xs
xsm
sm
md
lg

ลาวเลื่อนยศบิ๊กทหาร ตั้งพลโท 2 คน ครั้งแรกในเกือบ 20 ปี ขึ้นพลตรี-พลจัตวาอีกอื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บิ๊กกองทัพประชาชน -- จากซ้ายมือไปขวา: พล.ต.สุบัน หุนนะจำปา รอง หน.กรมใหญ่การเมืองฯ, พล.ท.จันสะหมอน จันยาลาด รมช., พล.ท.แสงนวน ไซยะลาด รมว., พล.ต.ทองลอย สิหลิวง ผอ.สถาบันป้องกันประเทศไกสอน พมวิหาน, (ว่าที่) พล.ต.วิไล หล้าคำฟอง หน.กรมใหญ่การเมืองฯ กับ พล.ต.พูวง วงพม หน.กรมใหญ่พลาธิการ -- นั่งขวาสุดของแถวที่ 2 คือ (ว่าที่) พล.ต.แอสะไหม เลืองวันไซ หน.กรมใหญ่เทคนิค. -- ภาพ: หนังสือพิมพ์ ปะเทดลาว.

โดย วุฒิพงษ์ หลักคำ-บุญญะสาร

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ลาวได้ปรับเลื่อนยศชั้นให้นายทหารระดับสูงนับสิบคน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ ที่กระทรวงป้องกันประเทศและกองทัพประชาชน มีนายทหารยศพลโทพร้อมกัน จำนวน 2 นาย นอกจากนั้น ยังปรับเลื่อนยศระดับรองหัวหน้ากรมใหญ่ของทัพประชาชนขึ้นเป็นนายพลตรีอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นครั้งแรกเช่นเดียวกัน ในคราวเดียวกันนี้ยังมีการแต่งตั้งหัวหน้ากรมใหญ่การเมือง กับหัวหน้ากรมใหญ่พลาธิการคนใหม่ของกองทัพอีกด้วย

พิธีประกาศการแต่งตั้งจัดขึ้นวันพฤหัสบดี 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่กระทรวงป้องกันประเทศ นครเวียงจันทน์ โดยเลื่อนยศ พล.ต.แสงนวน ไซยะลาด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงป้องกันประเทศ ขึ้นเป็นนายพลโท เช่นเดียวกับ พล.ต.จันสะหมอน จันยาลาด รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ เป็นการเลื่อนยศชั้นทดแทน หลังจาก พล.ท.ดวงใจ พิจิต อดีตรัฐมนตรีว่าการฯ เสียชีวิตในเหตุเครื่องบินตก ที่แขวงเชียงขวาง เดือน พ.ค.ปีนี้ ทำให้เกิดมีนายพลโท 2 คนพร้อมกัน ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในช่วงเกือบ 20 ปีมานี้

สื่อของทางการกล่าวว่า การแต่งตั้งครั้งนี้ เป็นไปตามความเรียกร้องต้องการของงานป้องกันประเทศ และเป็นไปตามดำรัสประธานประเทศ ตามกฎหมายว่าด้วยนายทหาร กับการนำเสนอของนายกรัฐมนตรี หลังจาก พล.ท.ดวงใจ ถึงแก่กรรมเมื่อเกือบ 4 เดือนก่อน ดำรัสฉบับเดียวกันยังเลื่อนยศนายทหารระดับสูงอีก จำนวน 4 นาย เป็นพลตรี คือ พล.จ.ทองลอย สิหลิวง ผู้อำนวยการวิทยาลัยป้องกันชาติไกสอน พมวิหาน, พล.จ.สุบัน หุนนะจำปา รองหน.กรมใหญ่การเมือง, พล.จ.พูวง วงพม รอง หน.กรมใหญ่พลาธิการ กับ พล.จ.แอสะไหม เลืองวันไซ หน.กรมใหญ่เทคนิค

นอกจากนั้น ยังแต่งตั้ง พล.จ.วิไล หล้าคำฟอง รองหัวหน้ากรมใหญ่การเมืองกองทัพ ขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้ากรมใหญ่แห่งนี้ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ควบโดย พล.ท.แสงนวน เมื่อครั้งยังเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ และเลื่อนตำแหน่ง พล.ต.พูวง ซึ่งรักษาการตำแหน่งหัวหน้่ากรมใหญ่พลาธิการฯ ขึ้นเป็นหัวหน้ากรมใหญ่ดังกล่าว แทน พล.ต.สุเพ็ด ไพวิสิด ซึ่งอยู่ในตำแหน่งนี้มาเป็นเวลากว่า 10 ปี

สื่อของทางการไม่ได้กล่าวถึงการเลื่อนยศของ พล.จ.วิไล ซึ่งจะต้องขึ้นเป็นนายพลตรีโดยตำแหน่งอีก 1 คน และผู้ดำรงตำแหน่งในส่วนหัวของกองทัพประชาชนเหล่านี้จะได้เป็นกรรมการศูนย์กลางพรรค ซึ่งเป็นองอค์กรกำหนดนโยบายของพรรคประชาชนปฏิวัติลาวและรัฐบาลอีกด้วย

ภายใต้คำสั่งเดียวกันนี้ พล.ท.แสงนวน ได้กลายเป็นประธานคณะกรรมการรักษาความสงบชายแดนลาว-ไทย และ พล.ต.สุวอน เลืองบุนมี หัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการกองทัพ ได้เลื่อนชั้นขึ้นควบตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอีกตำแหน่งหนึ่ง

พร้อมกันนี้ ก็ได้มีการเลื่อนยศให้แก่นายทหารระดับหัวหน้ากรม กับระดับรองผู้บัญชาการทหารแขวง อีก 4 นาย ขึ้นเป็นนายพลจัตวา คือ พ.อ.ปะสิด เที่ยงทำ ผู้บังคับกองพันที่ 4 พ.อ.วงสัก พันทะวง รองหัวหน้ากรมใหญ่พลาธิการกองทัพ พ.อ.บัววัน เพ็งบุนทัน หัวหน้าการเมืองกองบัญชาการทหารแขวงสะหวันนะเขต กับ พ.อ.บุนเลี้ยง แสงพะจัน หัวหน้ากรมป้องกันภายใน
.
<FONT color=#000033>พล.ต.แสงนวน ไซยะลาด ในภาพแฟ้มสำนักข่าวสารปะเทดลาว ได้รับเลื่อนยศเป็นนายพลโทในสัปดาห์นี้ และกำลังจะมีดาวทองดวงที่ 3 ประดับบนบ่า ในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศ อันเป็นตำแหน่งสูงสุดและยศสูงสุด ในกระทรวงฯ กับกองทัพประชาชน พล.ท.แสงนวน ได้กลายเป็นประธานคณะกรรมการรักษาความสงบชายแดนลาว-ไทย คนใหม่.</b>
2
<FONT color=#000033>พล.ต.จันสะหมอน จันยาลาด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงป้องกันประเทศ ในภาพแฟ้มหนังสือพิมพ์ กองทัพประชาชน เมื่อปีที่แล้ว สัปดาห์นี้ได้รับการเลื่อนยศขึ้นเป็นนายพลโทคนที่ 2 ของประเทศ หลังจากที่ไม่เคยมีมาก่อนเลยในรอบเกือบ 20 ปีมานี้ ในขณะที่นายทหารระดับรองหัวหน้ากรมใหญ่ฯ ต่างได้รับการเลื่อนยศขึ้นเป็นนายพลตรี ซึ่งก็เป็นเรื่องใหม่เช่นกัน. </b>
3
<FONT color=#000033>พล.ต.สุวอน เลืองบุนมี หัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการกองทัพ ในภาพแฟ้มจากหนังสือพิมพ์กองทัพประชาชนปลายปีที่แล้ว ได้รับการแต่งตั้งขึ้นควบตำแหน่ง รมช.กระทรวงป้องกันประเทศอีกตำแหน่งหนึ่ง. </b>
4
<FONT color=#000033>พล.ท.ไอ่ สุลิยะแสง ระหว่างปราศรัยในโอกาสวันครบรอบปีสำคัญของกองทัพเมื่อปีที่แล้ว ในภาพแฟ้มหนังสือพิมพ์กองทัพประชาชน นี่คือ นายพลโทคนสุดท้ายในกองทัพ ที่ตกค้างมาจากยุคสงครามเย็น และ เกษียนอายุเมื่อหลายปีก่อน ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ในขณะที่รัฐมนตรีว่าการขณะนั้นคือ พล.ต.ดวงใจ พิจิต กระทรวงป้องกันประเทศและกองทัพประชาชนลาว ไม่เคยแต่งตั้งนายพลโทเกินกว่า 1 คน อีกเลยในรอบเกือบ 20 ปี จนกระทั่งสัปดาห์ที่แล้ว.  </b>
5
นายบุนยัง วอละจิต กรรมการกรมการเมืองพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ผู้ชี้นำแนวคิด และทฤษฎีของพรรค และรองประธานประเทศ ซึ่งเป็นประธานในพิธีเมื่อวันพฤหัสบดี ได้กำชับให้บรรดานายทหารที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ “เอาใจใส่งานการเมืองแนวคิด ปฏิบัติแนวทางนโยบายของพรรค รวมทั้งเนื้อหาในจิตใจมติของกองประชุมใหญ่ครั้งที่ 9 ของพรรค (ปี 2554- บก.)” มติและแผนงานทั้ง 26 โครงการ ของกระทรวงป้องกันประเทศ

นอกจากนั้น บรรดานายทหารระดับสูง ยังจะต้องปรับปรุงและพัฒนาขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ เข้าร่วมส่วนในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของชาติ ป้องกันความสงบ รักษาความเป็นระเบียบ และปกป้องทรัพยกรธรรมชาติตามแนวชายแดน เข้าร่วมส่วนแก้ไขปรากฏการณ์ย่อท้อในองค์กร เป็นกำลังสำคัญของพรรค และอำนาจการปกครองท้องถิ่นต่างๆ อีกด้วย หนังสือพิมพ์ “ปะเทดลาว” สื่อออนไลน์ของกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว รายงาน

การแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญของกองทัพครั้งล่าสุด ได้แสดงให้เห็นการกลับคืนสู่ระบบอาวุโสแบบเดิมอีกครั้งหนึ่ง เช่นเดียวกับเมื่อครั้ง พล.อ.คำไต สีพันดอน ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงป้องกันประเทศ และ พล.ท.จูมมะลี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ ซึ่งในช่วงปีโน้นได้มีการแต่งตั้งนายทหารยศพลโทอีกหลายนาย เข้าดำรงตำแหน่งในระดับหัวหน้ากรมใหญ่ กับรัฐมนตรีช่วยว่าการ ซึ่งรวมทั้ง พล.ท.สีพอน ผาลีขัน อดีต รมช. พล.ท.ไอ่ สุลิยะแสง อดีตหัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการฯ และ พล.ท.โอสะกัน ทำมะเทวา อดีตหัวหน้ากรมใหญ่การเมืองฯ ด้วย

แต่นายทหารยศพลโทได้หมดลง พร้อมกับการเกษียณอายุราชการ และการถึงแก่กรรมของบุคคลเหล่านี้

พล.อ.คำไต ได้รับเลือกขึ้นเป็นเลขาธิการใหญ่พรรคประชาชนปฏิวัติลาว ปี พ.ศ.2535 สืบต่อจากนายไกสอน พมวิหาน ที่เสียชีวิตลงกะทันหัน และได้ควบตำแหน่งประธานประเทศอีกตำแหน่งหนึ่งสืบต่อจาก นายหนูฮัก พูมสะหวัน มาจนถึงปี พ.ศ.2549 ซึ่งเป็นช่วงเวลาการอยู่ในอำนาจที่ยาวนานมาก

พล.ท.จูมมะลี ได้ขึ้นสืบทอดตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศ โดยไม่มีการแต่งตั้งนายทหารยศพลโทในกองทัพเพิ่มเติมอีก ยกเว้น พล.ท.ไอ่ ที่ยังดำรงตำแหน่ง รมช.อาวุโสต่อมาอีกระยะหนึ่ง ก่อนจะออกไปรับตำแหน่งในสหพันธ์นักรบเก่าจนเกษียณอายุ ในยุค พล.ท.ดวงใจเป็นรัฐมนตรี

เมื่อปี 2549 พล.ท.จูมมะลีได้รับเลือกขึ้นสืบทอดตำแหน่งผู้นำสูงสุดของพรรค ต่อจาก พล.อ.คำไต เป็นสมัยแรก เป็นช่วงที่ พล.ต.สุดใจ ซึ่งในขณะนั้นเป็นทั้ง รมช.และหัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการกองทัพ ได้รับการแต่งตั้งขึ้นว่าการแทน รมว.ป้องกันประเทศคนใหม่ ครองยศนายพลตรีต่อมาเป็นเวลากว่า 2 ปี จึงได้เลื่อนยศขึ้นเป็นนายพลโท เพียงคนเดียวของกระทรวงฯ และกองทัพ จนถึงวันถึงแก่กรรม.
กำลังโหลดความคิดเห็น