xs
xsm
sm
md
lg

พลิกโฉมปืนพกค่ายโซเวียต PL-14 “Lebedev” โครงโพลิเมอร์ 9 มม.สุดทันสมัยจากซุ้ม “อาก้า”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#00003>ปี 2555 กองทัพใหญ่ของรัสเซียเริ่มทดสอบไรเฟิล AK-12 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของ อาก้า และ เริ่มนำเข้าประจำการในปี 2557 วันนี้ถึงคิวที่จะต้องเปลี่ยนปืนพกมาตรฐานสำหรับทหารทั้งกองทัพ แทนปืนรุ่นเก่า กระบอกเก่า ที่พกกันมาใช้กันมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพได้มอบให้กลุ่มคาลาชนิคอฟ ซึ่งเป็นผู้ผลิตปืนตระกูลเอเค ที่เป็นตำนาณคู่กันมานานเกือบศตวรรษ ทำการออกแบบ และ นี่คือ PL-14 เลเบเดฟ ปืนต้นแบบจากค่ายอาก้า ที่กำลังจะเข้ากระบวนการทดสอบ. -- TASS. </b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กลุ่มคาลาชนิคอฟ ผู้ผลิตปืน AK-47 “อาก้า” ที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนโลก ได้นำปืนพกอัตโนมัติกึ่งอัตโนมัติขนาด 9x19 มม. กระบอกแรกออกแสดงในงาน Army 2015 ที่เพิ่งจะผ่านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งได้รับความสนใจจากสาธารณชนมากมาย เนื่องจากเป็นปืนสั้นโดยผู้ผลิตอาวุธปืนเก่าแก่ของโลกที่ออกมาในรูปโฉมใหม่ มีกลไกที่ทันสมัย แหวกแนวออกไปจาก “ปืนพกโซเวียต” รุ่นต่างๆ ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง

คาลาชนิคอฟ ผลิตไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติหลากหลายรุ่น และเวอร์ชัน รวมทั้งปืนกลยิงเร็วอัตโนมัติอีกหลายขนาด แต่ไม่เคยทำปืนพกออกมาเลยในหลายทศวรรษมานี้ ปืนพกที่ใช้ประจำการในกองทัพสหภาพโซเวียตเมื่อก่อน รวมทั้งรัสเซียในปัจจุบันนั้นยังคงเป็นตอกาเรฟ (Tokarev) และมาคารอฟ (Makarov) เป็นหลัก ใช้กันมา และพัฒนากันมากตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันก็แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทั้งกลไกล และรูปโฉม มีไม่กี่หน่วยงานเท่านั้นที่ได้เปลี่ยนไปใช้ปืนใหม่อีกบางรุ่น

บริษัท คาลาชนิคอฟ คอนเซิร์น ผู้ผลิตและออกแบบตั้งชื่อปืนพกกระบอกใหม่นี้ว่า PL-14 “เลเบเดฟ” (Lebedev) ตามชื่อดีไซเนอร์ และนี่เป็นเพียงปืนต้นแบบที่ผลิตขึ้นตามความต้องการในเบื้องต้นของกองทัพบกรัสเซีย ส่วนจะเปลี่ยนแปลงอะไรต่อไปนั้นขึ้นอยู่กับความเห็น และความต้องการของกองทัพอีกเช่นกัน

คาลาชนิคอฟ ผลิต PL-14 เพื่อใช้กระสุน 9 มม.ลูเกอร์ (Luger) ซึ่งเป็นมาตรฐานตะวันตก เช่นเดียวกันกับปืนสั้นอีก 2 กระบอก ที่ผู้ผลิตอีก 2 รายทำออกมาใช้ในบางหน่วยของกองทัพ และ กองกำลังตำรวจก่อนหน้านี้ไม่นานนัก นั่นคือ ต่างไปจากตอกาเรฟ และมาคารอฟ อันเป็นปืนพกมาตรฐาน หรือ Standard Side Arms ของกองทัพ ที่ใช้กระสุน 7.62×25 มม. และ 9x18 มม. ตามลำดับ ซึ่งอันหลังเป็นกระสุน 9 มม.ของมาคารอฟโดยเฉพาะ คนละขนาดกันกับ “9 มม.พาราเบลลัม” ของ Lebedev

ตามรายละเอียดที่นำเสนอโดยสำนักข่าวทาสส์ (TASS) นั้น PL-14 เป็นปืนพกโครงโพลิเมอร์ ทำปุ่มปลดซองกระสุน หรือแม็กกาซีนเอาไว้ทั้งสองข้างสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะถนัดซ้าย หรือขวา เรียกว่าเป็นปืน Fully-ambidextrous Control อย่างสมบูรณ์แบบ มี Indicator หรือตัวบอกว่า ภายในรังเพลิงมีกระสุนอยู่หรือไม่ ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยอย่างหนึ่งในปืนสั้นของค่ายตะวันตก และเป็นมาตรฐานใหม่ของปืนโซเวียต/รัสเซีย

ไกเป็นแบบ “กระชับยิง” ควบคุมโดยกลไกที่อยู่ภายในโครงโพลิเมอร์ หมายความว่าจะเหนี่ยวไกยิงได้จะต้องกดเข้าไปจนแน่นอันเป็นมาตฐานความปลอดภัย ป้องกันการลั่นไกโดยพลั้งเผลอ คล้ายกับปืนยุโรป-สหรัฐฯ บางรุ่น ที่คิดค้นระบบเหนี่ยวไกสองชั้นขึ้นมา ภายในโครงของ PL-14 ยังมีกลไกป้องกันปืนลั่นในยามที่ปืนตก หรือหล่นลงโดยไม่เจตนาซึ่งก็เป็นมาตรฐานใหม่เช่นกัน

โกร่งไกของ PL-14 ยังทำกว้างกว่าปืนพกโซเวียตรุ่นอื่นๆ เพื่่อให้มีที่พอสำหรับนิ้วชี้ภายในถุงมือ ด้านหน้าของโกร่งไกทำออกมาตั้งตรง เผื่อยึดอุปกรณ์ภายนอกที่ติดตั้งเข้ากับราง ที่ทำติดตายอยู่ใต้โครงส่วนหน้า
.

คลิปนี้เป็นการสาธิตการยิงไรเฟิล AK-12 กับอีกหลายรุ่น มีภาพ PL-14 ปรากฏให้เห็นในวินาทีที่ 20 เป็นวิดีโอประกอบข่าวของสถานีโทรทัศน์ RT หรือ Russia Times เกี่ยวกับงาน Army 2015 ในกรุงมอสโกสัปดาห์ที่แล้ว.

บริษัทผู้ผลิตระบุในคำแถลงฉบับหนึ่งที่แจกจ่ายในงานว่า PL-14 สามารถติดตั้งระบบไก และชุดยิงแตกต่างกันออกไปได้ สำหรับการนำไปใช้งานลักษณะต่างๆ ทั้งในกองทัพ และในตลาดพาณิชย์ทั่วไป ซึ่งรวมทั้งสำหรับนักกีฬายิงปืนด้วย

PL-14 อาจจะไม่ใช่่ปืนพกกระบอกแรกของรัสเซีย ที่โครงทำจากโพลิเมอร์ และมีรางสำหรับติดตั้งอุปกรณ์ภายนอก ปืน “สไตรค์วัน” (Strike One) เคยทำมาก่อนเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ซึ่งกลายเป็นปืนที่มีรูปลักษณ์สวยงามทันสมัยกระบอกแรกของประเทศตั้งแต่ไหนแต่ไรมา แต่กองทัพรัสเซียไม่ยอมรับ โดยระบุเพียงสั้นๆ ว่า “ไม่ได้มาตรฐาน” และ “ไม่สนองความต้องการ” ของกองทัพ ซึ่งได้สร้างความงุนงงสงสัยไปทั่ว ในขณะที่ปืนกระบอกนี้ได้รับความนิยมพอสมควรในตลาดต่างประเทศ

สำนักข่าวของรัฐบาลไม่ได้ให้รายละเอียดว่า PL-14 ใช้ระบบยิงแบบนกสับ (Hammer-strike Fire) หรือแบบเข็มพุ่ง (Striker Fire) ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ปืนต้นแบบที่เห็นนี้อาจจะซ่อนนกขนาดเล็กเอาไว้ภายใน โดยสังเกตจากแมนนวลเซฟตีแบบเดียวกับของตอกาเรฟที่ขึ้นนกยิง

ความเป็นพิเศษประการหนึ่งของ PL-14 ที่ไม่เคยมีในปืนโซเวียตทั่วไปก็คือ ประกับมือ หรือ “กริ๊ป” (Grip) ที่หุ้มด้ามปืนนั้นสามารถถอดเปลี่ยนได้ ซึ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ที่มีขนาดอุ้งมือใหญ่ หรือเล็กต่างกันไป แม้กระทั่งปืนกล็อกเอง ก็ต้องปรับปรุงปืนใน Gen 4 ของตน ให้ Modular มากขึ้นเป็นแบบเดียวกันนี้ หลังจากสมิธ แอนด์ เวสสัน (Smith&Wesson) ได้คิดค้นนำไปใช้กับ M9M&P จนสามารถแย่งตลาดจากกล็อกได้อย่างมากมายในสหรัฐฯ

รูปลักษณ์โดยรวมของ PL-14 เป็นปืนสั้น สองส่วน ทรงต่ำ วางลำกล้องไว้ระนาบต่ำลงเช่นเดียวกับ Strike 1 ก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกันกับกล็อก กับรุ่นอื่นๆ อีกหลายรุ่น ทำให้เล็งง่ายและเร็ว ลดแรงสะบัด ควบคุมง่ายขึ้น ยิงแม่นยำยิ่งขึ้น
.
<FONT color=#00003>ประมวลความโดดเด่นของ PL-14 มาให้ดูกันง่ายๆ  ปืนปาสติก ของค่ายอาก้ายังซ่อนกลไกทันสมัยอื่นๆ อีกมาก อยู่ภายในโครงโพลีเมอร์ซึ่งล้วนเป็นคุณสมบัติใหม่และเป็นมาตรฐานใหม่ของปืนพกรัสเซีย.  </b>
2
<FONT color=#000033>เอกสารแนะนำตัวของ PL-14 Lebedev ในงาน Army 20145 Forum ที่เพิ่งจะจบลงสัปดาห์ที่แล้ว ปืนได้รับความสนใจจากผู้ไปเที่ยวชมมาก แต่ตอนนั้นก็ยังไม่รู้กันว่า Kalasnikov Concern ผู้ผลิตกำลังทำอะไร. </b>
2
<FONT color=#000033>PL-14 ใช้กระสุน 9x19 มม. หรือ 9 มม.ลูเกอร์ หรือ 9 มม. บาราเบลลัม มาตรฐานตะวันตก ยังไม่มีการผลิตออกมาในคาลิเบอร์อื่น เพื่อใช้กับ กระสุนโซเวียต ก็จึงเป็นปืนลูกดกกระบอกแรกของประเทศคือ 15+1 ไม่น้อยหน้ากล็อก เอชเค สมิธแอนด์เวสสัน สไตเออร์ ฯลฯ. </b>
2
<FONT color=#000033>ถอดออกมาก็นับจำนวนชิ้นได้เท่ากับปืนโครงโพลีเมอร์ค่ายยุโรป-สหรัฐ คือ โครง หรือ Receiver ลำกล้อง คอยล์สปริง กับ รางครอบหรือรางเลื่อน. </b>
2
.

ความโดดเด่นอย่างแตกต่างก็คือ รางเลื่อนของ PL-14 ไม่ได้ทำเป็นขนาดเดียวกันตลอด ส่วนหลังทำให้แคบลงเหลือกว้างเพียง 1.1 นิ้ว และด้านหน้าแคบลงอีก เหลือเพียง 0.8 นิ้ว ซึ่งว่ากันว่าง่ายในการพกพา และคล่องตัวยิ่งกว่า ทั้งในยามเลื่อนเพื่อขึ้นลำ และในยามเลื่อนรีเซ็ตลำกล้อง/ไก

ด้านข้างของ PL-14 ยังปรากฏมีแถบโลหะยาว ซึ่งอาจจะบ่งบอกว่าปืนกระบอกนี้ใช้ระบบรางเลื่อนแตกต่างไปจากปืนมาตรฐานตะวันตกรุ่นอื่นๆ กล่าวคือ รางไม่ได้เกาะอยู่บนโครงปืนเช่นทั่วไป แต่โครงปืนเป็นตัวเกาะรางเอาไว้ แต่นอกจากนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างของ PL-14 ล้วนเป็นมาตรฐานใหม่ รวมทั้งลำกล้องขนาด 5 นิ้ว (127 มม.) และลูกดกแบบปืนตะวันตก คือ 15+1 โดยแม็กกาซีนบรรจุ 15 นัด ในรังเพลิงอีก 1 นัด

ปืนเปล่าหนักเพียง 793 กรัม และเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 900 กรัม เมื่อบรรจุกระสุนเต็มอัตรา ซึ่งหาไม่ได้ใน “ปืนโซเวียต” ทั่วไป แม้จะมีขนาดโดยรวมเล็กกว่า PL-14 ก็ตาม

อย่างไรตาม นี่เป็นเพียงปืนต้นแบบ ซึ่งอาจจะใช้เวลาอีกปี หรือสองปีก่อนจะรู้ว่ายังจะต้องปรับปรุงแก้ไขส่วนใด ตรงไหนบ้าง

กองทัพโซเวียต ใช้ตอกาเรฟมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1930 เรียกว่าโมเดล TT-30 อีก 3 ปีต่อมามีการปรับแต่งเพิ่มเติม และเรียกว่า TT-33 ซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และใช้มาจนทุกวันนี้ ไม่เพียงแต่ในรัสเซียเท่านั้นที่ผลิตตอกาเรฟ ยังมีโรงงานผลิตปืนรุ่นนี้ในอีกหลายประเทศทั่วโลก ทั้งประเทศบริวาร และเพื่อนมิตรในอดีต

เมื่อสงครามโลกยุติลง โซเวียตมีเวลามากขึ้นในการพัฒนา และประดิษฐ์คิดค้นปืนรุ่นใหม่ รวมทั้งปืนพกสำหรับกองทัพด้วย และอีกบริษัทหนึ่งได้ผลิตปืนมาคารอฟออกมาในปี 1951 ในปัจจุบันก็ยังเป็น Standard Issue ของกองทัพอีกหลายประเทศ ควบคู่ไปกับตอกาเรฟ รวมทั้งในเวียดนาม ลาว และกัมพูชาย่านนี้ด้วย

อะไรที่เป็นของโซเวียตก็จะข้ามพรมแดนตกไปถึงมือจีน ซึ่งได้ก๊อบปี้ปืนทั้งสองรุ่นออกมาเป็นของตน จากตอกาเรฟ ก็กลายเป็น Type 54 และมาคารอฟ เป็น Type 59 โดยแตกต่างกันเฉพาะเนื้อวัสดุ และดัดแปลงเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น

ในขณะที่ประมาณการกันว่า นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา อาจจะมีการผลิตปืน AK-47 รุ่นต่างๆ ออกมาไม่ต่ำกว่า 80 ล้านกระบอกทั่วโลก แต่ไม่อาจประมาณการเป็นตัวเลขได้เลยว่า ช่วงเดียวกันนี้โรงงานต่างๆ ทั้งในโซเวียต ในประเทศบริวาร และบรรดามิตรประเทศเมื่อก่อน รวมทั้งในจีน ผลิตตอกาเรฟกับมาคารอฟ ออกมาเป็นจำนวนเท่าไร

และปืนที่เป็นตำนาณอันยาวนานคู่กองทัพทั้ง 2 รุ่น กำลังจะกลายเป็นอดีต.
.

<FONT color=#000033>ตอกาเรฟ TT-33 เป็นรุ่นที่ 2 เริ่มผลิตปี ค.ศ.1933 ก่อน AK-47 เสียอีก ผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงสงครามเวียดนาม สงครามในตะวันออกกลาง และ ในยุโรป ยังคงเป็นปืนพกมาตรฐานกองทัพมาจนถึงวันนี้ ไม่เฉพาะในรัสเซีย หากยังรวมอีกราว 20 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งในย่านนี้ด้วย.  </b>
2
<FONT color=#000033>มาคารอฟ (Makarov) ผลิตตามกันออกมาในช่วงหลังสงครามโลก แต่ก็ยังเป็น ปืนลูกน้อย เหมือนเดิม วันนี้ก็ยังใช้เป็นปืนพกมาตรฐาน หรือ Standard Side Arms เช่นเดียวกันกับตอกาเรฟ รวมทั้งในกองทัพประชาชนเวียดนาม ลาว และ จีน ปัจจุบันด้วย. </b>
2
<FONT color=#000033>ปืนพก Type 54 ตอกาเรฟ สายพันธุ์จีน พร้อมซองหนังแท้อย่างดี เหมือนกับต้นฉบับราวกับแกะออกจากพิมพ์เดียวกัน ยังใช้มาถึงทุกวันนี้เช่นกัน.   </b>
2
<FONT color=#000033>GSh-18 เรียกกันทั่วไปเป็น ก๊าช หนึ่งในปืนพกมาตรฐานรุ่นใหม่ กองทัพรัสเซีย เริ่มใช้เมื่อปี 2542 ดูทั้งสองท่อนล่างกับบน คงจะนึกออกว่า น้ำหนักมันจะขนาดไหน แต่บรรจุกระสุนได้นิดเดียว. </b>
2
<FONT color=#000033>MP-443 Grach หรือ ยาริกิน (Yarigin) ปืนยุคปัจจุบันอีกกระบอกหนึ่งของรัสเซีย ผลิตออกมาให้กองกำลังตำรวจทั่วประเทศใช้ ผลิตเวอร์ชั่นเพื่อกีฬายิงปืน และอื่นๆ อีก มากมาย รูปลักษณ์สวยงาม ยังคงเน้นความทน-ถึก ตามแบบฉบับอาวุธโซเวียต/รัสเซียทั่วไป. </b>
2
<FONT color=#000033>สไตร๊ค์วัน (Strike One) ปืนสวยรุ่นแรกสุดในยุคใหม่ มีรูปลักษณ์ และ คุณสมบัติของปืนพกกึ่งอัตโนมัติค่ายตะวันตกครบถ้วน ทำลำกล้องออกมาหลายขนาด รองรับกระสุนนาโต้และกระสุนโซเวียตทั่วไป แต่กองทัพบกรัสเซียได้บอกปฏิเสธไปเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจาก ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้วงการแปลกใจไปตามๆ กัน. </b>
2
กำลังโหลดความคิดเห็น