เอเอฟพี - คิริน บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่จากแดนปลาดิบเข้าควบคุมบริษัทผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ที่สุดของพม่า ตามการเปิดเผยของโฆษกบริษัทในวันนี้ (20) ที่เป็นความเคลื่อนไหวของบริษัทที่ต้องต่อสู้ต่อการเติบโตที่ชะลอตัวในประเทศด้วยการตบเท้าเข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
บริษัทในเครือที่สิงคโปร์ได้เข้าซื้อหุ้น 55% ในบริษัท Myanmar Brewery Ltd. ที่ผลิตเบียร์ท้องถิ่นยอดนิยม และมีเครือข่ายจำหน่ายทั่วประเทศจากบริษัท Fraser and Neave ในมูลค่า 560 ล้านดอลลาร์
“ตลาดเบียร์ในพม่ายังคงมีขนาดเล็ก แต่เราหวังว่าตลาดจะขยายขึ้น” โฆษกบริษัทคิริน กล่าว
บริษัท Myanmar Brewery ที่มีพนักงานราว 1,000 คน มียอดขายในปีที่ผ่านมาประมาณ 200 ล้านดอลลาร์
ในคำแถลงที่ประกาศเกี่ยวกับข้อตกลง บริษัทคิรินระบุว่า บริษัทหวังให้การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เสริมความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจของบริษัทในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คิริน ดำเนินธุรกิจเบียร์ในฟิลิปปินส์ กับบริษัทท้องถิ่น และได้เปิดดำเนินการในสิงคโปร์ และเวียดนาม
นักลงทุนในโตเกียวต่างยินดีกับข้อตกลงที่เกิดขึ้น และหุ้นของคิรินเพิ่มขึ้น 0.99% ในช่วงบ่ายวันนี้ (20)
บริษัทต่างชาติที่รวมทั้งบริษัทจากญี่ปุ่นกำลังเข้าลงทุนในพม่าที่เติบโตอย่างรวดเร็ว หลังพม่าหลุดพ้นจากการโดดเดี่ยวประเทศนานหลายทศวรรษเมื่อครั้งยังปกครองโดยรัฐบาลทหาร
พม่า มีความน่าดึงดูดใจจากชนชั้นกลางที่กำลังขยายตัว และยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยจำนวนประชากรมากกว่า 53 ล้านคน อัตราการเติบโตของ GDP อยู่ที่ 7.7% สำหรับปีงบประมาณที่สิ้นสุดไปในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา และคาดว่าจะขยายตัว 8.3% ในปีงบประมาณ 2558 ตามการระบุของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย
ญี่ปุ่น ต่างไปจากพันธมิตรชาติตะวันตกที่ยังคงความสัมพันธ์ทางการค้า และการเจรจากับพม่าในช่วงการปกครองของทหาร ซึ่งสิ้นสุดลงไปในปี 2554 โดยระบุว่า การใช้วิธีแข็งกร้าวอาจเป็นการผลักให้พม่าใกล้ชิดจีนมากยิ่งขึ้น
ในประเทศญี่ปุ่น บริษัทผู้ผลิตเบียร์กำลังประสบต่อยอดจำหน่ายที่ลดลง เนื่องจากคนหนุ่มสาวสูญเสียความสนใจในวัฒนธรรมการดื่มเพื่อธุรกิจที่ช่วยกระตุ้นยอดขายมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ
แต่พวกเขาก็จะต้องเผชิญต่อการแข่งขันจากคู่แข่งต่างประเทศในพม่า ที่ในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ไฮเนเก้น บริษัทผู้ผลิตเบียร์ยักษ์ใหญ่จากเนเธอร์แลนด์ได้เปิดโรงงานผลิตมูลค่า 60 ล้านดอลลาร์ ที่มีกำลังการผลิต 33 ล้านลิตรต่อปี และจะจ้างงานคนท้องถิ่นมากกว่า 200 ตำแหน่ง.