เอเอฟพี – บริษัทซึ่งไม่ค่อยมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นได้บริจาคหน้ากากเทคโนโลยีชั้นสูง 10,000 ชิ้นให้กับบรรดาประเทศในแอฟริกาที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา และระบุว่า ในตอนนี้พวกเขากำลังได้รับการติดต่อจากมหานครนิวยอร์ก ซึ่งได้ออกมายืนยันการพบผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้รายแรกเมื่อวานนี้ (23)
บริษัท คลีเวอร์ (Clever) ผู้ผลิตเครื่องกรองอากาศ แถลงว่า กำลังส่งหน้ากากมูลค่า 75 ดอลลาร์ (ราว 2,429 บาท) จำนวนหลายพันชิ้นไปให้แพทย์และผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขใน กินี , ไลบีเรีย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
“เราได้รับการติดต่อถามหาถึงสินค้าของเราจากรัฐบาลกินี” สึโยชิ นาคากาวาระ สมาชิกบอร์ดของบริษัทนี้ ซึ่งมีฐานอยู่ในจังหวัดไอจิ ศูนย์กลางอุตสาหกรรมหลักทางภาคกลางของญี่ปุ่น
“ในตอนแรกพวกเขาเสนอจะซื้อหน้ากากตัวนี้ แต่เนื่องจากมันต้องผ่านกระบวนการต่างๆ นานหลายเดือน เราจึงเสนอที่จะบริจาคให้พวกเขา”
“เรายังได้รับการติดต่อจากบุคคลหลายคนในฝรั่งเศส และนับตั้งแต่เมื่อช่วงเช้า เราก็ได้รับการติดต่อจากนิวยอร์กมาเรื่อยๆ ”
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจาก ฟูจิฟิลม์ บริษัทยักษ์ใหญ่ของแดนอาทิตย์อุทัย ประกาศเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ว่า จะเพิ่มการจัดส่งตัวยารักษาอีโบลาขั้นทดลองเพื่อช่วยหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้
คลีเวอร์ ระบุว่า หน้ากาก พิตตาาริช ซึ่งเดิมที่พัฒนามาเพื่อใช้กับเชื้อไวรัสโคโรน่ากลุ่มอาการทางเดินหายใจสายพันธุ์ตะวันออกกลาง หรือที่รู้จักกันในชื่อ เมอร์ส (MERS) ถูกเคลือบด้วยสารเคมีที่ฆ่าเชื้อไวรัสได้ 99 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงเชื้ออีโบลา เมื่อเชื้อไวรัสต่างๆ เข้ามาสัมผัสกับอุปกรณ์พิเศษชิ้นนี้
นาคากาวาระ กล่าวว่า กินีต้องการใช้ที่จะใช้หน้ากากที่ไฮเทคกว่าชนิดนี้เพื่อป้องกันการติดเชื้อในหมู่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของตน
เซียร์ราลีโอน อีกหนึ่งประเทศที่มีการระบาดรุนแรงไม่ได้อยู่ในรายชื่อประเทศที่ คลีเวอร์ กำลังบริจาคหน้ากากไปให้ เพราะในประเทศขนาดเล็กแถบแอฟริกาตะวันตกแห่งนี้ไม่มีสถานทูตญี่ปุ่นตั้งอยู่
ทั้งนี้ เชื้อไวรัสอีโบลา ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนในแอฟริกาตะวันตกไปแล้วเกือบ 4,900 ราย ติดต่อกันได้ผ่านทางการสัมผัสกับเลือดหรือของเหลวอื่นๆ ในร่างกายของผู้ติดเชื้อเท่านั้น