รอยเตอร์ - ผู้นำจีน และเวียดนามเห็นพ้องกันที่จะจัดการข้อพิพาทอย่างเหมาะสมวานนี้ (3) สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนรายงาน ท่ามกลางความตึงเครียดเกี่ยวกับข้อขัดแย้งทางทะเลในทะเลจีนใต้
ความเคลื่อนไหวของจีนที่เพิ่มมากขึ้นเพื่ออ้างสิทธิอธิปไตยในน่านน้ำของภูมิภาค สร้างความไม่พอใจให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน และก่อให้เกิดความวิตกในสหรัฐฯ แม้ปักกิ่งจะระบุไม่มีเจตนาเป็นศัตรู
การเคลื่อนแท่นขุดเจาะน้ำมันของจีนเมื่อปีก่อนในบริเวณที่เวียดนามเรียกว่า เขตเศรษฐกิจจำเพาะ และไหล่ทวีปของประเทศ ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งเวียดนามราว 120 ไมล์ทะเล ส่งผลให้ความสัมพันธ์ของสองประเทศย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามชายแดนในปี 2522
“เราสนับสนุนการจัดการปัญหาข้อขัดแย้งอย่างเหมาะสมระหว่างสองฝ่ายด้วยการเจรจา และขยายความร่วมมือ และผลประโยชน์ร่วมกัน” ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าวต่อประธานาธิบดีเจื่อง เติ่น ซาง ของเวียดนาม
ผู้นำจีน ระบุว่า เป็นสิ่งจำป็นสำหรับสองประเทศที่จะส่งเสริมการประสานงานทางยุทธศาสตร์ การแลกเปลี่ยน และความร่วมมือ
“เวียดนามหวังที่จะเสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมือง และการแลกเปลี่ยนบุคลากรกับจีน การจัดการความแตกต่างอย่างเหมาะสม และเพิ่มความร่วมมือทั้งสองฝ่าย” ประธานาธิบดีเจื่อง เติ่น ซาง กล่าว
จีน อ้างสิทธิอธิปไตยในทะเลจีนใต้ทับซ้อนกับเวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไต้หวัน และบรูไน
วอชิงตัน ได้ประโยชน์จากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นด้วยการเพิ่มความสัมพันธ์ทางการทูตกับฮานอย ซึ่งจีนมองว่า ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ นั้นจะเป็นการกระตุ้นความตึงเครียดด้วยการสนับสนุนพันธมิตรในภูมิภาค เช่น ฟิลิปปินส์ นอกเหนือจากเวียดนาม
จีน และเวียดนามได้พยายามที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์นับตั้งแต่เกิดเหตุพิพาท และรองนายกรัฐมนตรีจีน ได้เดินทางเยือนเวียดนามเมื่อกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา.