ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายโดยทั่วไปชีวิตจะเต็มไปด้วยความลิงโลด ในวันที่พวกเขาพวกเธอสอบปลายภาคของปีสุดท้ายแล้วเสร็จ เพราะหมายถึงอิสรภาพที่ถูกจำกัด เหมือนกับถูกจองจำมาเป็นเวลาหลายปีดีดัก อีกไม่นานทุกคนก็จะโบกมือบ๋ายบาย.. ลาก่อนขาสั้นแสนเชย เห็นขนหน้าแข้ง .. ลาแล้วกระโปรงยาวกรอมเข่าอันอึดอัด ... ตามเบียต ..
จากนั้นการฉลองในหมู่เพื่อนๆ ก็จะติดตามมา
ลองย้อนหลังไปเมื่อสัก 30, 40 หรือเมื่อสัก 50 ปีที่แล้ว นึกๆ ดูเถิดว่า การฉลองความสำเร็จเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายครั้งโน้น ใครเคยทำอะไรบ้าง เชื่อว่าทุกๆ คนย่อมมีความประทับใจแตกต่างกันไป ไม่มากก็น้อย หลายคนอาจจะเก็บเสื้อขาวที่เต็มไปด้วยลายเซ็น กับคำอวยพรของเพื่อนๆ เอาไว้ และอยู่มาจนถึงวันนี้ แม้รอยหมึกจะลบเลือนไปแล้วก็ตาม หลายคนอาจจะไปร่ำลาอนุสาวรีย์ หรืออนุสรณ์ผู้ก่อตั้งสถาบัน ขอพร และเพื่อประสบโชคดีในวันจากลา .. ก่อนหน้านั้นหัวหน้าชั้น กับประธานรุ่นจะประชุมกัน จัดทำหนังสือรุ่นเพื่อความทรงจำที่ยาวนาน
วันนี้โลกใบเดียวกันได้เปลี่ยนไปจากโลกในปีโน้นมากมาย..
สัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวเวียดนามนับพันๆ คนวิจารณ์กันแซด อีกนับแสนคนที่ได้เห็นภาพ ก็คงจะตื่นตะลึงมิใช่น้อย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนมัธยมเจิ่นผู (Tran Phu) ในกรุงฮานอย จำนวนหนึ่งในชุดเครื่องแบบของสถาบัน จับคู่กอดกันดิก จุมพิตอย่างดูดดื่ม ให้เพื่อนๆ ด้วยกันชักภาพที่พวกเธอ-พวกเขาจะประทับใจไม่รู้ลืมในวันจาก
นี่คือโรงเรียนมัธยมสหศึกษาเก่าแก่ที่สุด ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งในเมืองหลวง ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแด่ นายเจิ่นผู ผู้นำคนแรกของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ที่มีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศ นำประชาชนผู้รักชาติเคลื่อนไหวต่อสู้ผู้ปกครองจากยุโยป จนกระทั่งถูกจับ และสังเวยอุดมการณ์ ท่านเจิ่นผู ถึงแก่กรรมในที่คุมขัง
โรงเรียนแห่งนี้มีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงเช่นกัน เป็นแหล่งให้การศึกษาในเยาว์วัยแก่บุคคลที่เติบโตขึ้นมาเป็นบุคลากรชั้นนำของประเทศเป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้น ภาพเด็กรุ่นใหม่ในชุดนักเรียนกอดกันกลมดิก และจูบลากัน ายในบริเวณสถานศึกษา จึงเป็นสิ่งที่สร้างความสะเทือนใจไม่น้อยสำหรับรุ่นพี่ รุ่นพ่อ และรุ่นปู่ๆ ย่าๆ
ยังมีอีกหลายภาพที่แสดงให้เห็นความเปลี่ยนแปลง จากรุ่นปู่มาถึงรุ่นหลาน รวมทั้งภาพนักเรียนหญิงถลกอ๋าวหย่ายขึ้นขี่คอเพื่อนชาย ในวันอำลาภายในสถานศึกษาแห่งเดียวกันนี้ อีกภาพหนึ่งเป็นนักเรียนหญิงคนหนึ่งแหวกอ๋าวหย่าย เปิดเนินปทุมถันให้เพื่อนๆ เซ็นชื่อกันลงบนเนินนั้น เป็นที่สนุกสนาน .. ทั้งหมดล้วนเป็นภาพที่ทำให้คนรุ่นก่อนเศร้าใจ และเกิดมีความรู้ากท้อแท้ และนำมาสู่การถกเถียงอย่างมากมาย
.
2
ประชาคมออนไลน์เวียดนามลงมติเกือบจะเป็นกเอกฉันท์ว่า ภาพทั้งหมดที่ว่อนอยู่ในเน็ตสัปดาห์นี้ ล้วน “น่าชิงชัง” หรือ ไม่ก็ “น่ารังเกียจเดียดฉันท์”
“มีวิธีอื่นตั้งมากมายที่พวกเธอสามารถเลือกได้ เพื่อสร้างความประทับใจในยามจาก แทนวิธีเก่าๆ ที่อาจจะดูน่าเบื่อสำหรับคนรุ่นใหม่” ราษฎรออนไลน์คนหนึ่งเขียนแนะนำ โดยไม่ได้ระบุวิธีปฏิบัติ
“ทำเกสต์บุ๊กให้เพื่อนๆ เซ็น ทานข้าวด้วยกัน ร้องรำทำเพลงกัน สวมกอดกันอย่างเหมาะสม .. โอบเบาๆ ด้วยความรัก ทะนุถนอม ในโอกาสเช่นนี้ย่อมสามารถทำได้ แต่อย่าไปไกลยิ่งกว่านี้” ผู้อ่านที่ใช้นาม “แถ่งเติม” (ThanhTam) ให้ความเห็น ถึงแม้อีกหลายคนจะแย้งว่า การกอดกันภายในสถานศึกษาขณะยังอยู่ในยูนิฟอร์มนั้นเป็นความผิดพลาดตั้งแต่ต้นก็ตาม
แต่อีกหลายคนได้พยายามเปิดใจกว้างขึ้นไปอีก เช่น ผู้อ่านสตรีที่ใช้ชื่อ ThanhLan บอกว่า “นี่เป็นโอกาสพิเศษยิ่ง และอาจจะเป็นเพียงครั้งเดียวในชีวิต หลังจากใช้ชีวิตร่วมกันในชั้นเรียนมาเป็นเวลา 7 ปี (ตามระบบของเวียดนาม) มันเป็นการจูบครั้งแรก และอาจจะครั้งสุดท้าย และอาจจะไม่ได้พบได้เจอกันอีกตราบชั่วชีวิต”
แน่นอน ผู้อ่านจำนวนมากไม่ยอมคล้อยตามความเห็นนี้ หลายคนเชื่อว่า นี่ดูจะไม่ใช่ทั้งจูบแรก หรือจูบสุดท้ายของนักเรียนหนุ่มสาว ม.ปลาย ในภาพ.
ประทับใจในยามจาก Kenh14/YannewsOnline
3
4
5
6
7