xs
xsm
sm
md
lg

โอฬารตระการตาเต็มจออิ่มใจ สาวใต้ออกศึกคึกคักพิทักษ์มงกุฎมิสเวียดนาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>คืนวันอาทิตย์ 9 พ.ย. หญิงสาว 38 คนจากจังหวัดต่างๆ ทางภาคใต้จำนวน 38 คน ขึ้นเวทีประชันความงามใน จ.บั๊กเลียว (Bac Lieu)  ซึ่งทำให้การประกวดมิสเวียดนาม 2014 เข้มข้นคึกคักยิ่งขึ้น กสาวสวยจำนวน 20 คนที่ผ่านการคัดเลือก จะไปประชันโฉมกับสาวงามตัวแทนจากภาคเหนืออีก 20 คน บนเกาะฟุก๊วก (Phu Quoc) ในทะเลอ่าวไทยต้นเดือนหน้า สำหรับสาวชาวใต้ ศึกครั้งนี้มีความหมายสำคัญ เพราะเป็นการพิทักษ์มงกุฎสาวงามที่สุดของประเทศ ซึ่งดั่งทูถาว (Dang Thu Thao) ชาว จ.บั๊กเลียว ชิงกลับมาได้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี หลังจากสาวงามจากภูมิภาคอื่นแย่งไปครอง. </b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กลางดึกวันอาทิตย์ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ภาคใต้ได้หญิงสาวจำนวน 20 คน เป็นตัวแทนส่งเข้าประกวดมิสเวียดนาม 2514 ที่มีกำหนดขึ้นบนเกาะใหญ่ในทะเลอ่าวไทยต้นเดือนหน้า ซึ่งได้ทำให้การประกวดสาวงามในระดับประเทศประจำปีนี้ ก้าวเข้าสู่ขั้นตอนที่มีชีวิตชีวายิ่งขึ้น และสำหรับหญิงสาวชาวใต้แล้ว งานนี้มีความหมายสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นการปกป้องมงกุฎสาวสวยที่สุดในเวียดนาม ที่ดั่งทูถาว (Dang Thu Thao) สาวสวยชาว จ.บั๊กเลียว (Bac Lieu) ชิงกลับมาได้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว

นับเป็น มงกุฎมิสเวียดนามของสาวชาวใต้ ครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี หลังจากถูกสาวสวยจากภาคเหนือ กับภาคกลางของประเทศ ผลัดกันแย่งไปครอบครอง

การประกวดมิสเวียดนามประจำภาคใต้ รอบสุดท้ายจัดขึ้นคืนวันอาทิตย์ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ใน จ.บั๊กเลียว ซึ่งเป็นบ้านเกิดของมิสเวียดนามคนปัจจุบัน สาวงามตัวแทนทั้ง 20 คน เกือบทั้งหมดเป็นนักศึกษา ซึ่งผู้สันทัดกรณีกล่าวว่า เมื่อดูในภาพรวมแล้ว ทุกคนสวยอย่างมีชีวิตชีวา มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ทำให้มั่นใจว่ากว่าครึ่งหนึ่งจะเข้าไปถึงรอบ 15 คนสุดท้าย ในการประกวดที่ฟุก๊วก (Phu Quoc) สัปดาห์นี้สาวๆ ทั้ง 20 คน จะต้องไปใช้ชีวิตประจำวันกินอยู่ และทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่างๆ ร่วมกับ สาวงามตัวแทนจากภาคเหนืออีก 20 คน บนเกาะอ่าวไทยตลอด 3 สัปดาห์ข้างหน้า ก่อนจะถึงวันดีเดย์

ต่างไปจากครั้งก่อนๆ ปีนี้เป็นปีแรกที่การประกวดมิสเวียดนามประจำภาคใต้ ย้ายเวทีออกไปจากนครโฮจิมินห์ ไปยังบ้านเกิดของ มิสเวียดนามคนปัจจุบัน ซึ่งคนในวงในกล่าวว่า อาจจะเป็นบรรทัดฐานใหม่ เป็นการให้เกียรติแก่เจ้าของมงกุฎ

ต้นสัปดาห์ที่แล้ว สาวชาวใต้จำนวน 39 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจากจังหวัด กับนครต่างๆ ตั้งแต่ จ.บี่งดิง (Binh Dinh) ที่อยู่เหนือขึ้นไป นครโฮจิมินห์ นครเกิ่นเทอ (Can Tho) จนถึง จ.ก่าวมาว (Ca Mau) ที่อยู่ปลายสุดของแหลมญวน ได้ไปรวมตัวกันที่รีสอร์ตระดับ 5 ดาว ที่มีหาดทรายสวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งในเมืองบั๊กเลียว ซึ่งอยู่ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง สาวๆ ได้ออกปฏิบัติการบำเพ็ญประโยชน์ ออกเยี่ยมเยือนที่พักคนชรา และไปเยี่ยมชมย่านเมืองเก่าตั้งแต่สมัยฝรั่งเศส และไปเคารพบูชาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางประวัติศาสตร์ของจังหวัด

มีเหตุการณ์หนึ่งที่จัดขึ้นในวันที่ 7 พ.ย. สาาวงามทั้ง 39 คน สวมชุดว่ายน้ำหลากสีสัน สวยงามตระการตา ได้รวมตัวกันเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์โปรโมตการประกวด ที่ส่วนหนึ่งจะนำไปแสดงในคืนสุดท้าย นับเป็นฉากที่มี่ความโอฬารยิ่ง

การประกวดรอบสุดท้ายของหญิงสาวชาวใต้ในคืนวันอาทิตย์ มีทั้งชุดอ๋าวหญ่ายซึ่งเป็นชุดวัฒนธรรมประจำชาติ ชุดราตรียาว กับชุดว่ายน้ำอีกครั้ง

การประกวด “นางสาวเวียดนาม” เป็นเหตุการณ์ที่จัดขึ้นทุกๆ 2 ปี โดยกระทรวงวัฒนธรรม ร่วม สปอนเซอร์ซึ่งเป็นภาคเอกชนหลายบริษัท กับหนังสือพิมพ์เตี่ยมฝอมง์ (Tien Phong) หรือ “ผู้บุกเบิก” ซึ่งได้ชื่อเป็นผู้บุกเบิกตัวจริงในการฟื้นฟูการประกวดสาวงามขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเหตุการณ์รวมเวียดนามเหนือกับเวียดนามเข้าด้วยกันผ่านไปนานนับสิบปี และยังจัดขึ้นในกรุงเก่าไซ่ง่อน เป็นแห่งแรก

มิสเวียดนาม เป็นเวทีสำหรับหญิงสาวที่เกิด และเติบโตในแผ่นดินแม่โดยเฉพาะ และครอบครัวมีรากเหง้าอยู่ในประเทศนี้ ไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวประเภทลูกครึ่งลูกเสี้ยว แม้กระทั่งสาวที่เกิดในประเทศ แต่ไปเติบโต และอาศัยอยู่ในต่างแดน เวทีนี้ยังเคร่งครัดในคุณสมบัติสำคัญยิ่งยวดอีกข้อหนึ่งคือ ผู้เข้าประกวดจะต้องไม่เคยผ่านศัลยกรรมความงามใดๆ บนจุดใดของร่่างกาย จะต้องเป็นความสวยงามตามธรรมชาติเท่านั้น.
.
ศึกครั้งนี้มีนัยสำคัญ กองประกวดมิสเวียดนาม
.

2

3

4

5

6

7

8

9

10

โอฬารโปรเจ็กท์ กองประกวดมิสเวียดนาม
.


11

12

13

14

15

16

17

18

19

20

21

22

23

24

25

26

27

28

29

30

31

32

33

34

35

36

37

38

ชี้ช่องรวย.. เลี้ยงงูขายฟันกำไรปีละล้านไม่ยาก เกษตรกรเวียดนามไม่หวงวิชา
ชี้ช่องรวย.. เลี้ยงงูขายฟันกำไรปีละล้านไม่ยาก เกษตรกรเวียดนามไม่หวงวิชา
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- เขตที่ราบปากแม่น้ำโขงในเวียดนามน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ จะปลูกฝังจะฝัง ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์อะไรก็ได้ผลดี จึงเป็นแหล่งทำกินที่ไร้ขีดจำกัด เพียงแต่ต้องหาช่องทางให้เจอ อย่างเช่นนายบุ่ยหว่างบ๋าย (Bui Hoang Bai) เกษตกรวัย 39 ปี เลี้ยงมาแล้วแทบจะทุกอย่าง ที่หลายครอบครัวในละแวกเดียวกันนิยมเลี้ยงส่งขาย ตะพาบน้ำก็เลี้ยง ปลาไหลก็เลี้ยงและยุ่งยากเอาการ ไม่ต้องพูดถึงฟาร์มเลี้ยงกบ เลี้ยงกุ้งหอยปูปลาต่างๆ ที่ผุดขึ้นมาราวดอกเห็ด ใน อ.ฟุงเหียบ (Phung Hiep) จ.เหิ่วซยาง (Hau Giang) บ้านเกิดของเขา
กำลังโหลดความคิดเห็น