xs
xsm
sm
md
lg

ญี่ปุ่น-กัมพูชา ลงนามข้อตกลงการบินเปิดเส้นทางบินตรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกัมพูชา (ซ้าย) และรัฐมนตรีสำนักงานเลขาธิการการบินพลเรือนกัมพูชา (ขวา) ลงนามข้อตกลงด้านการบินระหว่างสองประเทศ.--Photo/AKP/Chim Nary.</font></b>

แคมโบเดียเดลี่ - กัมพูชา และญี่ปุ่นได้ลงนามข้อตกลงที่จะอนุญาตให้สายการบินของญี่ปุ่นเปิดดำเนินการเส้นทางบินตรงระหว่าง 2 ประเทศได้

ข้อตกลงได้ลงนามกันระหว่างเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกัมพูชา และรัฐมนตรีสำนักงานเลขาธิการการบินพลเรือนของกัมพูชา ที่กระทรวงการต่างประเทศในกรุงพนมเปญ

“เป็นที่คาดหมายว่า ข้อตกลงนี้จะช่วยให้การดำเนินการเที่ยวบินระหว่างญี่ปุ่น และกัมพูชามีเสถียรภาพ และจะช่วยส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ และระหว่างประชาชนต่อประชาชนมากยิ่งขึ้น” คำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ระบุ

นายกอย เกือง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ระบุว่า ข้อตกลงมีขึ้นหลังรัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อรับประกันว่า มีความต้องการเพียงพอสำหรับการเปิดเที่ยวบินตรง

“ญี่ปุ่นได้ทำการสำรวจกัมพูชา และจำนวนนักท่องเที่ยวเพื่อศึกษาความเป็นไปได้สำหรับการเปิดเส้นทางบินตรงก่อนที่จะจัดทำข้อตกลง” นายกอย เกือง กล่าวหลังพิธีลงนาม

ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2557 มีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเยือนกัมพูชา 175,081 คน เพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2556 กระทรวงการท่องเที่ยวระบุ

ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารสนามบินกัมพูชา ระบุว่า สายการบินออลนิปปอน เป็นสายการบินที่กำลังพิจารณาอย่างจริงจังจะเปิดเที่ยวบินตรงมายังกัมพูชา

“พวกเขาวางแผนที่จะเปิดเที่ยวบินในช่วงเดือน ต.ค.-มี.ค. เพื่อทดสอบกระแส ซึ่งเป็นฤดูกาลการท่องเที่ยว แต่ยังไม่ได้ยืนยันชัดเจน พวกเขาจำเป็นที่จะต้องศึกษาตลาดเป็นอย่างแรก และมาพร้อมกับแผนดำเนินการที่เหมาะสม” ผู้อำนวยการ กล่าว

สายการบินญี่ปุ่นเป็นเพียงสายการบินเดียวในตอนนี้ที่เปิดเที่ยวบินตรงระหว่างกัมพูชา และญี่ปุ่น แต่อยู่ในรูปแบบของบริการเช่าเหมาลำ

คุโระ นิยะ ที่ปรึกษาสถานทูตญี่ปุ่นในกรุงพนมเปญ กล่าวว่า การเปิดเที่ยวบินตรงจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น และชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในกัมพูชาราว 2,000 คน ซึ่งเพิ่มจำนวนขึ้นประมาณ 10% ทุกปี

“มีชาวญี่ปุ่นมากกว่า 200,000 คน เดินทางมากัมพูชาในแต่ละปี แต่ส่วนใหญ่เดินทางผ่านกรุงฮานอย และกรุงเทพฯ” คุโระ นิยะ กล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น