xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.กองทัพพม่าย้ำ "ไม่มีเหตุผลใดจะไม่ยอมรับผลเลือกตั้ง"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#00003>นายพลเอกอาวุโสมินอองหล่าย (Min Aung Hlaing) ไปใช้สิทธิ์ที่หน่วยเลือกตั้ง ภายในกองบัญชาการกองทัพบก ในกรุงเนปีดอตอนสายวันอาทิตย์ 8 พ.ย. ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุด ยืนยันฝ่ายทหารจะเคารพผลที่จะออกมา ขณะเดียวกันก็เตือนให้ทุกฝ่ายต้องเคารพตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนอะไรขึ้นหลังจากนั้น รัฐธรรมนูญที่จัดร่างโดยบัญชาของกองทัพเมื่อหลายปีก่อน ปิดทางมิให้นางอองซานซูจี ผู้นำฝ่ายค้านสามารถเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีได้. -- ภาพ: หนังสือพิมพ์เมียวดี. </b>

MGRออนไลน์ -- ผู้บัญชาการกองทัพพม่า นายพลเอกอาวุโสมินอองหล่าย (Min Aung Hlaing) ได้ย้ำอีกครั้งหนึ่ง ในวันเลือกตั้ง ที่ผ่านมา "ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง" ในขณะที่นายทหารกองทัพ ตลอดจนผู้ใต้บังคับบัญชาได้ออกไปใช้สิทธิ์ของตน อย่างพร้อมเพรียง ทั่วประเทศ

ผู้บัญชาการกองทัพพม่า ระบุดังกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อ หลังจากหย่อนบัตรลงคะแนน พร้อมนางจูจูหลา (Kyu Kyu Hla) ภรรยา ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 1 อำเภอเซยาติริ (Zeyathiri) เขตอะนอรธา (Anarawhta) ในกรุงเนปีดอ หนังสือพิมพ์เมียวดี (Myawady) ซึ่งเป็นเสียงของกระทรวงกลาโหมและกองทัพ รายงานในฉบับเช้าวันจันทร์ 9 พ.ย.นี้

"พรรคการเมืองที่ได้รับความศรัทธาจากประชาชนมากที่สุดจะชนะการเลือกตั้ง" ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ที่จะประกาศโดยคณะกรรมาธิการการเลือกตั้งแห่งชาติ พล.อ.อาวุโสอองหล่ายยังแสดงความหวังว่า บรรดาผู้แทนราษฎรทั้งหลายที่ได้รับเลือกตั้ง จะประสานร่วมมือกัน เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ

อย่างไรก็ตามผู้นำสูงสุดของกองทัพชี้ว่า มีความจำเป็นที่สาธารณชนทั่วไปจะต้องเคารพกฎหมาย และ การเปลี่ยนถ่ายใดๆ ก็ตามที่จะติดตามหลังการเลือกตั้ง จะต้องเป็นไปตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญพม่าประชาชนทั่วไป และ ใช้สิทธิประชาธิปไตยอย่างมีความรับผิดชอบ

นายทหารระดับสูงของกองทัพอีกหลายนาย รวมทั้ง รอง พลเอกอาวุโส พล.อ.โซวิน (Soe Win) รองนายพลเอกอาวุโส ซึ่งเป็นเสนาธิการร่วมกองทัพ และ รองผู้บัญชาการกองทัพ พร้อมภรรยา พล.อ.คินอองมี้น (Khin Aung Myint) ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ พล.ร.ท.ทินอองซาน (Tin Aung San) ผู้บัญชาการทหารทหารเรือ ต่างไปใช้สิทธิ์หย่อนบัตรเลือกตั้งในหน่วยเดียวกัน

นายทหารและบุคคลากรอื่นๆ ของกองทัพ ได้ไปใช้สิทธิ์ที่หน่วยเลือกตั้ง ในเขตที่ตั้งของกองบัญชาการกองทัพ (กองทัพบก) นายทหารและผู้ใต้บังคับบัญชาในหน่วยอื่นๆ ทั่วประเทศ ต่างไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามหน่วยเลือกตั้งของตน

นอกจากนั้นยังมีผู้สังเกตการณ์จากประชาคมระหว่างประเทศ และ ผู้แทนพรรคการเมืองต่างๆ ผู้แทนสื่อต่างๆ เข้าไปทำหน้าที่ ตามหน่วยเลือกตั้ง ที่จัดขึ้นสำหรับฝ่ายกองทัพไปใช้สิทธิ์อีกด้วย เมียวดีกล่าว

รัฐธรรมนูญพม่าฉบับปัจจุบัน ที่เขียนขึ้นภายใต้การกำกับของกองทัพ ในช่วงปี 2551-2553 บัญญัติให้กองทัพมีผู้แทน คิดเป็น 1 ใน 4 ในรัฐสภา หรือ ปีดองซูหลู้ดดอ (Pyidaungsu Hluttaw) ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎร (ปีตูหลู้ดดอ/Pyithu Hluttaw) กับ สภาชนเผ่าหรือวุฒิสภา (อาเมียวตาหลู้ดดอ/Amyotha Hluttaw) โดยไม่ต้องผ่านการเลือกตั้ง

รัฐธรรมนูญยังมีบทบัญญัติห้ามบุคคลที่สมรสกับชาวต่างชาติ หรือ มีทายาทเป็นชาวต่างชาติ รับตำแหน่งสำคัญของชาติ

พม่ากล่าวว่าบทบัญญัติดังกล่าวบังคับใช้กับบุคคลทั่วไป ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง แต่เป็นที่เข้าใจกันทั่วไปเช่นกันว่า บทบัญญัตินี้พุ่งเป้าไปที่ นางอองซานซูจี กีดกันผู้นำฝ่ายค้าน ทำให้ขาดคุณสมบัติที่จะขึ้นเป็นผู้นำประเทศ แม้ว่าพรรคสันนิบาติแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ NLD จะชนะการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์นี้ก็ตาม

ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการที่รายงานในเว็บไซต์หนังสือพิมพ์เอกชนพม่า ในเช้าวันจันทร์นี้แสดงให้เห็นพรรค NLD มีคะแนนนำหน้าพรรคสหภาพสามัคคีและการพัฒนา หรือ USDP ของรัฐบาลที่กองทัพหนนหลัง ในเกือบจะทุกเขตเลือกตั้งทั่วประเทศ

ผลคะแนนล่าสุดแสดงให้เห็น พรรค NLD มีคะแนนพรรครัฐบาลถึง 80% ในเมืองลาบุตตา Labutta) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ในเขตที่ราบปากแม่น้ำอิรวดี และ นับเป็นผลการเลือกตั้งแรก ที่ออกมาจากพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร.
.
<FONT color=#00003>รองนายกพลเอกอาวุโสโซวิน (Soe Win) ไปใช้สิทธิ์ที่หนวยเลือกตั้งเดียวกันกับ ผบ.กองทัพ ซึ่งหนังสือพิมพ์ของกระทรวงกลาโหมรายงานว่า การไปใช้สิทธิ์ของบรรดาผู้นำกองทัพ และ นายทหาร ที่หน่วยต่างๆ ทั่วประเทศ ดำเนินไปท่ามกลางสายตาของผู้สังเกตการณ์ ทั้งจากต่างประเทศ ผู้แทนพรรคการเมืองและสื่อต่างๆ. -- ภาพ: หนังสือพิมพ์เมียวดี. </b>
2
<FONT color=#00003>บรรยากาศที่หน่วยเลือกตั้งแหน่งหนึ่ง ภายในที่ตั้งกองบัญชาการกองทัพบก กรุงเนปีดอ ขณะบรรดานายทหารและผู้ใต้บังคับชา ตลอดจนสมาชิกครอบครัว ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งตอนเช้าวันอาทิตย์ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา. -- ภาพ: หนังสือพิมพ์เมียวดี. </b>
3
กำลังโหลดความคิดเห็น