ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย(ศปมผ.) สั่งการให้ทัพเรือภาคที่ 3/ศูนย์ประสานการปฎิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 (ศรชล.เขต 3) ดำเนินการควบคุมเรือประมงนอกน่านน้ำที่เดินทางกลับจากการทำประมงในมหาสมุทรอินเดีย จำนวน 2 ลำ ประกอบด้วยเรือ YU LONG 6 และเรือYU LONG 125 ซึ่งเป็นประมงเบ็ดราวทูน่า โดยมีพฤติกรรมในการทำการประมงผิดกฎหมาย IUU ซึ่งเบื้องต้นทำผิดกฎหมาย
พ.ร.ก.ประมง พ.ศ.2558 และขัดคำสั่ง คสช.ที่ 10/2558 จึงถูกเพิกถูกเพิกถอนทะเบียนเรือ และให้เดินทางกลับเข้ามาดำเนินการตามกฎหมายที่จังหวัดภูเก็ต ต่อมาในวันที่13 กุมภาพันธ์ 2559 พลเรือโทสายันต์ ประสงค์สำเร็จ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการ3/ศูนย์ประสานการปฎิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 3 (ศรชล.เขต3) จึงสั่งการให้เรือหลวงแกลง และเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง991 เดินทางไปควบคุมเรือทั้งสองลำดังกล่าว เมื่อเข้ามาในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศไทย สนับสนุนด้วยการลาดตระเวนทางอากาศด้วยเครื่องบินลาดตระเวนแบบที่ 1 (DO-228) จากหมวดบินเฉพาะกิจ กองเรือปฎิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 3 จนในเวลา 21.00น. สามารถควบคุมเรือทั้งสองลำได้ และให้เดินทางมายังท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต เมื่อเรือทั้งสองลำเดินทางมาถึงท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตเรียบร้อยแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กรมประมง กรมเจ้าท่า ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตรวจคนเข้าเมือง แรงงานจังหวัด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และศูนย์การควบคุมแจ้งเข้าออกเรือประมงPIPO ภูเก็ต จะได้ดำเนินการตรวจสอบ หากพบการกระทำความผิดกฎหมายที่แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบ ก็จะดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการทำการประมง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและมีมาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ โดยการบังคับใช้กฎหมายถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและมีความจริงจัง
พ.ร.ก.ประมง พ.ศ.2558 และขัดคำสั่ง คสช.ที่ 10/2558 จึงถูกเพิกถูกเพิกถอนทะเบียนเรือ และให้เดินทางกลับเข้ามาดำเนินการตามกฎหมายที่จังหวัดภูเก็ต ต่อมาในวันที่13 กุมภาพันธ์ 2559 พลเรือโทสายันต์ ประสงค์สำเร็จ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการ3/ศูนย์ประสานการปฎิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 3 (ศรชล.เขต3) จึงสั่งการให้เรือหลวงแกลง และเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง991 เดินทางไปควบคุมเรือทั้งสองลำดังกล่าว เมื่อเข้ามาในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศไทย สนับสนุนด้วยการลาดตระเวนทางอากาศด้วยเครื่องบินลาดตระเวนแบบที่ 1 (DO-228) จากหมวดบินเฉพาะกิจ กองเรือปฎิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 3 จนในเวลา 21.00น. สามารถควบคุมเรือทั้งสองลำได้ และให้เดินทางมายังท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต เมื่อเรือทั้งสองลำเดินทางมาถึงท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตเรียบร้อยแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กรมประมง กรมเจ้าท่า ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตรวจคนเข้าเมือง แรงงานจังหวัด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และศูนย์การควบคุมแจ้งเข้าออกเรือประมงPIPO ภูเก็ต จะได้ดำเนินการตรวจสอบ หากพบการกระทำความผิดกฎหมายที่แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบ ก็จะดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการทำการประมง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและมีมาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ โดยการบังคับใช้กฎหมายถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและมีความจริงจัง