາຊົນເຂົ້າຮ່ວມພິທີອັງເຊີນ ແລະກໍາລັງຊາວໜຸ່ມ ຫລາຍກວ່າ 2 ພັນຄົນ ຍືນສອງຂ້າງທາງ ແຕ່ປະຕູໄຊຮອດເດີນທາດຫລວງ.." หนังสือพิมพ์ลาวพัดทะนา ของสมาคมนักข่าวแห่งชาติรายงาน
คนภายนอกเรียกกันทั่วไปว่า "พระสังฆราชลาว" เพื่อให้เข้าใจง่าย แต่ชาวลาวเรียกว่า "พระอาจารย์ใหญ่มหาผ่อง" ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้นำองค์กรรวมของฝ่ายสงฆ์ กับฝ่ายฆราวาสชาวพุทธ เป็นองค์กรที่ไม่มีอำนาจสิทธิ์ขาดอะไร ไม่ได้ตัดขาดทั้งจากทางโลกและการเมือง หากเป็นองค์กรมหาชนอีกแห่งหนึ่ง ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของพรรค มีเสรีภาพในการแผยแผ่พระพุทธศาสนา ภายใต้ระบอบคอมมิวนิสต์
หลังจากอาพาทมาเป็นเวลาหลายปี โดยได้รับการถวายการรักษา จากคณะแพทย์อย่างต่อเนื่อง ผู้นำทางพุทธศาสนาของลาว อาการไม่ดีขึ้น เนื่องจากชราภาพ ในช่วงเดือนหลังๆ จึงพักรักษาอยู่ภายในวัด งดการเดินทาง รวมทั้งงดการเข้าร่วมพิธีสำคัญของชาติ ในโอกาสต่างๆ จนกระทั่งละสังขาร เมื่อวันที่ 7 ต.ค. และ เก็บศพบำเพ็ญกุศล ที่วัดองตื้อมหาวิหารมาตั้งแต่นั้น
.
2
ตามประวัติย่างเป็นทางการ พระอาจารย์ใหญ่ ดร.มหาผ่อง สะมาเลิก ปิยะทีโร เกิดที่ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี เป็นประชาชนไทย บวชเณรเมื่อวันที่ 10 เม.ย.2459 ต่อมาได้อุปสมบทเป็นพระสงฆ์ที่วัดโพธิ์ศรี บ้านกุ้งน้อย อ.ตระการพืชผล จนกระทั่งไปศึกษาที่วัดชนะสงครามและสอนพุทธศาสนา ที่นั่นเป็นเวลาถึง 16 ปี ก่อนเดินทางไปเป็นครูสอน ที่โรงเรียนมัธยมสงฆ์ วัดหลวงปากเซ เมืองปากเซ แขวงจำปาสักของลาวเมื่อปี 2495 และ ทำหน้าที่นี้เป็นเวลา 3 ปี
ปี 2498 ย้ายไปเป็นครูสอนโรงเรียนมัธยมสงฆ์องตื้อ นครเวียงจันทน์ ปี 2500 ได้ย้ายกลับแขวงจำปาสัก ไปเป็นเจ้าเมืองฝ่ายสงฆ์ ที่เมืองโพนทอง รวมเป็นเวลานาน 13 ปี ก่อนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นประธานองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์แขวง และ อยู่ในจำแหน่งเป็นเวลา 6 ปี 6 เดือน
ปี 2519 ซึ่งเป็นปีรุ่งขึ้น หลังจากฝ่ายคอมมิวนิสต์ปะเทดลาวยึดอำนาจ พระมหาผ่องได้รับแต่งตั้ง ไปดำรงตำแหน่งรองประธานองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์แห่งนครเวียงจันทน์
ปี 2553 เมื่อพระอาจารย์ใหญ่มหาวิจิต สิงหาราช วิระยาโน ประธานศูนย์กลาง อพส.ลาว องค์ที่ 3 มรณภาพลง อาจารย์พระมหาผ่อง จึงได้รับแต่งตั้ง ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำองค์การของชาวพุทธในลาวสืบแทน จนกระทั่งมรณภาพ
ตามรายงานของสำนักข่าวทางการก่อนหน้านี้ ศูนย์กลาง อพส.ลาว ได้จัดประชุมวิสามัญครบคณะขึ้นในวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา และ ลงมติเลือก "พระคุณยาท่านใหญ่มหางอน ดำลงบุน" รองประธานอันดับ 1 ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานศูนย์กลางฯ สืบแทนพระอาจารย์ใหญ่มหาผ่อง และ เป็นผู้นำองค์ที่ 5 ขององค์การพุทธศาสนาแห่งลาว
การทำบุญฌาปนกิจศพอาจารย์ใหญ่พระมหาผ่อง จะดำเนินไปจนถึงวันที่ 23 ธ.ค. ที่วัดองตื้อมหาวิหาร โดยมีการทำบุญตักบาตรในยามเช้าประจำทุกวัน มีพิธีสวดมนต์เย็นทุกวัน และ พิธีสงฆ์อื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง สื่อของทางการกล่าว.
[ขอขอบคุณเจ้าของรูปภาพที่แชร์กันในประชาคมออนไลน์ของชาวลาว ขอบคุณอย่างสูง กู้ แก้วเวียงคำ และ หุมเพ็ด มะนีสุก]
3
4
5
6
7