ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ผลกาสอบสวนอย่างเป็นทางการกรณีเครื่องบินโดยสาร ATR72-600 สายการบินลาว ตกลงแม่น้ำโขง ที่เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก ในเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว เนื่องจากสภาพมลมฟ้าอากาศแปรปรวน และนักบินไม่ได้ปฏิบัตามเอกสารคู่มืออย่างครบถ้วนในการพยายามนำเครื่องลงจอด ทำให้นำมาสู่โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์การบินของประเทศ
กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง เปิดแถลงผลสรุปอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวางในช่วงสุดสัปดาห์ ชาวลาวจำนวนมากที่เข้าไปแสดงความเห็น มองว่าเป็นเหตุการณ์อันสุดวิสัย และเป็นเรื่องเคราะห์กรรม
เครื่องเอทีอาร์ เที่ยวบิน QV301 นครเวียงจันทน์-ปากเซ ของสายการบินยแห่งชาติ ตกลงในแม่น้ำโขงทางตอนใต้ของตัวเมือง ห่างจากสนามบินปลายทางไม่กี่กิโลเมตร เหตุเกิดวันที่ 16 ต.ค.2556 ทำให้ลูกเรือกับผู้โดยสารเกือบ 50 คนเสียชีวิตทั้งหมด การค้นหาดำเนินมาอีกหลายเดือน จึงพบศพหรือชิ้นส่วนของผู้เคราะห์ร้ายครบทุกคน ซึ่งประกอบด้วยบุคคลกว่า 10 สัญชาติ รวมทั้งรวมทั้งชาวไทยจำนวนหนึ่งด้วย
ทางการลาวได้ส่ง “กล่องดำ” กับเครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบินที่กู้ขึ้นจากน้ำ นำส่งไปถอดข้อมูลในประเทศฝรั่งเศส ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.2556 ทำให้สามารถสรุปสาเหตุที่นำเที่ยวบิน QV301 ไปสู่โศกนาฏกรรมได้
นายคุนนิวง ลัดตะนะมะนี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงโยธาธิการฯ กล่าวว่า สาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนั้นเนื่องจาก “สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน บวกกับความผิดพลาดของนักบินในการปฏิบัติตามข้อปฏิบัติการลงจอดด้วยอุปกรณ์เครื่องช่วย รวมทั้งการปฏิบัติการตามข้อปฏิบัติในการบินขึ้นใหม่ การตัดสินใจนำเครื่องลงสู่พื้นของนักบินด้วยความสูงในระดับต่ำกว่าความสูงที่ได้ระบุไว้ในข้อปฏิบัติการนำเครื่องลง การตั้งค่าความสูงที่ไม่ถูกต้องของนักบิน ทำให้ระบบนำร่องเครื่องบินส่งผลอย่างไม่ถูกต้อง...”
“อาจเป็นไปได้ที่เกิดมีภาพหลอนจนทำให้นักบินสูญเสียตำแหน่งของตนในระบบการนำร่อง กับการปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติของระบบนำร่องที่แสดงอยูหน้าจอในอุโมงค์ขอบฟ้าจำลองนั้น ยืนยันว่า ระบบนำร่องทำงานตามปกติ แต่ไม่สามารถนำใช้ได้เนื่องมาจากการตั้งค่าผิด.. ซึ่งนำไปสู่เหตุการณ์ที่เครื่อง ATR ดิ่งลงสู่แม่น้ำโขง” นายคุนนิวง กล่าว
ก่อนหน้านั้น ได้มีผู้เชี่ยวชาญตั้งเป็นข้อสังเกตว่า เครื่องเอทีอาร์อาจจะถูกพายุลมแรงที่เกิดขึ้นกะทันหันพัดตีจนเครื่องเสียการทรงตัว และถูกพัดให้ถอนร่นไปจนเสียหลัก และดิ่งลงในแม่น้ำรัฐมนตรีลาวกล่าวถึงผลสรุปว่า ในช่วงปลายของเหตุการณ์ ในขณะที่อุปกรณ์การนำร่องของเครื่องบินรายงานอย่างผิดพลาด ตามการตั้งค่าที่ผิดพาดของนักบินนั้น “ผู้บัญชาการบิน” หรือ กัปตันอาจจะเอาใจใส่ต่อการทำงานของระบบใดระบบหนึ่งภายในห้องนักบินมากจนเกินไป ซึ่งนำไปสู่ความผิดพลาดในจุดอื่นๆ รวมทั้งการประสานงานกับนักบินที่ไม่ดีเท่าที่ควร ในระยะสุดท้ายของการเตรียมลงจอด”
“จุดประสงค์ของการสอบสวนก็เพื่อป้องกันมิให้เกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุถการณ์เช่นนี้ซ้ำอีกในอนาคต มิได้เป็นยการแจกแจงความรับผิดชอบเพื่อกล่าวหา หรือฟ้องร้องผู้ใด” สำนักข่าวสารปะเทดลาว อ้างคำพูดของรัฐมนตรีในการประชุมแถลงข่าววันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา
เอกสารประกอบการแถลงข่าวที่นำออกแจกจ่าย ยังระบุรายละเอียดที่บันทึกไว้ในกล่องดำ และ จากเครื่องบันทึกเสียงห้องนักบินจำนวนหนึ่ง ซึ่งรวมเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า และเสียงสายฝนตกกระทบต่อลำตัวเครื่อง ในขณะเที่ยวบิน QV301 พายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงครั้งนั้น พัดไปจากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
2 สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนั้น คือ การตัดสินใจของนักบินยืนยันที่นำเครื่องลงจอดภายใต้สภาพการณ์ที่ “ต่ำกว่าที่ระบุในข้อปฏิบัติการลงจอด” กับการประสานงานกันอย่างจำกัดระหว่างนักบินทั้งสอง (รวมทั้งกัปตัน) ที่ควบคุมการบิน และอีกคนหนึ่งติดตามการนำร่อง ในขั้นตอนสุดท้ายของการนำเครื่องเพื่อลงสู่สนามบิน ขปล.รายงานสรุปสาเหตุ
ผู้โดยสาร 44 คน กับลูกเรือ 5 คน เสียชีวิตทั้งหมดเมื่อ ATR72-600 ดิ่งลงสู่ก้นไม่น้ำโขงในช่วงปลายฤดูฝน เครื่องบินแตกหักออกเป็นเสี่ยงกระจัดกระจาย ชิ้นส้วนหลักคือ ลำตัวเครื่องส่วนใหญ่จมอยู่ในแม่น้ำ อีกหลายชิ้นส่วนหล่นลงบนเกาะกลางแม่น้ำ บางชิ้นพบอยู่บนบก ในช่วงที่แม่น้ำโขงเป็นลำน้ำกว้างทางตอนเหนือของเมืองปากเซ.
.
จากวันนั้นถึงวันนี้ Xinhua News/Vientiane
2
3
4
5
7
7
8
9
10
11
12