ตำรวจเขมรลั่นจะจับตัว “สม รังสี” ทันทีที่ก้าวเท้าถึงประเทศ

เอเอฟพี - ตำรวจกัมพูชาให้คำมั่นว่าจะจับกุมตัว สม รังสี หากผู้นำฝ่ายค้านเดินทางกลับกัมพูชาตามกำหนดในคืนวันนี้ (16) ในความเคลื่อนไหวที่ถูกประณามว่าเป็นการโจมตีทางการเมืองของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ต่อคู่แข่งทางการเมือง

ศาลกัมพูชา ออกหมายจับสม รังสี เมื่อสัปดาห์ก่อน จากความผิดฐานหมิ่นประมาทที่ยังไม่ได้รับโทษ เพียงหนึ่งวันหลังนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ขู่ว่าจะดำเนินการทางกฎหมายจากการแสดงความคิดเห็นของสม รังสี ที่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลงจากตำแหน่งอย่างสันติ

ฮุนเซน ที่ปกครองกัมพูชามาเป็นเวลามากกว่า 3 ทศวรรษ มักถูกกล่าวหาว่ามีอิทธิพลต่อศาลในการปราบปรามฝ่ายตรงข้าม อันเป็นกลวิธีที่มักใช้อยู่บ่อยครั้งนับตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2556 ที่สม รังสี กล่าวว่า พรรคประชาชนกัมพูชาโกงเลือกตั้ง

สม รังสี ที่ในตอนนี้อยู่ระหว่างการเยือนเกาหลีใต้ ถูกตัดสินความผิดในปี 2554 จากการกล่าวหาว่า ฮอร์ นัมฮอง รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเป็นอดีตสมาชิกเขมรแดง เขามีกำหนดเดินทางถึงสนามบินนานาชาติกรุงพนมเปญ ในเวลาประมาณ 22.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) และเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า จะเข้าจับกุมตัวเมื่อสม รังสี ก้าวเท้าลงบนแผ่นดินกัมพูชา

“เราต้องจับตัวเขา มันเป็นหน้าที่ของตำรวจ เราต้องทำเพราะศาลมีคำสั่งให้จับกุมตัว” เกิด จันทฤทธิ์ โฆษกกองบัญชาการตำรวจแห่งชาติกัมพูชา กล่าว

คำสั่งจับกุมตัว สม รังสี ได้รับการยืนยันจาก ซาร์ เค็ง รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ขณะที่โฆษกรัฐสภาระบุว่า หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านเสียสถานะการเป็นสมาชิกรัฐสภาโดยอัตโนมัติ และสิทธิคุ้มครองจากการจับกุมตัวหลังหมายศาลถูกประกาศออกมา

“เมื่อมีหมายศาลออกมา เขาสูญเสียสถานะทั้งหมดเหล่านั้น” เชียง วุน กล่าวต่อผู้สื่อข่าว

ในคลิปวิดีโอที่โพสต์ลงบนเฟซบุ๊กเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ สม รังสี กล่าวว่า เขาจะไม่ทำตามหมายศาล และจะเดินทางกลับประเทศตามแผนเดิม

“กัมพูชาเป็นบ้านเกิด เป็นแผ่นดินแม่ ผมต้องกลับมาเพื่อกู้ชาติของเรา ดังนั้น จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตารางเวลาของผม หากผมต้องตาย ก็ช่างมัน” สม รังสี กล่าว

สหรัฐฯ เรียกร้องการเพิกถอนหมายศาลโดยระบุว่า ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นมีอิทธิพลทางการเมืองเหนือกระบวนการทางศาล ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวนี้ตรงกับรูปแบบของการปราบปรามของฮุนเซน

ผู้นำฝ่ายค้านเป็นคู่แข่งสำคัญของฮุนเซน และได้ลี้ภัยตัวเองในช่วงที่มีคำตัดสินในข้อหาดังกล่าว ที่เขายังเผชิญต่อการตัดสินความผิดอีกหลายข้อหาที่รังสี กล่าวว่า ถูกกุขึ้น

รังสี เดินทางกลับกัมพูชาก่อนหน้าการเลือกตั้งปี 2556 หลังได้รับพระราชทานอภัยโทษจากคำตัดสินต่างๆ แต่ฮิวแมนไรท์วอช ระบุว่า คดีหมิ่นประมาทปี 2554 ไม่ได้ถูกกล่าวถึงในการพระราชทานอภัยโทษครั้งนั้น

ความคิดเห็นเมื่อไม่นานนี้ของสม รังสี ที่เรียกร้องให้ประชาคมโลกกดดันฮุนเซน เพื่อการเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์มีขึ้นระหว่างที่สม รังสี เดินทางเยือนญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังได้แรงบันดาลใจจากการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ในพม่า.