เขมรฉะสหรัฐฯ อีกรอบ แส่แทรกกิจการศาลตัดสินจำคุกผู้สนับสนุนฝ่ายค้าน

ซินหวา - กัมพูชาเรียกร้องให้สหรัฐฯ หยุดการแทรกแซงในกิจการศาลของประเทศ โดยระบุว่า กัมพูชาเป็นรัฐอธิปไตย ตามคำแถลงฉบับหนึ่งที่ออกโดยหน่วยงานสื่อและตอบโต้เร็วของรัฐบาลกัมพูชา

“ประกาศของสหรัฐฯ ที่ให้การสนับสนุนอาชญากร และไม่เคารพต่อการตัดสินใจของศาลเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องอย่างสมบูรณ์ และยังสามารถพิจารณาได้ว่าเป็นความตั้งใจที่จะเพิ่มความสับสน และทำลายความมั่นคงและความสามัคคีในสังคมกัมพูชา” คำแถลงฉบับหนึ่งที่ออกในคืนวันเสาร์ (25) ระบุ

คำแถลงยังระบุอีกว่า รัฐบาลกัมพูชาจะไม่แทรกแซงในระบบศาลที่เป็นสถาบันอิสระ

“คำสั่งใดๆ ก็ตามของรัฐบาลที่จะแทรกแซงในกิจการของศาลเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ และยังขัดต่อหลักกฎหมายที่ระบุในรัฐธรรมนูญ” คำแถลงส่วนหนึ่งระบุ และเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุติการละเมิดอำนาจในการตัดสินคดีของระบบศาลกัมพูชาโดยทันที

การโต้ตอบของรัฐบาลกัมพูชาครั้งนี้มีขึ้น หลังสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงพนมเปญ ระบุเมื่อวันเสาร์ (25) ว่า สถานทูตกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดต่อคดีของนักเคลื่อนไหวพรรคฝ่ายค้าน 11 คน ที่ถูกตัดสินในข้อหากบฏจากเหตุชุมนุมประท้วงในกรุงพนมเปญเมื่อเดือน ก.ค.2557

ตามคำแถลงของสถานทูตสหรัฐฯ ระบุว่า กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงที่รวมทั้ง มาศ สุวันนารา (Meas Sovannara) สมาชิกพรรคฝ่ายค้าน ถูกตัดสินอย่างรวบรัด และได้รับโทษที่รู้สึกว่าไม่เหมาะสม

“สหรัฐฯ มีความกังวลเป็นอย่างมากต่อกระบวนที่นำไปสู่การตัดสินเหล่านี้ เรา เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาทบทวน อย่างรอบคอบต่อกระบวนการศาลของประเทศ เพื่อให้แน่ใจว่าดำเนินการกระบวนการต่างๆ อย่างครบถ้วน สมบูรณ์ และโปร่งใส และเป็นไปตามกฎหมายของประเทศ และมาตรฐานสากล” คำแถลงของสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงพนมเปญ ระบุ

เมื่อวันพฤหัสบดี (23) ศาลกัมพูชาได้ตัดสินโทษจำคุกสมาชิกพรรคกู้ชาติกัมพูชา 11 คน เป็นเวลา 7-20 ปี จากข้อหาก่อกบฏ ในการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อปีก่อน.