ไม่รอดสายตา ตำรวจเวียดนามพบงาช้างลอบนำเข้าประเทศปนมากับถั่วแดง

เอเอฟพี - สื่อทางการของเวียดนามรายงานวันนี้ (26) ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดงาช้างลักลอบนำเข้าประเทศผิดกฎหมายได้ 2 ครั้ง ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

เว็บไซต์ข่าววีเอ็นเอ็กซ์เพรส ของเวียดนามรายงานว่า เมื่อวันอังคาร (25) ตำรวจศุลกากรที่ท่าเรือเตี่ยนซา นครด่าหนัง ค้นพบงาช้าง และตัวนิ่มจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ในกระสอบถั่วแดง จำนวน 19.5 ตัน ในตู้สินค้าที่เดินทางมาจากมาเลเซีย ขณะที่สัปดาห์ก่อนหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดงาช้างได้อีก จำนวน 2 ตัน ที่มีต้นทางมาจากไนจีเรีย

เวียดนาม ถูกกล่าวหาว่าเป็นประเทศที่มีการค้าสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ที่เลวร้ายที่สุดประเทศหนึ่งของโลก แม้ทางการจะรณรงค์อยู่บ่อยครั้งเพื่อเตือนชาวเวีดนามไม่ให้ใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ แต่ก็ประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อย

เมื่อต้นเดือน เจ้าหน้าที่ได้จับยึดนอแรด และงาช้างที่มีน้ำหนักรวมกันมากกว่า 700 กิโลกรัม เชื่อว่า มีต้นทางมาจากโมซัมบิก

งาช้าง และชิ้นส่วนอวัยวะอื่นๆ ของช้างมักถูกนำไปใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่ง เป็นเครื่องรางของขลัง และเพื่อใช้ในตำรับยาแผนโบราณในหลายพื้นที่ของภูมิภาคเอเชีย ส่วนในประเทศเวียดนาม งาช้าง 1 กิโลกรัม มีราคาสูงถึง 2,100 ดอลลาร์ในตลาดมืด

ส่วนตัวนิ่ม มีราคาสูงในตำรับยาแผนโบราณของจีนเช่นกัน ซึ่งมักถูกนำไปใช้เพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ และรักษาอาการภูมิแพ้ แต่นักเคลื่อนไหวระบุว่า สรรพคุณของตัวนิ่มเป็นเพียงความเชื่อ ส่วนหนังของตัวนิ่มมักถูกใช้เป็นเครื่องประดับ และเนื้อของตัวนิ่มถือว่าเป็นเมนูอาหารราคาแพงในจีน และเวียดนาม

การค้างาช้างระหว่างประเทศถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายนับตั้งแต่ปี 2532 หลังประชากรช้างในแอฟริกาลดลงจากหลายล้านตัวในกลางศตวรรษที่ 20 เหลือเพียง 600,000 ตัว ในช่วงปลายทศวรรษ 1980.