เอเอฟพี - สถานการณ์ทางการเมืองที่ผันผวนมากขึ้นของกัมพูชากำลังผลักดันประเทศไปสู่จุดพลิกผันอันตราย ทูตสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชนประจำกัมพูชาระบุ
กัมพูชาก้าวเข้าสู่ภาวะวิกฤตทางการเมืองหลังออกหมายจับกุมตัวสม รังสี ผู้นำฝ่ายค้านคนสำคัญของประเทศ ที่ทำให้ สม รังสี กล่าวหาว่า นายกรัฐมนตรีฮุนเซนพยายามที่จะทำลายความเคลื่อนไหวของฝ่ายค้าน
โรนา สมิธ ทูตพิเศษสหประชาชาติว่าด้วยสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในกัมพูชา กล่าวว่า การต่อสู้ทางการเมืองที่เพิ่มสูงขึ้นมาพร้อมกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่รวมทั้งเหตุการณ์ความรุนแรง การข่มขู่ และการใช้ภาษาเพื่อการโจมตีในวาทกรรมการเมือง
“เหตุการณ์ปัจจุบันที่ถูกทำให้รุนแรงขึ้นไม่ว่าเหตุการณ์ใดก็ตามอาจทำให้กัมพูชาก้าวไปสู่จุดพลิกผันอันตราย” โรนา สมิธ กล่าวในคำแถลงฉบับหนึ่งที่เผยแพร่วันนี้
สมิธ ระบุว่า เธอไม่ต้องการที่จะแทรกแซงการเมืองภายในของกัมพูชา หรือแสดงความคิดเห็นถึงความถูกผิดของคดีของสม รังสี แต่เธอรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่น่าวิตกกังวลอย่างมากที่หลายข้อกล่าวหาละเมิดการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างสันติ รวมทั้งสิทธิที่จะมีส่วนร่วมในชีวิตทางการเมือง
สม รังสี ที่เผชิญต่อโทษจำคุก 2 ปี หากเดินทางกลับประเทศ ยังถูกตั้งข้อหาเพิ่มเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการทำเอกสารเกี่ยวกับพรมแดนกับเวียดนามที่เป็นข้อพิพาท
สม รังสี ยกเลิกแผนเดินทางกลับกัมพูชาเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังถูกถอดสิทธิคุ้มครองทางรัฐสภา และถูกเรียกตัวขึ้นศาลในวันที่ 4 ธ.ค.
ศาลออกหมายจับหลัง สม รังสี ตอบโต้ทางวาจากับฮุนเซน เมื่อต้นเดือน เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ในประเทศ โดยอ้างการเลือกตั้งที่ประสบความสำเร็จในพม่าเป็นแบบอย่างที่ทำให้ฮุนเซนขู่ว่าจะดำเนินคดีรอบใหม่
รังสี ได้ลี้ภัยตัวเองมาแล้ว 3 ครั้ง เพื่อเลี่ยงโทษจำคุกในสิ่งที่เขาอ้างว่าเป็นข้อหาทางการเมืองที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งของคู่แข่งของเขาที่ปกครองประเทศมา 3 ทศวรรษ
บัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้แสดงความวิตกต่อความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นต่อ สม รังสี และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนักการเมืองฝ่ายค้าน
ในเดือน ต.ค. เจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย ถูกตั้งข้อหาทำร้ายสมาชิกสภานิติบัญญัติฝ่ายค้าน 2 คน ระหว่างการชุมนุมประท้วงของพรรคประชาชนกัมพูชา ที่เรียกร้องให้แกม สุขา รองหัวหน้าพรรค CNRP ออกจากตำแหน่งรองประธานสภา และในเวลาต่อมา แกม สุขา ถูกถอดจากตำแหน่งตามมติของสมาชิกสภาพรรครัฐบาล.