ASTVผู้จัดการออนไลน์ - หน่วยงานวิจัยกลาโหมกำลังทำการทดลองอย่างเร่งรีบ สิ่งที่อาจจะกลายเป็นหนึ่งในนวัตกรรมล้ำยุคแห่งปี และอาจจะช่วยเปลี่ยนรูปโฉมการทำสงครามในยุคนี้ และในอนาคตอย่างสำคัญ นั่นก็คือ “กระสุนสไนเปอร์” ขนาด .50 ชนิดนำวิถี ที่ยิงออกไปแล้วสามารถเปลี่ยนทิศทางวิ่งเข้าหาเป้าเองได้ การทดลองสิ่งนี้ได้ผ่านขั้นความเป็นไปได้แล้ว จนเกือบจะพร้อมส่งมอบให้เพนตากอนนำไปพัฒนาเพื่อนำเข้าใช้การต่อไป สำนักข่าวกลาโหมหลายแห่งรายงานพร้อมเผยแพร่วิดีโอคลิปการทดลองอย่างกว้างขวางในสัปดาห์นี้
หน่วยงานที่มีชื่อว่า “องค์การเพื่อโครงการรวิจัยก้าวหน้าด้านกลาโหม” หรือ DARPA (Defense Advanced Research Projects Agency) เรียกนวัตกรรมชิ้นนี้ว่า “กระสุนสำหรับภารกิจที่ใช้ความแม่นยำสูงยิ่ง” หรือ EXACTO (Extreme Accuracy Tasked Ordinance) โดยได้ซุ่มทดลองระหว่างเดือน ม.ค. กับเดือน เม.ย.ปีนี้ จนกระทั่งมีสัมฤทธิผล และผ่านช่วงที่เคยเป็นเพียง “ความคาดหวัง” (Speculative Phase) แล้ว บัดนี้พร้อมที่จะใช้ปฏิบัติงานได้จริง
โครงการ EXACTO เกิดขึ้นเพื่อสนองความต้องการของกระทรวงกลาโหม ซึ่งมองหากระสุนที่อาจจะช่วยให้หน่วยซุ่มโจมตี หรือหน่วยล่าสังหารในอัฟกานิสถาน สามารถจัดการต่อนักรบตอลิบานได้ในทุกๆ ที่แม้กระทั่งในแหล่งหลบซ่อนที่ดีที่สุด กลุ่มติดอาวุธนี้ทำสงครามต่อต้านสหรัฐฯ กับรัฐบาลในกรุงคาบุล มานานนับสิบปี คาดว่าจะนำออกไปปฏิบัติการได้ในเร็วๆ นี้ เพียงแต่ว่าเทคโนโลยีที่ใช้ การใช้งาน รวมทั้งวิธีการทำงานของสิ่งที่หลายคนเรียกว่า “สมาร์ทบุลเล็ต” นี้ ย่อมจะถูกเก็บเป็นความลับอย่างยิ่งยวด
DARPA นำวิดีโอเกี่ยวกับการทดลอง 2-3 ชิ้นออกเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ ติดตามมาด้วยเสียงวิจารณ์ต่างๆ นานา ผ่านสำนักข่าวกลาโหมหลายแห่ง บางแห่งได้ทำอินโฟกราฟิกแสดงให้เห็นส่วนประกอบของกระสุนขนาด .50 ที่ฝังชิป และชิ้นส่วนเล็กๆ ซึ่งจะนำทางมันไปยังเป้าหมายที่เล็งเอาไว้ “สมาร์ทบุลเล็ต” จะช่วยอำพรางแหล่งซุกซ่อนของสไนเปอร์ หรือผู้ที่ยิงมันออกไป ซึ่งจะทำให้หน่วยต่อต้านการซุ่มยิงของอีกฝ่ายหนึ่งไม่สามารถตอบโต้ได้
โดยทั่วไปการซุ่มยิงโจมตีจะออกปฏิบัติการเป็นคู่คือ พลสไนเปอร์กับผู้ช่วยอีกคนหนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่ตรวจเป้าหมาย รายงานระยะกระสุน ซึ่งหากพลาด พลซุ่มยิงก็จะใช้ข้อมูลจากเครื่องมือวัดอันทันสมัยปรับแต่งระยะเล็งใหม่ แต่อุปสรรคที่มากกว่านั้นก็คือ ฝุ่นจากพายุทรายทำให้เป้าหมายระยะไกลเลือนราง แรงลมทำให้กระสุนเฉื่อยลง การต้องเจอลมในทะเลทรายอัฟกานิสถาน ทำให้กระสุนพลาดเป้าหมายบ่อยๆ “สมาร์ทบุลเล็ต” จะทำให้เรื่องเหล่านี้ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป เพียงแต่เล็งไปยังจุดที่ต้องการ และเหนี่ยวไกเท่านั้น (โปรดชมวิดีโอคลิปประกอบ)
.
.
.
กระสุนขนาด .50 ให้ความเร็วสูง กับแรงปะทะสูง ฝ่ายทหารกล่าวว่า ผลิตออกมาด้วยจุดประสงค์ใช้ยิงโจมตีเป้าหมายที่เป็นยานพาหนะ กับสิ่งปลูกสร้างโดยเฉพาะ แต่ในปฏิบัติการจริงยังใช้ยิงสังหารเป้าหมายบุคคลอย่างได้ผลดี ไม่เพียงสหรัฐฯ ที่ผลิตสไนเปอร์ไรเฟิลออกมาใช้กับกระสุนขนาดนี้ หากใช้กันแพร่หลายทั่วไป รวมทั้งในชาติพันธมิตรยุโรป รัสเซีย และจีนด้วย
ในช่วงสงครามอิรัก สหรัฐฯ นำ “สมาร์ทบอมบ์” ออกปฏิบัติการแบบทำให้โลกตะลึงเป็นครั้งแรก เมื่อทิ้งลงจากเครื่องบิน ลูกระเบิดสามารถวิ่งเข้าไปทำลายเป้าหมายภายในอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างได้ โดยพุ่งเข้าทางช่องลม หรือทางหน้าต่าง เพื่อระเบิดจากภายใน แต่ในวันนี้ “ระเบิดนำวิถี” ได้กลายเป็นเรื่องธรรมดา พอๆ กับจรวดนำวิถีทั่วไป
สำนักข่าวกลาโหมบางแห่งกล่าวว่า กระสุนสไนเปอร์ล้ำยุคของสหรัฐฯ จะมีบทบาทมากกว่าสมาร์ทบอมบ์หลายเท่าในสงครามกองโจร และกำลังจะเปลี่ยนรูปโฉมการศึกอย่างน่าพิศวง มีค่าใช้จ่ายต่ำ สามารถนำไปได้ในทุกๆ สถานที่ ไม่เพียงแต่ในอัฟกานิสถานเท่านั้น คาดว่าสหรัฐฯ จะนำไปใช้จัดการกับกลุ่มไอซิสในซีเรีย ในอิรัก รวมทั้งในตุรกีซึ่งเป็นชาติพันธมิตรนาโต้อีกด้วย
สไนเปอร์ มีบทบาทสำคัญในสงครามทุกยุคทุกสมัย โลกได้เห็นบทบาทของพลซุ่มยิงชัดเจนมากขึ้นในสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา กับอีกครั้งหนึ่งในสงครามเวียดนาม ที่ทั้งฝ่ายสหรัฐฯ และฝ่ายเวียดนามเหนือ ต่างก็มีพลซุ่มยิงที่ผ่านการฝึกมาอย่างดี แล มีปืนรุ่นพิเศษผลิตออกมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ทำให้พลซุ่มยิงบางคนสังหารศัตรูได้เป็นจำนวนมากมายระดับกองร้อย
ในยุคหลังๆ ได้มีการเปิดเผย และเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสุดยอดแห่งสไนเปอร์ที่มีชื่อเสียงก้องโลกในประเทศต่างๆ รวมทั้งสไนเปอร์ของฝ่ายสหรัฐฯ ในช่วงสงครามเวียดนาม เพื่อเชิดชูผลงานในการสงครามของคนเหล่านี้ เมื่อหลายปีก่อน Enemy at the Gate ซึ่งจำลองชีวประวัติของวาสิลี เซตซอฟ (Vasili Saytsev) พลปืนของสหภาพโซเวียต ในสงครามป้องกันนครเซ็นปีเตอร์สเบิร์ก ได้กลายเป็นอีกผลงานหนึ่งของโลกฮอลลีวูดที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง
การออกเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับ “สมาร์ทบุลเล็ต” ของ DARPA กับกระพือข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยังมีขึ้นในช่วงที่ภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง “อเมริกันสไนเปอร์” (American Sniper) กำลังจะเข้าโรงทั่วสหรัฐฯ กับอีกหลายประเทศทั่วโลก
นั่นคือภาพยนตร์จากเรื่อจริงอิงชีวประวัติของ คริส คายล์ (Chris Kyle) พลแม่นปืนของหน่วยนาวีซีล (Navy SEAL) ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอีกคนหนึ่งจากสงครามในอิรัก.